สาวคู่กรณี พนักงานดึงหู โพสต์เคลียร์ทุกประเด็น ยังไม่ชัดเจน เอาเรื่องถึงที่สุดหรือยอมความ

5 เม.ย. 64

จากประเด็นร้อนที่สาวคนหนึ่งไปสมัครงานที่ ร้านอาหารหรู ไวน์ คอนเนคชั่น (Wine Connection) แต่กลับถูก พนักงานดึงหู กระชากแมสก์ กลายเป็นเรื่องราวลุกลามกระทั่ง พนักงานดึงหู พ้นสภาพการเป็นพนักงาน

ร้านอาหารดังสั่งพ้นสภาพ พนักงานดึงหู กระชากแมสก์ คนมาสมัครงาน

ล่าสุดมีความคืบหน้า จากเฟซบุ๊กส่วนตัวของสาวผู้เสียหาย ระบุว่า "เรื่องที่จะขอชี้แจ้งในวันนี้นะคะ
ทุกคนคงทราบดีว่าสองสามวันมานี้มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นกับตัวหนู ซึ่งมีหลายคนมากที่ได้เข้าใจและอยู่ข้างๆหนู ซึ่งหนูขอบคุณพี่ๆทุกคนมากๆ และหนูก็ขอยืนยันว่าสิ่งที่หนูพูดไปในไลฟ์สดนั้น หนูไม่ได้แต่งเรื่องหรืออะไรทั้งสิ้น
เรื่องที่หนูอยากจะพูดนะคะ

1) เรื่องคดีความ
เนื่องจากตอนนี้หนูยังเอาผิดอะไรทางนั้นไม่ได้นะคะ เพราะทางกฎหมายแล้วยังไม่ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย เท่าที่ตำรวจได้พูดมานะคะ ตอนแรกก็ว่าจะรอเอาคลิปมาดูไปๆมาๆอย่างที่ทุกคนรู้กันว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเอาคลิปมาให้หนูได้ เนื่องจากทางร้านไม่ได้เสียบปลั๊กเนื่องด้วยสถานะการโควิคหรือร้านปิดตัวไปนานนี้แหละหนูจำได้ไม่หมดเลยขอไม่พูดส่วนนี้นะคะ สรุปก็คือไม่มีหลักฐานเอาผิด แต่ถ้าหนูติดใจเอาความทางตำรวจก็จะดำเนินการให้ในส่วนนี้

2) เรื่องการพูดเร็วในไลฟ์สด
ทำให้ใครหลายๆคนตำหนิหนูมา หนูน้อมรับนะคะ และหนูจะนำไปแก้ไขปรับปรุงตัวเอง หนูดูไลฟ์เองก็ยังคิดว่าทำไมพูดเร็วขนาดนี้ แต่ตอนนั้นหนูตื่นเต้นมากด้วยค่ะ หนูไม่เคยมีไมค์มาจ่อหน้าแบบนี้มากก่อน แล้วหนูก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดแบบไหน พิธีการยังไง อารมณ์หนูก็เหมือนเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังค่ะ ส่วนนี้น้อมรับคำติชม ที่พูดจาไม่ดี แต่หนูอยากให้ทุกคนที่คอมเม้นแรงๆย้ำคิดสักนิด ว่าสิ่งที่พิมพ์มานั้นมันแรงไปรึเปล่า ส่วนตัวหนูหนูโอเครนะคะ แต่พ่อแม่ครอบครัวหนูเค้าต้องมาเจอแบบนี้มาเห็นคนที่ด่าลูกตัวเอง เค้าก็เครียดแทนหนู หนูอยากให้พี่ๆช่วยหยุดใช้ถ้อยคำที่รุนแรง และตำหนิติเตียนหนูด้วยคำแนะนำดีๆให้หนูพัฒนาด้านการพูดการวางตัวจะดีกว่า

3) เรื่องพี่คนในคลิป ตอนนี้พี่เค้าติดต่อหนูมาแล้วนะคะเมื่อวันพุธที่ เวลา 16.57 น. และหนูขอโทษจริงๆ ที่เพิ่งจะตอบไปเมื่อวานเนื่องจากคนแชทมาหาหนูเยอะมากทำให้ไม่เห็นแชทพี่เค้า สำหรับหนูแล้วถ้าเค้าเค้าสำนึกผิดจริงๆหนูก็ไม่อยากติดใจเอาความอะไร เพราะสิ่งที่พี่เค้าเจอมันก็คงหนักพอสมควรแล้ว และหนูหวังว่าเหตุการณ์ในวันนั่นมันจะเป็นบทเรียนที่มีค่าของหนู และพี่เค้าในการทำงานและการใช้ชีวิตต่อไป และหนูหวังว่าการตัดสินใจของหนูในเรื่องนี่ไม่ว่าหนูจะยอมความหรือจะสู้คดี อยากให้พี่ๆ และคนรอบข้างของหนูเคราพในการตัดสินใจของหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ

และในส่วนของเรื่องหลาน มีหลายคนบอกว่าไปสมัครงานเอาหลานไปทำไม คือหนูคิดว่าไปสัมภาษณ์เสร็จจะไปกินบิงซูกันต่อ และหลานหนูก็นั่งรออยู่ตรงโซนที่นั่งที่ทางห้างเตรียมไว้ไม่ได้ไปนั่งในส่วนร้านนะคะ หนุอยากให้ทราบในจุดนี้ด้วย

ที่สำคัญหนูอยากให้ทุกคนเข้ามาสอบถามและดูที่เฟสหนูจะดีกว่า อย่างน้อยฟังจากเจ้าตัวคงดีที่สุดแล้ว แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณสื่อที่ช่วยกระจายข่าวของหนู และที่สำคัญกำลังใจจากพี่ๆทุกคนที่มีให้หนูแม้ว่าจะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ยังปกป้องหนู หนูเห็นทุกคอมเม้นที่ออกตัวแทนหนู และอธิบายเรื่องราวให้บางคนที่ยังไม่ได้ติดตามข่าวนี้ได้รับทราบถึงเรื่องราว หนูไม่รู้จะขอบคุณพวกพี่ๆและน้องๆยังไงแต่ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

ปล.ตอนแรกหนูจะอัดวิดิโอแต่เสียงที่บ้านดังมาก ทั้งแมวร้อง ทั้งพ่อเรียกกินข้าวทุก 5 นาที เลยพักอัดคลิปมาพิมพ์แทนดีกว่า ขอบคุณที่ติดตามข่าวสารนะคะ ต่อจากนี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทางตำรวจต่อไป ถ้าเรื่องจะเงียบหรือพี่คู่กรณีไม่อยากมาขอโทษ หรือเปิดใจคุยกันซึ่งๆหน้า อันนี้หนูคิดว่าคงเป็นสิทธิของเค้า แต่ในส่วนสิทธิของหนูหนูคิดว่าหนูปกป้องตัวเองและทำเต็มที่แล้ว ขอบคุณค่ะ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ