เจ้าสำนักพาสื่อดูถ้ำพระไทรงาม เจอฤๅษีเผยความสะพรึง 2 ศพเซ่นเหล็กไหล (คลิป)

หลังจากพระสงฆ์ที่ธุดงค์เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานภายในถ้ำพระไทรงาม หมู่ 8 บ้านดงงูใหม่ ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา ติดอยู่ภายในถ้ำเนื่องจากมีน้ำป่าท่วมบริเวณปากถ้ำ-ภายในถ้ำนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ระดมคนครึ่งพันช่วยพระธุดงค์ติดถ้ำ สื่อบุกจุดวิกฤตน้ำป่าทะลักปิดทางออก

ล่าสุด วันที่ 7 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือพระมนัส พระธุดงค์ที่ติดอยู่ในถ้ำ ออกมาจากในถ้ำได้สำเร็จ

เวลา 15.30 น. พระพิโมกข์ เจ้าอาวาสที่พักสงฆ์ถ้ำพระไทรงาม และ กก.4 บก.ปทส ได้พาทีมข่าวเดินทางเข้าในถ้ำพระไทรงาม ซึ่งระหว่างที่ลงพื้นที่เส้นทางเข้าค่อนข้างจะลำบาก ทางลาดชัน มีระดับพื้นผิวไม่เท่ากัน และมีน้ำขัง จุดแรกที่เดินเข้าไปถึง คือบริเวณถ้ำชั้นสอง เชื่อว่าเป็นบัลลังก์ของพญานาค เพราะมีที่ราบคล้ายกับจุดที่ให้พญานาคนอนได้

ห่างจากปากถ้ำประมาณ 30 เมตร เป็นบริเวณถ้ำชั้นสามคือ บริเวณหอพระ หรือหัวใจของถ้ำ มีพระแก้วมรกตความสูงระดับเองอยู่ พบกับฤๅษีที่เข้ามาปฏิบัติธรรม แต่งกายด้วยชุดสีขาวนั่งปฏิบัติธรรม พร้อมอุปกรณ์การเดินป่า ได้แก่ เต็นท์ อุปกรณ์ยังชีพ เตาไฟฟ้า กาน้ำร้อน ไฟฉาย เทียน และใกล้กับพระแก้วมรกต มีที่นั่งสำหรับการสวดมนต์

อาจารย์เลิศบูรพา หรือ นายบุญเลิศ เรืองทิม อายุ 63 ปี เปิดเผยว่า ตนใช้เวลาเกือบ 10 ปีในการค้นคว้า ปฏิบัติธรรม ตนจะมาช่วงหน้าแล้ง และใช้เวลาในการภาวนา 3 วัน 3 คืน ตนมาเมื่อวานนี้ และวันนี้คือวันที่ 2 เส้นทางของถ้ำแห่งนี้หาที่สิ้นสุดไม่ได้ และถ้ำแห่งนี้ถ้ามองในมุมมองของคนที่มาเที่ยวเล่น คงจะเหมือนถ้ำทั่วไปที่ดูสวยงาม แต่ถ้าเข้ามาเพื่อทำการค้นพบนั้นจะขึ้นอยู่กับศีล และบุญบารมีของคน โดยในถ้ำมีคนเข้ามา 2 ประเภท คือเข้ามาค้นพบ เพราะจุดเชื่อมระหว่างโลกกับเทวโลก และประเภทที่ 2 คือ เข้ามาแสวงหาวิชา หรือเดรัจฉานวิชา เช่น เข้ามาแสวงหาเหล็กไหลไพรดำ ซึ่งเป็นของที่มีพุทธคุณสูง ถ้าความรู้ไม่ถึงและเอาออกไม่ได้ จะมีพิษภัยกับตัวเอง

นอกจากนี้ สมัยพระพุทธกาล ตอนที่พระพุทธเจ้าจะบวชได้อธิษฐานจิต และปลงผมลงถาดทองคำ ถาดทองคำได้ไหลไปตามน้ำตกใต้ก้นบึ้งของน้ำ ซึ่งมีผู้ดูแลคือพญานาคกัณหาโคตมะ หากเข้าไปภายในถ้ำแห่งนี้จะสังเกตเห็นว่ามีร่องรอยคล้ายเกล็ดพญานาค ยาวประมาณ 100 เมตร ลึกลงไปอีกเป็นบริเวณสะดือถ้ำ ซึ่งมีเสาตรงกลางถ้ำ เชื่อว่าเป็นจุดชุมนุมของทวยเทพ หากเข้าไปถึงข้างในจะมีป่าหิน คล้ายหมู่เมฆเชื่อว่าเป็นเทือกเขาพระสุเมรุ

ก่อนหน้านี้ มีคนเคยเอาชีวิตมาทิ้งกันหลายคน เมื่อปี 2501 มีฤๅษี 1 องค์ กับลูกศิษย์ 1 คนเข้ามาถายในถ้ำ และเสียชีวิตปริศนา

ส่วนเมื่อคืนนี้ ขณะที่ตนสวดมนต์กู้ภัยก็วางแผนเพื่อเข้าช่วยเหลือ ตนมาปฏิบัติธรรมไม่เคยรู้ว่ามีพระติดอยู่ด้านบน ระหว่างที่สวดมนต์ เป็นครั้งแรกที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยมทูตว่ามีอยู่จริง คล้ายเห็นเงาทะมึนอยู่รอบข้าง ตนจึงแผ่เมตตาเพื่อถอนคำสาป และตัดบ่วงเวรบ่วงกรรม เพราะคนที่เฝ้าอยู่นี้อยากจะไป หาตัวตายตัวแทน ซึ่งโชคดีที่เปิดทาง เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างดีเยี่ยม จึงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้เดินทางไปบริเวณที่มีธารน้ำไหล ซึ่งใกล้กับจุดที่น้ำท่วมปิดคอถ้ำ ลักษณะธารน้ำไหลตลอด ระดับน้ำประมาณข้อเท้า แต่ถ้าเข้าไปด้านในจะสูงถึงเอว ลักษณะพื้นค่อนข้างจะลื่นมาก และพื้นไม่สม่ำเสมอกัน

พระพิโมกข์ เจ้าอาวาส ที่พักสงฆ์ถ้ำพระไทรงาม เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่ นักแสวงบุญจะเข้ามาสวดมนต์ภาวนา โดยเฉพาะในฤดูแล้ง เพราะบรรยากาศจะดีมาก และอากาศถ่ายเท มีลมวิ่งตลอด อีกทั้งตามความเชื่อเกิดนิมิตเห็นพญานาค เมื่อ 3 ปีที่แล้ว อาตมาฝันเห็นพญานาครัดเต็นท์ ซึ่งเป็นที่นอนของอาตมา ตื่นมามีโยมมาขอสร้างพระนาคปรก หลังจากนั้นก็ไม่เคยเห็นอีก ซึ่งไม่เคยมีใครเห็นพญานาคจริง ๆ เห็นแต่งูจงอาง นอกจากนี้ยังมีความเชื่อและอาถรรพ์หลายอย่าง เช่น ถ้าใครทำอะไรไม่ดีจะเกิดภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ทั้งที่ไม่มีฝนตก

เมื่อหลายปีก่อน เคยมีพระสงฆ์เข้าไปภาวนาและเสียชีวิต โดยที่ไม่มีใครระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ อีกทั้งสมัยบุกเบิกประมาณ 40 ปีที่แล้ว มีพ่อขาวหรือหลวงปู่ฤๅษีเข้ามาในถ้ำและหายสาบสูญไป สาเหตุที่เป็นเช่นนี้อาจจะเข้าไปล่วงเกินบางอย่าง โดยเหล็กไหล เป็นความเชื่อของชาวบ้าน ซึ่งจะนำไปทำพิธี แล้วแต่จุดประสงค์ของแต่ละคน ส่วนเหตุการณ์ที่พระมนัสเข้าไปติดในถ้ำ หากมองอีกมุมหนึ่งมาจากมีความเชื่อว่าเพราะพายุเข้า แต่ถ้ามองตามความเชื่อของคนพื้นที่พระมนัสไปนอนบนที่สูงในบริเวณที่มีแอ่งน้ำ และหินย้อย ตามความเชื่อเป็นที่นอนของพญานาค คล้ายกับไปนอนทับที่