วันที่ 12 ก.ค. 61
นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยหลังจบรายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศทางอมรินทร์ทีวี ช่อง 34 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.20 น. โดยเปิดเผยว่า ภารกิจช่วยทีมหมูป่า อะคาเดมี ในครั้งนี้ มีความกดดันมาก เพราะถูกกดดันจากต่างชาติ ซึ่งการทำภารกิจมีชาวต่างชาติเข้ามาช่วยจำนวนมาก แต่ลักษณะนิสัยของชาวต่างชาติคือ ถ้าใครไม่มีความรู้ และไม่มีความสามารถจะไม่เชื่อถือ แต่ชาวต่างชาติทุกคนเชื่อฟังหน่วยซีล และยอมรับในความสามารถของหน่วยซีล ปฏิบัติตามแผนของหน่วยซีลทุกขั้นตอน ซึ่งหลังจากจบภารกิจแล้ว ชาวต่างชาติต่างยอมรับว่า หน่วยซีลทำงานเก่งสุดยอดมาก
ด้าน
นายอภิชาติ สุขสมบูร์ ผู้ปฏิบัติงานลำเลียงถังอากาศ กล่าวว่า ความยากของภารกิจนี้คือการเดินลุยน้ำที่มีแรงดันสวนออกมาจากถ้ำ ซึ่งขณะนั้น น้ำยังท่วมมาก และต้องแบกถังอากาศพร้อมกัยนทั้ง 2 ถัง เข้าไปวางไว้ที่โถง 3 ซึ่งมีน้ำหนักรวม 60 กิโลกรัม และสภาพภายในถ้ำที่มีความแตกต่างมาก ทั้งเนินสูง และแอ่งน้ำที่ต้องดำน้ำผ่านเข้าไป สลับกับพื้นดินก้อนหินที่ขวางทางอยู่ด้วย
ด้าน
นายปัญญาวุธ มีสมพล ผู้ปฏิบัติงานลำเลียงถังอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อทราบข่าวจ่าแซม ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะที่ตนเคยทำงานร่วมกับจ่าแซม ก็รู้สึกตกใจ และหดหู่มาก แต่เมื่อได้เห็นหน่วยซีลทำงานโดยไม่ย่อท้อ จึงทำให้ตนเองมีกำลังใจ และกลับไปช่วยภารกิจต่อจนลุล่วงไปได้
นอกจากนี้
นายจงคล้าย กล่าวต่อว่า ทุกหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ ต้องปฏิบัติงานตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติร่วมประชุมกันตลอด โดยผู้เชี่ยวชาญต่างชาติที่ได้ข้อมูลจากหน่วยซีลที่เคยดำน้ำไปถึงโถง 3 ได้จำลองเหตุการณ์ภายในถ้ำทั้งการเดิน การดำน้ำ และทางอากาศที่อยู่ภายในถ้ำ ซึ่งการทำงานทั้งหมด ต้องทำแข่งกับเวลา นักดำน้ำที่ต้องเข้าไปในถ้ำหลวง ต้องจำลองการวางถังอากาศกับระยะทางของถ้ำ รวมถึงจำลองการเดินทางว่าต้องใช้เวลาเท่าใด ก่อนจะแผนการวางถังอากาศในถ้ำหลวงทุก ๆ 25 เมตร ภายในถ้ำ ที่ใช้ในการลำเลียงทีมหมูป่าทั้ง 13 คน จนสามารถช่วยออกมาได้สำเร็จ และปลอดภัยทุกคน