เปิดภาพนาที ดำน้ำกู้ศพสุดท้าย เรือฟีนิกซ์ทับ สุดยากฝ่าคลื่นวางท่อดูดทราย (คลิป)

จากกรณีเรือท่องเที่ยวฟีนิกซ์ล่มกลางทะเลอันดามันทางทิศใต้ของเกาะเฮ บริเวณระหว่างเกาะเฮและเกาะราชา เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากนั้น

วันที่ 12 ก.ค. 61 ได้มีการเริ่มปฏิบัติการกู้ร่างผู้เสียชีวิตรายสุดท้ายจากเหตุการเรือท่องเที่ยวฟีนิกซ์ล่มที่ จ.ภูเก็ต โดยเรือหลวงทองหลางพาทีมประดาน้ำกองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย GUANGZHOU SAlVAGE ประเทศจีน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรม จ.ภูเก็ต ออกจากท่าเทียบเรือแหลมพันวา ที่ตั้งของศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน ในเวลา 05.45 น. ท่ามกลางคลื่นสูง 2-3 เมตร และเดินทางมาถึงบริเวณที่เรือฟินิกซ์จมลงทางทิศใต้ของเกาะเฮ ระหว่างเกาะเฮและเกาะราชาในเวลา 06.45 น. เบื้องต้นทีมประดาน้ำจากกองทัพเรือก็ลงไปผูกเชือกที่ตัวเรือฟินิกซ์เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้นักดำน้ำชุดต่อไป และตรวจสอบบริเวณตัวเรือที่จมลงว่าร่างผู้เสียชีวิตยังอยู่ในจุดเดิมหรือไม่ เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้นจึงมีการทดสอบเครื่องดูดทรายในทั้งนี้ ตัวเครื่องดูดทรายเกิดความขัดข้องทำให้ยังไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการเร่งมือแก้ไข และเริ่มปฏิบัติการกู้ร่างผู้เสียชีวิตโดยจะนำท่อ Air Lift ที่ใช้ในการดูดทรายลงไปใต้น้ำ คลื่นลมกลับมีกำลังแรงขึ้นจนกระทั่งเรือเคลื่อนที่ไปไกลจากจุดที่จอดไว้ในครั้งแรก จึงต้องมีการตั้งลำเรือกลับมาจอดใหม่อีกครั้งให้ตรงจุดเดิม

ด้าน เรือเอกทองเจือ เฟื่องฟุ้ง ผู้การเรือหลวงทองหลาง ยังบอกอีกว่า  ตนก็มีความจำเป็นต้องขอยุติภารกิจทันที เนื่องจากบริเวณทะเลอันดามันหากมีฝนตกจะเกิดพายุฝนทันที โดยอาจมีความเร็วลมพุ่งสูงถึง 60 น็อต คลื่นสูง 4-5 เมตร ซึ่งเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติภารกิจ แม้กระทั่งขณะนี้ที่มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ก็จะต้องมีการตรวจสอบสภาพเรือและการเคลื่อนที่ของเรือตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ซึ่งขณะนี้นักประดาน้ำได้วางท่อ Air Lift ที่ใช้ในการดูดทรายเรียบร้อยแล้ว และได้ทดลองการทำงานในการดูดทรายของเครื่องดูดที่คิดค้นขึ้นมาโดยนักประดาน้ำเอง พบว่าสามารถทำงานได้ดี แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่มีคลื่นลมแรง สภาพร่างกายของนักดำน้ำ รวมถึงสภาพแสงอาทิตย์ที่มืดลง ซึ่งมีผลทำให้ต้องยุติภารกิจในวันนี้ โดยเมื่อกลับเข้าฝั่งจะมีการประชุมเพื่อวิเคราะห์ข้อจำกัดและข้อบกพร่องในการปฏิบัติงานวันนี้ รวมถึงวิเคราะห์สภาพอากาศเพื่อวางแผนการดำเนินงานในวันพรุ่งนี้ต่อไป

ซึ่งขณะนี้รวมจำนวนนักท่องเที่ยวผู้ประสบเหตุทั้งหมด 89 ราย รอดชีวิต 42 ราย ร่างผู้เสียชีวิตเเละเก็บกู้มาเเล้ว 46 ราย มีอีก 1 รายที่ติดอยู่ใต้ท้องเรือที่กำลังรอการเก็บกู้ หากการเก็บกู้จากใต้ท้องเรือสำเร็จก็จะครบ 47 ราย

ด้านช่อง CNN ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีการรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีกระแสในประเทศจีนให้มีการคว่ำบาตรและไม่มาท่องเที่ยฝนประเทศไทย และหากเกิดการคว่ำบาตรจริง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะว่า ที่มาผ่านมีนักท่องเที่ยวจีน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยถึง 10 ล้านคนต่อปี

ส่วนสำนักข่าว XINHUA ของประเทศจีน มีการรายงานข่าวการพบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือล่ม โดยมีการอ้างว่า ผู้เสียชีวิตยังส่วมเสื้อชูชีพ รวมถึงพกเงินธนบัตรของจีนและยาแก้เมาคลื่นอยู่ในตัว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตมีจำนวนมาก และยอมรับว่าเหตุเรือล่มดังกล่าวได้ความสนใจในประเทศจีนจำนวนมาก