พระมนัสเผยเคยอยู่ถ้ำนาน 39 วัน ย้อนวันติดกำไฟฉายดำน้ำ เรียงหินทิ้งรหัสนำทาง (คลิป)

กรณีพระมนัส ไปธุดงค์ภายในถ้ำพระไทรงาม บริเวณสำนักสงฆ์ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ต่อมามีปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 4-6 เม.ย. ทำให้บริเวณปากถ้ำและภายในถ้ำเต็มไปด้วยน้ำท่วมขังสูง พระมนัสที่อยู่ภายในถ้ำพระไทรงามไม่สามารถออกมาได้ ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนเข้ามาช่วยเหลือ โดยสามารถนำตัวพระมนัสออกมาจากถ้ำได้ในเวลา 11.30 น. ของวันที่ 7 เม.ย. 64

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พลิกแผนถ้ำหลวง 2 ช่วยพระระทึกใช้สูตร 4 ประกบกับจีวรและของ 4 ชิ้นทำรอด
- 3 ฤๅษีอึ้งลำแสงปริศนาโผล่ถ้ำพระไทรงาม เผยใครฉกเหล็กไหลออกถ้ำไม่ได้
- เจ้าสำนักพาสื่อดูถ้ำพระไทรงาม เจอฤๅษีเผยความสะพรึง 2 ศพเซ่นเหล็กไหล
- ระดมคนครึ่งพันช่วยพระธุดงค์ติดถ้ำ สื่อบุกจุดวิกฤตน้ำป่าทะลักปิดทางออก

วันที่ 8 เม.ย. 64 เวลา 11.30 น. ที่สำนักสงฆ์สระหลวงทองผาภูมิ พระณัฐภน เขมิโย หรือ พระมนัส กลับมาพักผ่อนหลังออกจากโรงพยาบาล โดยมีลูกศิษย์มาถวายอาหารเพล จากนั้นลูกศิษย์ได้ร่วมกันสรงน้ำพระมนัส เพื่อขอพรต้อนรับวันสงกรานต์

พระณัฐภน เขมิโย หรือ พระมนัส เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนหน้านี้เคยไปในถ้ำเพื่อฝึกปฏิบัติมาแล้ว 39 วัน โดยเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 64 ตนเข้าไปในถ้ำพระไทรงาม เพื่อตั้งใจไปปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ โดยได้เข้าไปที่โถงด้านใน ถัดจากจุดแอ่งกระทะประมาณ 200 เมตร ขณะที่ตนเข้าไปไม่มีน้ำ เพราะเป็นช่วงหน้าร้อน เมื่อเข้าไปถึงจุดเป็นเนินทราย สูงจากพื้นประมาณ 3 เมตร ตนได้เริ่มทำสมาธิภาวนาจิต ช่วงกลางดึกเริ่มได้ยินเสียงน้ำไหล แต่ยังไม่แรงมาก ก็ยังไม่เอะใจ

จนวันที่ 4 เม.ย. 64 ได้ยินเสียงน้ำไหลอย่างแรง มั่นใจว่าน้ำน่าจะเข้ามาท่วมในถ้ำแล้ว จึงตัดสินใจรีบเก็บของทั้งหมด และรีบเดินออกจากถ้ำ แต่เมื่อถึงแอ่งกระทะ พบว่าน้ำเต็มปิดเส้นทางออกแล้ว ตนจึงกลับมาตั้งหลักที่จุดเดิม จากนั้นน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ คิดว่าน่าจะท่วมถึงที่นั่งอยู่ จึงเริ่มออกสำรวจหาจุดอื่นที่พอไปหลบได้ กระทั่งพบว่ามีจุดที่เป็นเนินสูงกว่า 10 เมตร อยู่ห่างจากแอ่งกระทะประมาณ 20 เมตร จึงย้ายข้าวของและขึ้นไปอยู่ด้านบนในวันที่ 6 เม.ย. เวลาประมาณ 01.30 น. ซึ่งก่อนย้ายจุดตนได้เขียนข้อความบนทรายในถ้ำว่า "ย้ายไปอยู่โถงใหญ่ข้างหน้า" พร้อมวางก้อนหินชี้ลูกศรเอาไว้

หลังจากนั้น เมื่อย้ายมาอยู่ใกล้แอ่งกระทะ ก็เริ่มดูช่องทางที่จะออกจากถ้ำ ตั้งใจจะดำน้ำออกไป แต่ไม่มั่นใจว่าจะออกไปได้หรือไม่ จึงลองลงไปดำน้ำ ถอดจีวรออกเหลือเพียงสบง แล้วนำไฟฉายใส่กระป๋องปิดฝาที่ทำจากพลาสติกใส ทำให้มีแสงสว่าง และใช้ในน้ำได้โดยไม่เปียกน้ำ จึงลองลงไปดำน้ำพร้อมคลำหาทางออก ทำแบบเดิมอยู่ประมาณ 3 รอบ แต่ไม่สำเร็จ จึงมานั่งพัก คิดหาทางออก จากนั้นประมาณ 3 ชั่วโมง ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่คุยกันจึงตะโกนถามออกไปว่าเป็นใคร อีกฝ่ายตอบว่าเป็นเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยตน ตนจึงรีบเดินลงไปหาพบว่ามีเจ้าหน้าที่ 2 คนเข้ามา พร้อมขอกอดตนด้วยความดีใจ

พระมนัส เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนปลงตาย และเจริญมรนานุสติ ทำใจว่าตัวเองอาจจะต้องตายแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาช่วย เมื่อออกมาได้ก็ดีใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เข้ามาช่วยเหลือ เหตุที่ตนต้องเข้าไปปฏิบัติธรรมที่โถงจุดเกิดเหตุนั้น เพราะเคยเข้าไปที่จุดดังกล่าว และรู้สึกสงบ ทำสมาธิได้ดี จึงภาวนาว่าจะกลับมาปฏิบัติธรรม ก่อนไปก็มีเสียงมาเตือนว่าให้ทำตามสัญญา ตนจึงต้องไป แล้วจึงเกิดเหตุขึ้น

ซึ่งช่วงที่ปฏิบัติธรรมก็มักจะได้ยินเสียงแปลก ๆ ทั้งเสียงสวดมนต์ เสียงคนคุยกัน ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ในถ้ำ คิดว่าจัดดังกล่าวอาจจะมีภพภูมิอื่น ๆ อยู่ด้วย หลังจากนี้อีก 7 คืน ตนจะกลับไปปฏิบัติธรรมที่ถ้ำพระไทรงามอีกครั้ง เพราะได้ตั้งสัจจะไว้ว่าหากออกไปได้จะกลับมาอีก แต่จะอยู่โถงด้านนอก ไม่เข้าไปจุดเกิดเหตุ ส่วนกรณีมีข่าวเรื่องถ้ำเหล็กไหล ตนยืนยันไม่ได้สนใจเรื่องดังกล่าว เพราะเข้าไปปฏิบัติธรรม ไม่ได้หวังเรื่องอื่น