กรณีกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ประชุมชุดสืบสวนสอบสวน บก.ปทส. เพื่อพิจารณารวบรวมโอนคดีการกระทำผิดเรื่องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” และพรรคพวก จาก สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร มาให้พนักงานสอบสวน บก.ปทส. เป็นผู้ดำเนินการ หลังจากที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เรียกร้องให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง เข้าดูแลคดี เนื่องจากเป็นหน่วยงานเฉพาะด้าน และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ
ล่าสุดวันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 09.50 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” เดินทางมาพร้อมกับ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” สังเกตว่าลุงพล-ป้าแต๋น ใส่ชุดผ้าไหมสีเหลือง มาพร้อมกับยูทูเบอร์คนสนิท ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายธนาธร ทนันไทสง คอยดูแลลุงพลไม่ห่าง และยังคอยเป็นธุระจัดการกันสื่อ หรืออำนวยความสะดวกขึ้นลงรถ
การเดินทางมาที่ บก.ปทส.วันนี้ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล”, นายธีรพงษ์ แผนบุตร “ช่อง มะต๋อย Channel”, นายนิคม พละสิทธิ์ “ช่อง มานา สตอรี่” มารับทราบข้อกล่าวหา ในคดี “ร่วมกันทำผิดในการบุกรุกป่าสงวนเพื่อก่อสร้างพญานาค และร่วมกันตัดไม้ ทำไม้หวงห้าม (ไม้อาราง) ในเขตป่าสงวน” หลังจากมีการโอนย้ายคดีจาก สภ.กกตูม มายัง บก.ปทส. กรุงเทพฯ
แต่ในการเดินทางมาวันนี้ มีเพียงนายไชย์พล กับนายธีรพงษ์ แต่ไม่มีนายนิคม โดยเจ้าตัวได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลในจ.บึงกาฬ เนื่องจากป่วยด้วยอาการปวดกระดูกทับเส้นประสาท จึงได้ส่งใบรับรองแพทย์ ขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน แต่หลังจากนี้จะเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
หลังจากที่ นายไชย์พล นางสมพร นายธีรพงษ์ เดินทางมาถึงได้เข้าไปภายในห้องสอบสวนของ บก.ปทส. ซึ่งมีนายสมเกียรติ โรจนะวรกมล ทนายความส่วนตัว เดินทางมาเป็นทนายรับผิดชอบคดีให้กับลุงพลและกลุ่มยูทูบเบอร์
โดยการรับทราบข้อกล่าวหา ไม่ได้มีการแยกสอบเพิ่มเติม โดยให้ทั้งหมดนั่งอยู่ภายในห้องเดียวกัน จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหา และให้รับทราบข้อกล่าวหา ใน 2 คดี 1.ร่วมกันบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนเพื่อก่อสร้างพญานาค 2.ร่วมกันตัดไม้ ทำไม้ หวงห้าม ในเขตพื้นที่ป่าสงวน โดยใช้เวลาตั้งแต่ 10.00-13.20 น. รวมระยะเวลา 3 ชั่วโมง 20 นาที
ในเวลา 11.40 น. นายสมเกียรติ โรจนะวรกมล ทนายส่วนตัวของนายไชย์พล เดินออกจากห้องสอบสวน เพื่อมาแจ้งกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า ความคืบหน้าหลังจากที่เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนของ บก.ปทส. ตนยังจะไม่มีการชี้แจงอะไร แต่จะขอตั้งโต๊ะแถลงอย่างเป็นทางการที่บ้านกกกอก ในวันที่ 12 เม.ย.64 เพราะการแจ้งข้อกล่าวหาและพบกับพนักงานสอบสวนวันนี้ จะใช้เวลาค่อนข้างยาวนาน จึงไม่อยากให้สื่อมวลชนปักหลักรอเสียเวลา ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้ ถ้ากลุ่มยูทูบเบอร์จะว่าจ้างหรือให้ช่วยดูคดีใดเรื่องใด ตนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือตามวิชาชีพ
เวลา 13.20 น. นายไชย์พล วิภา, นางสมพร หลาบโพธิ์, นายธีรพงษ์ แผนบุตร “ช่อง มะต๋อย Channel”, นายสมเกียรติ โรจนะวรกมล ทนายส่วนตัวลุงพล เดินออกจากห้องสอบสวน หลังจากรับทราบข้อกล่าวหา เดินลงบันไดจากชั้น 3 ของอาคาร บก.ปทส. เพื่อจะเดินทางกลับบ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ทันที
ระหว่างนั้น นายสมเกียรติ โรจนะวรกมล ทนายส่วนตัวลุงพล เปิดเผยว่า วันนี้หลังจากพานายไชย์พล มารับทราบข้อกล่าวหา ยังไม่มีอะไรชี้แจงหรือพูดคุยตอน จะแถลงอย่างเป็นทางการวันที่ 12 เม.ย.64 ที่บ้านกกกอกเท่านั้น แต่วันนี้จบแล้ว ไม่มีอะไร ไม่สอบเพิ่ม ไม่กังวลอะไร และกรณีที่ ผบก.ปทส. ระบุว่า เตรียมที่จะเรียกยูทูบเบอร์เพิ่มอีก 2 คนนั้นก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ส่วนกรณีที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปสัมภาษณ์นายไชย์พลที่บ้าน ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจและการขออนุญาตจากนายไชย์พล แต่หากเป็นตนเมื่อพบเจอสื่อมวลชน ก็จะตอบข้อซักถามตามที่จะตอบได้
นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาเพื่อให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนของ บก.ปทส. และการเดินทางมาวันนี้ แม้ว่าจะเป็นการรับทราบข้อกล่าวหา แต่ไม่ได้มีการปรับรูปแบบหรือเงื่อนไขการประกันตัว จากเดิมที่ประกันตัวเอาไว้ที่ สภ.กกตูม ก็ตาม ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแค่มีการโอนคดีมาที่ส่วนกลางเท่านั้น
ส่วนกลุ่มยูทูเบอร์ ที่ถูกเรียกรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันบุกรุกพื้นที่ป่าและตัดไม้นั้น ตนไม่ได้มีความกังวลอะไร แต่วันนี้มีเพียงแค่นายธีรพงษ์ เดินทางมาเพียงคนเดียว ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มยูทูบเบอร์ คนอื่น หมายเรียกยังไปไม่ถึง แต่หากหลังจากนี้หมายเรียกไปถึง ยูทูเบอร์ที่ถูกออกหมายเรียก ก็คงจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
เวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” พร้อมด้วยทนาย และยูทูเบอร์ เดินทางมายื่นหนังสือ ต่อนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าว แต่มีลักษณะคุกคามสิทธิมนุษยชน และมีการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริง จนทำให้นายไชย์พล และครอบครัวได้รับความเดือดร้อน จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมต่อกรรมาธิการฯ ให้ช่วยให้ความเป็นธรรม
นายไชย์พล วิภา เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาในวันนี้ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและขอความอนุเคราะห์กับคณะกรรมาธิการฯ แต่ตนยังเคารพสื่อมวลชน แม้ว่าสื่อหลายสำนักจะนำเสนอข่าวที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริงก็ตาม
ด้านนายสิระ กล่าวว่า ตนจะรับเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณาหาข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ตนก็เคยลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร แล้ว ดังนั้นตนจะรับฟังความคิดเห็น และขอมติจากที่ประชุม แล้วจะเชิญสื่อมวลชนที่มีการกล่าวถึงมาให้ข้อมูลต่อไป
จากกรณีนายไชย์พล วิภา และนางสมพร หลาบโพธิ์ ลุงพลป้าแต๋น แห่งบ้านกกกอก เดินทางไปพบนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีโดนสื่อคุกคาม และนำเสนอข้อมูลบิดเบือน ทำครอบครัวเดือดร้อน
นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แปลก เพราะเมื่อก่อนลุงพลเป็นคนที่ออกมาขอบคุณสื่อที่ช่วยติดตามคดีน้องชมพู่ ตนจึงสงสัยว่าลุงพลคนเดิมไปไหน แต่มาวันนี้ลุงพลกับเล่นงานสื่อ สงสัยว่าพ่อปู่ปาริจิตกับแม่โสรภีต้องอยู่เบื้องหลังแน่นอน เนื่องจากเมื่อก่อนลุงพลรักสื่อมาก แต่หลังจากตั้งศาลพญานาค และศาลตะเคียน ลุงพลก็เปลี่ยนไป
หากลุงพล ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย จะไปกลัวสื่อทำไม เพราะสื่อนำเสนอข่าวแบบตรงไปตรงมาไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด สิ่งที่ลุงพลกับทีมงานทำลงไปสื่อไม่ได้ไปบอกหรือไปชี้นำ ลุงพลไปทำกันเอง เมื่อทำแล้วสื่อสงสัยจึงไปทำข่าว นำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สื่อไม่น่ากลัว ถ้าเราไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย
ขณะนี้ถ้าสื่อจะนำเสนออะไร ก็ไม่ให้ความร่วมมือ และมีการพูดเหน็บแนมสื่ออยู่ตลอดเวลา หาว่าเสนอข่าวลำเอียง แต่ความจริงสื่อไม่ได้ลำเอียง เสนอข่าวแบบตรงไปตรงมา เมื่อสังคมสงสัยสื่อจึงมีหน้าที่นำเสนอทุกด้าน ลุงพลจะให้สื่อทำแบบยูทูเบอร์ไม่ได้ คนที่อยู่เบื้องหลังลุงพลน่าจะเป็นพวกหิวแสง พวกที่กลัวเสียผลประโยชน์ อยากฝากถึงลุงพล และทีมงานทุกคนว่า ถ้าเราไม่ทำอะไรผิดกฎหมายจะไปกลัวสื่อทำไม วันนี้เมื่อสังคมสงสัย สื่อมีหน้าที่นำเสนอทุกด้านทุกมุม หรืออาการแบบนี้โดนปู่ปริจิตเข้าสิงแล้ว
สำหรับสาเหตุที่ลุงพลหันมาเล่นงานสื่อ เพราะสื่อไม่ทำตามใจลุงพล จึงไปร้องเรียนว่าสื่อเสนอข่าวไม่เป็นจริง ถ้าคนดูข่าวจะรู้ว่าสื่อนำเสนอข่าวแบบตรงไปตรงมา ไม่แปลกที่ลุงพลจะเล่นงานสื่อ เพราะไม่ชอบให้สื่อนำเสนอมุมที่ติดลบของตัวเอง ไม่เหมือนยูทูเบอร์ที่นำเสนอแต่ด้านดี ๆ ของลุงพล
นอกจากนี้ ยายจำลอง เพื่อนสนิทของลุงพล ได้ไลฟ์สดขณะที่ "น้าต่าย" น้องสาวของ "ป้าแต๋น" เข้ามาใกล้ชิดฝั่งบ้านลุงพล หลังจากที่ตาชาญ ผู้เป็นพ่อได้นัดเข้ามาเคลียร์ใจกันเป็นที่เรียบร้อย เพราะเดิมทีน้าต่าย จะสนิทกับฝั่งแม่น้องชมพู่ และยืนคนละฝ่ายกับลุงพล
น้าต่าย กล่าวว่า ตนไม่เคยโกรธป้าแต๋น และไม่ได้มีอะไรติดค้างในใจ เพียงแต่ช่วงแรก ๆ ที่กระแสโจมตีฝั่งแม่น้องชมพู่ ก็เลยถอยห่างออกมา เพราะหมอปลากับแม่น้องชมพู่ยังคืนดีกันได้ ฉะนั้นตนเป็นพี่น้องกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ตนยังเป็นเหมือนเดิม รักกันเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
