จากกรณีเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 64 เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนรถมอเตอร์ไซค์ ที่บริเวณถนนระหว่างหมู่บ้านตาแตรว-ทับดัด บ.ตาแตรว ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
โดยเหตุการณ์เกิดจาก นายธนกรณ์ อายุ 31 ปี ขับรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีส้ม 4 ประตู ชนกับรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ อย่างแรงจนอัดกระแทกเข้ากับต้นไม้ข้างทางทำให้ผู้ขับขี่คือ นายประสิทธิ์ มีรี หรือ นุ อายุ 19 ปี และนายภูมิพัฒน์ พุทธมาตย์ อายุ 19 ปี ซ้อนท้าย เสียชีวิตคาที่
และในขณะเกิดเหตุ นายธนากร ผู้ขับรถกระบะยังเดินลงไปกระทืบร่างของผู้เสียชีวิต พร้อมกับพูดท้าทายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์กลั้นอารมณ์ไม่อยู่ จึงรุมประชาทันฑ์ จนเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยต้องเข้าช่วยเหลือนำร่างนายธนากร ส่ง รพ.สังขะ อย่างทุลักทุเล
ขณะเดียวกันขับรถกระบะยี่ห้อฟอดร์เรนเจอร์ สภาพกันชนหน้าฝั่งซ้ายพังเพียงเล็กน้อย ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ อยู่ในสภาพพังยับเยิน ใช้งานไม่ได้ ล้อหน้าและหลังบิดเบี้ยวผิดรูป กันชนรอบคันหลุดออกจากคันรถ
วันที่ 12 เม.ย. 64 เมื่อเวลา 10.30 น. บรรดาญาติพี่น้องนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาเชิญอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต ชาวบ้านแห่กันมาร่วมด้วยจำนาวนมาก เพื่ออันเชิญวิญาณของ นายภูมิพัฒน์ พุทธมาตย์ และนายประสิทธิ์ มีรี ให้กลับบ้านจะได้ไปสู่สุคติ
ที่งานศพของนายประสิทธิ์ มีรี ตั้งอยู่ที่บ้านหมู่ 8 ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีเพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้นมาร่วมงาน 30 คน นำพวงหรีดมาแสดงความเสียใจ
พ.ต.อ.นิติพงศ์ ติวาชัยวิรัตน์ ผกก.สภ.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" และ "ขับขี่รถในขณะเมาสุรา" กับนายธนกรณ์ ซึ่งยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.ดม และจะฝากขังในวันที่ 14 เม.ย. 64 ซึ่งเป็นวันที่ศาลเปิดทำการ
น.ส.น้อย (นามสมมติ) พี่สาวของผู้ก่อเหตุ อายุ 36 ปี เปิดเผยว่า นายธนกรณ์ น้องชายเป็นโรคไบโพลาร์ ซึ่งมี 2 บุคลิกมากว่า 20 ปี ตั้งแต่เขาเป็นเด็ก และนายธนกรณ์ไม่ยอมไปรักษา
กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้วเพิ่งจะไปหาหมอ แต่น้องชายก็ไม่ยอมกินยาอย่างต่อเนื่อง ขาดยามากว่า 1 ปี ทำให้เขาเป็นคนที่มีอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้ายและมีอารมณ์รุนแรง แต่ก็ไม่เคยก่อเหตุทำร้ายคนในครอบครัว
ซึ่งวันนี้ตนได้เข้าไปเยี่ยมเขาในโรงพัก ได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้องชายอ้างเพียงว่าไม่ได้ตั้งใจชน ตอนเกิดเหตุนั้นกำลังขับรถด้วยความเร็ว แต่เกิดรู้สึกอยากจะอาเจียนจึงได้ก้มไปอาเจียนใส่เบาะข้าง ๆ แล้วเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนกับ 2 วัยรุ่น ตอนนี้น้องชายของตนก็ได้สติและยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนจะไม่ประกันตัวน้องชาย ปล่อยให้เขาได้รับกับสิ่งที่เขาทำไป ตนคิดว่าพฤติกรรมที่น้องชายลงไปกระทืบร่างไร้วิญญาณของผู้เสียชีวิตนั้น เกิดจากที่เขาเป็นไบโพลาร์และมีอาการมึนเมา อย่างไรก็ตาม ตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้แค่ให้กำลังใจน้องชายว่าให้สู้ต่อไป แต่คงจะไม่ประกันตัว
ทีมข่าวลงพื้นที่ศาลากลางหมู่บ้านภูมิสวาย หมู่ 7 ต.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ จุดที่นายธนกรณ์ถูกผู้ใหญ่บ้านเรียกตักเตือน ก่อนที่จะไปก่อเหตุซิ่งชน 2 วัยรุ่น
นายเสาว์วัน สายบุตร ผู้ใหญ่บ้านภูมิสวาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 11.00 น. ตนและเจ้าหน้าที่ปกครอง ได้ตั้งด่านภายในหมู่บ้านไม่ให้คนขับรถเร็ว เพราะในหมู่บ้านมีการจัดงานทำบุญหมู่บ้าน แต่เห็นรถกระบะสีส้มของนายธนกรณ์ขับมาด้วยความเร็ว จึงโบกให้จอด และให้ลงมาพูดคุยกันที่ศาลากลางหมู่บ้าน สังเกตว่าเขาพูดจาไม่รู้เรื่องและมีอาการเมา ซึ่งตนได้ตักเตือนเขาเรื่องที่ขับรถเร็ว ขณะเดียวกันนายภูมิพัฒน์และนายประสิทธิ์ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี นายธนกรณ์ก็พูดขึ้นว่า "มึงมองหน้ากูทำไม" ซึ่งตนก็มองไปทาง 2 วัยรุ่น สังเกตว่าเขาก็ไม่ได้มองหน้านายธนกรณ์แต่อย่างใด หลังจากนั้นตนก็ให้นายธนกรณ์กลับไปนอนที่บ้าน เพราะเขาอยู่ในอาการเมา แต่เมื่อเขาขับรถออกไปเพียงไม่นาน ก็มีคนมาแจ้งว่านายธนกรณ์ขับรถชน 2 วัยรุ่นเสียชีวิต
สำหรับเรื่องอาการไบโพลาร์นั้น ตนก็เคยได้ยินญาติของนายธนกรณ์พูดให้ฟังว่าเขาเป็นโรคสองบุคลิก แต่ตนไม่รู้ว่าเขาได้ไปรักษาหรือไม่ เพราะเขาไปอาศัยอยู่ที่ จ.ชลบุรี และเพิ่งกลับมาที่หมู่บ้านเพียงไม่กี่วัน
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุที่บริเวณถนนระหว่างหมู่บ้านตาแตรว-ทับดัด บ.ตาแตรว ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งห่างจากด่านสกัดบ้านภูมิสวาย ประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณต้นไม้รอมทางยังมีรอยชนที่เกิดจากมอเตอร์ไซค์ ถูกกระบะชนอัดกระแทงกับตนไม้ ข้างกันยังมีรอยสเปรย์สีขาวที่ตำรวจได้ฉีดเส้นเอาไว้ถึงจุดที่วัยรุ่นทั้ง 2 คน นอนเสียชีวิต
นางแย้ม (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ในตอนเกิดเหตุนั้น รถกระบะสีส้มได้ขับไล่ตามมอเตอร์ไซค์สีดำมา และชนท้ายอัดเข้ากับต้นไม้ รถกระบะก็ขับเลยไปจอดจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร หลังจากนั้นนายธนกรณ์ก็เดินลงมาจากรถ และเดินมาดูศพของทั้ง 2 คน แต่ตนยืนยันได้ว่านายธนกรณ์ไม่ได้ลงมือทำร้ายหรือกระทืบศพอย่างที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีคนมาตายที่หน้าบ้าน ตนก็ไม่ได้รู้สึกกังวลใจ เพราะเขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ส่วนเรา
นางบัวน้อย ตระกูลสม อายุ 50 ปี แม่ของนายประสิทธิ์ เปิดเผยว่า ลูกชายไปเป็นช่างแอร์อยู่หลายปี เพิ่งจะกลับมาที่บ้านได้เพียง 3 วัน ก็ถูกนายธนกรณ์ขับรถชนตายโดยที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ตนรับไม่ได้กับการกระทำของนายธนกรณ์ ที่ขับรถชนลูกชายแล้วลงมากระทืบศพซ้ำอีก การกระทำของนายธนกรณ์นั้นเป็นเจตนาฆ่า และตนไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นโรคไบโพลาร์อย่างที่ญาติเขาอ้าง
ตนเชื่อว่านายธนกรณ์นั้นต้องมีเรื่องกับหรือมีอาการไม่พอใจคนในศาลากลางหมู่บ้านที่เขาถูกเรียกตรวจก่อน และพาลโมโหใส่ลูกชายของตน ตนอยากจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอยากให้ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุมาชดใช้ค่าเสียหาย แต่ยังประเมินไม่ได้ เพราะชีวิตลูกทั้งคน ตนยังไม่ได้พูดคุยกับครอบครัวคู่กรณี แต่เขาช่วยค่าทำศพมา 20,000 บาท อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีลางสังหรณ์มาก่อน แต่ก่อนวันเกิดเหตุหลานสาววัย 2 ขวบ ได้ร้องไห้งอแงทั้งวันและไม่ยอมหยุด
ส่วนที่ศพของนายภูมิพัฒน์ ตั้งอยู่ที่บ้านในหมู่ 13 ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ นางธัญลักษณ์ จำปาแย้ม อายุ 41 ปี แม่ของนายภูมิพัฒน์ เปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าลูกชายไม่เคยรู้จักหรือยุ่งเกี่ยวกับนายธนกรณ์มาก่อน เพราะลูกชายทำงานเป็นช่างเชื่อมเหล็กอยู่ที่กรุงเทพฯ เพิ่งจะกลับมาได้แค่ 3 วัน เพราะได้หยุดงานในช่วงเทศกาล
ตอนเกิดเหตุนั้นลูกชายแค่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านและมองหน้านายธนกรณ์เท่านั้น แต่เขากลับลงมือฆ่ากันแบบนี้ ตนรับไม่ได้กับการกระทำของนายธนกรณ์ที่ขับรถชนลูกตนจนตายแล้วยังลงมากระทืบซ้ำอีก พูดท้าทายว่า "กูฆ่ามึงแล้ว ๆ" และใหญ่แค่ไหนกูก็ไม่กลัวตำรวจ เหมือนกับสะใจ ซึ่งเกินกว่าคนจะกระทำกัน
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาจะอ้างว่าเป็นโรคไลโพลาร์ก็ต้องเอาหลักฐานมายืนยัน แต่ตนจะดำเนินการทางกฎหมายถึงที่สุด อยากให้มีการประหารชีวิต เพราะเขาฆ่าไปถึง 2 ศพ แลกกับเขาแค่ 1 ชีวิต