ใจจะขาด! รับศพ "น้องมินท์" เหยื่อพลุ ยายฝันเห็นหลานมาลา มือบั้งไฟขอบวชใช้ผิด (คลิป)

กรณีเหตุการณ์บั้งไฟงานศพ ตกใส่ศีรษะน้องมินท์ หรือ ด.ญ.ณัฐชา สวัสดี นักเรียนชั้น ป.3 รร.อาจวิทยาคาร ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งอาการโคม่ามาโดยตลอด

กระทั่งวันที่ 13 เม.ย.64 เวลา 19.45 น. น้องมินท์ ได้เสียชีวิตลง หลังจากนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 15 วัน สร้างความเสียใจเเก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันที่ 14 เม.ย.64 ครอบครัวของน้องมินท์ ประกอบด้วย พ่อ เเม่ เเละญาติ ๆ ได้เดินทางไปรับศพที่ สถาบันนิติเวช รพ.มหาราชนครราชสีมา ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ สภ.ปักธงชัย เปิดเผยว่า จากเดิมที่มีการเเจ้งข้อกล่าวหา "กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส" เเก่คนจุดบั้งไฟ เเต่หลังจากน้องมินท์เสียชีวิต ได้เเจ้งข้อหาเพิ่มเป็น "กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย" โดยหลังจากนี้จะเชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ทีมข่าวอมริทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังวัดหน้าพระธาตุ หมู่ 1 ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา สถานที่จัดพิธีศพของน้องมินท์ พบว่ามีญาติ ๆ เเละชาวบ้านในพื้นที่ เดินทางมาร่วมเเสดงความเสียใจ

เวลา 15.00 น. ร่างของน้องมินท์ ได้มาถึงที่วัด ซึ่งญาติ ๆ และชาวบ้านที่อยู่ที่ศาลาได้ตะโกนพูดบอกกับน้องมินท์ว่า "กลับบ้านเรานะมินท์ หมดเคราะห์แล้วนะ ไม่เจ็บไม่ปวดแล้ว" จากนั้นทางนางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ, นายนิรุต สวัสดี แม่และพ่อของน้องมินท์ ถือรูปน้องมินท์เดินลงมาจากรถของเจ้าหน้าที่

โดยตลอดทางเดิน ตั้งแต่จุดที่รถเจ้าหน้าที่กู้ภัยจอดมาถึงศาลาที่เตรียมไว้สำหรับสวดศพน้องมินท์ ทางแม่ของน้องมินเอาแต่เดินกอดรูปลูกสาว และร้องไห้จะเป็นลม จนต้องให้คนช่วยกันพยุงตัวพาแม่ของน้องมินท์มานั่งในศาลาสวดศพ ต่อมาพ่อของน้องมินท์ ก็ค่อย ๆ ใช้ไม้เท้าเดินตามหลังมา โดยพ่อของน้องมินท์ ทำใจไม่ได้เอาแต่ร้องไห้เช่นเดียวกัน

ในพิธีรดน้ำศพและการสวดพระอภิธรรมคืนแรก มีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะครูจาก รร.อาจวิทยาคาร กำนันผู้ใหญ่บ้าน มาร่วมแสดงความอาลัยในวันนี้ด้วย ทั้งนี้แม่ของน้องมินท์ ได้วางตุ๊กตาสีชมพู ไว้ที่หน้าโลงศพ โดยระบุว่า เป็นตุ๊กตาตัวโปรด ที่น้องมินท์ชอบนอนกอดเวลาอยู่ที่บ้าน ซึ่งวันที่ฌาปณกิจจะเผาตุ๊กตาตัวนี้ไปให้น้องด้วย

นางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ อายุ 34 ปี เเม่ของน้องมินท์ ซึ่งอยู่ในอาการเสียใจ บอกว่า ระหว่างที่น้องมินท์นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตั้งเเต่วันเกิดเหตุ อาการก็โคม่า เเละทรงตัวมาโดยตลอด เนื่องจากสมองตาย กระทั่งช่วง 2 วัน ก่อนจะเสียชีวิต มีอาการความดันตก เเพทย์บอกว่าสมองได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนร่างกายไม่ตอบสนองการรักษา กระทั่งวันที่ 13 เม.ย.64 เวลา 19.45 น. น้องได้จากไปอย่างสงบ

ที่ผ่านมาคุณหมอจะบอกเสมอว่าให้ทำใจ เเต่ตนก็ยังมีความหวัง คิดเสมอว่าคงจะมีปาฏิหาริย์ ซึ่งตอนที่ตนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ก็มักจะบอกกับน้องว่า "หายเร็ว ๆ นะลูก กลับบ้านเรา พ่อเเม่รออยู่ ตายายรออยู่" ซึ่งหลังจากที่น้องเสียชีวิต ตอนที่ไปรับร่างลูก ตนก็ได้จุดธูปบอกว่า "กลับบ้านเรานะลูก พ่อกับเเม่มารับเเล้ว" อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคนจุดบั้งไฟ ตอนนี้ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกันมากนัก คงต้องรอให้เสร็จงานศพเสียก่อน ในส่วนของครอบครัวก็คงต้องสู้ต่อไป เพราะยังมีตากับตายที่ยังต้องดูเเล

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสุวรรณดี ช่วงจะโป๊ะ อายุ 61 ปี ยายของน้องมินท์ เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่น้องมินท์ไปนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ตนนอนไม่หลับ และคิดถึงน้องมินท์มาก โดยทุก ๆ คืนก่อนนอนจะสวดมนต์ไหว้พระ และพูดที่ว่า "หนูเอ้ย กลับมาหายายเถอะ ยายคิดถึง ตั้งแต่หนูไม่อยู่ ยายนอนไม่หลับเลย และยายไม่มีใครให้เรียกใช้เลย" ตนพูดแบบนี้ทุกคืน กระทั่งเมื่อคืนพูดแบบนี้ก็นอนหลับไป และระหว่างนอนหลับฝันว่า ตนกับตาได้ไปบ้านญาติ และระหว่างเดินไปบ้านญาติ เห็นน้องมินท์นั่งหันหลังอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ตนกับตาจึงเดินไปหา ก่อนจะเดินเข้าไปสะกิดและพูดว่า "กลับบ้านกันเถอะ" แต่น้องมินท์ไม่ยอมเดินตามกลับมา ก่อนที่น้องมินท์จะเดินหายไป และตนก็สะดุ้งตื่น

กระทั่งเช้าวันนี้ ช่วงเวลา 08.00 น. แม่ของน้องมินท์ มาบอกว่าน้องมินท์เสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่เวลา 19.45 น. ของวันที่ 13 เม.ย.64 แต่สาเหตุที่ไม่บอกในทันที เพราะกลัวตนจะช็อกและเป็นอันตรายไปอีกคน

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยอมรับว่าเสียใจ และทำใจไม่ได้ แต่ลึก ๆ ในใจตนก็ทำใจไว้แล้ว น้องมินท์คงทำบุญและมีวาสมามาแค่นี้ การจากไปอย่างสงบนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีของน้องมินท์ที่จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดหรือทรมานอีกต่อไป สุดท้ายก็อยากบอกกับหลานว่า "ไปดีเด้อหลาน ถ้าชาติหน้ามีบุญ ก็ให้เกิดมาเป็นยายหลานกันอีก"

ทางด้านตำรวจ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เเจ้งข้อหาเเก่ผู้ที่จุดบั้งไฟ 2 ราย ใน 2 ข้อหา คือ 1.กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย และ 2.จุดพลุ บั้งไฟ ตะไล โคมลอย โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนี้จะเชิญตัวคนจุดบั้งไฟทั้ง 2 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พบว่าหนึ่งในผู้ที่จุดบั้งไฟ ได้เดินทางมาร่วมงานศพของน้องมินท์ ที่วัดหน้าพระธาตุ หมู่ 1 ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เเต่ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ บอกเพียงสั้น ๆ ว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต หลังจากนี้จะขอบวชหน้าไฟให้น้องมินท์ ส่วนในเรื่องทางคดี อยู่ที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการ ส่วนตัวก็พร้อมน้อมรับในการกระทำ

ในเวลา 17.30 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพ น้องมินท์ อายุ 9 ขวบ พร้อมทั้งเเสดงความเสียใจ และให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายวิเชียร กล่าวว่า ในส่วนของการจุดพลุทางจังหวัดเคยมีประกาศไปเเล้ว ว่า หากจะจุดต้องขออนุญาตล่วงหน้า 7 วัน เเละให้คำนึงในเรื่องความปลอดภัยของชุมชน เเต่กรณีดังกล่าวทราบว่าเป็นการจุดโดยไม่ได้ขออนุญาต ก็ได้กำชับไปยัง ผกก.สภ.ปักธงชัย ให้ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวด้วย

ขณะเดียวกันก็ได้กำชับผู้นำท้องถิ่น เเละฝ่ายปกครอง ให้เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ของน้องมินท์ ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ดังนั้นหลังจากนี้ในงานพิธีต่าง ๆ ที่จัดขึ้นใน จ.นครราชสีมา ขอให้งดจุดพลุ เพื่อความปลอดภัย เเละไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย