ทบ.แจงปม ทหารพราน พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ในป่าชายแดนพม่า ย้ำทำตามมาตรการป้องกันโรค-สร้างความมั่นใจให้ชาวบ้านในพื้นที่ เผยน้ำยาฆ่าเชื้อจาก สธ.มีประสิทธิภาพ ส่งทีมพ่นฆ่าเชื้อแล้ว 268 พื้นที่ 162 โรงเรียน
จากกรณีกรมประชาสัมพันธ์ แชร์ภาพทหารพราน 36 เข้าฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 5 พื้นที่รองรับ ภายหลังผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาเดินทางกลับยังภูมิลำเนา และมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ถึงความไม่จำเป็นและเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ซึ่งต่อมาได้มีกาารลบภาพดังกล่าวออกไปนั้น
ทัวร์ลง ทหารพราน พ่นฆ่าเชื้อโควิดโขดหิน ชาวเน็ตจวกทำไปเพื่อเปลืองงบประมาณ
ล่าสุด 15 เม.ย.64 พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เนื่องด้วยในช่วงต้นเดือนเมษายนมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวนมากได้เข้ามาพักชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัยแนวชายแดน และได้เดินทางกลับประเทศไปแล้วหลังเหตุการณ์คลี่คลาย หลังจบเหตุการณ์กองกำลังชายแดนได้ปฏิบัติตามมาตรการดูแลพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยและการควบคุมป้องกันโรค เพื่อให้พื้นที่นั้นกลับสู่สภาพปกติ พร้อมทั้งได้ทำความสะอาด และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคป้องกันโรคติดต่อที่อาจแฝงมากับผู้หนีภัยฯ ตามมาตรการด้านสาธารณสุข
โดยการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ หน่วยทหารได้ใช้อุปกรณ์และกำลังพลที่มีอยู่แล้ว เป็นอุปกรณ์ที่หน่วยใช้ในภารกิจช่วยดับไฟป่า พร้อมขอสนับสนุนน้ำยาฆ่าเชื้อโรคจากหน่วยงานสาธารณสุข เป็นการนำเครื่องมือของส่วนราชการที่มีอยู่แล้วมาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าในการช่วยเหลือดูแลประชาชน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวด้วยว่าว่า การรวมตัวกันของคนจำนวนมากในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดความเสี่ยง การทำพื้นที่ให้สะอาด จึงเป็นมาตรการป้องกันโรคติดต่อ และลดการสะสมของเชื้อโรคต่างๆ ที่เกิดจากสภาพความเป็นอยู่และของเสียจากร่างกาย สุขอนามัยส่วนบุคคลในบริเวณที่เคยมีคนมาพักอาศัยเป็นจำนวนมากได้อีกทางหนึ่ง เป็นมาตรการสร้างความปลอดภัยและป้องกันโรคให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดน
ที่สำคัญเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนท้องถิ่น ในการกลับเข้าทำกิจกรรมต่างๆ ตามวิถีเดิม เช่น ปลูกพืชล้มลุก หรือหาอาหาร เป็นต้น
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ในปัจจุบัน การทำความสะอาดล้างสิ่งปนเปื้อนและฉีดสารฆ่าเชื้อในพื้นที่สาธารณะ แหล่งชุมชน เช่น โรงเรียน วัด สำนักงาน ตลาด สถานีขนส่ง หน่วยทหารของกองทัพบกได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ และประชาชนจิตอาสา ดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งภายในหน่วยทหาร และพื้นที่โดยรอบ โดยสรุปตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.64 ถึงปัจจุบัน มีการปฏิบัติใน 268 พื้นที่ และ 162 โรงเรียน ซึ่งเป็นการใช้ศักยภาพของกองทัพในการดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างดีที่สุด
พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์! โควิดวันนี้ (15 เม.ย.) ป่วยใหม่ทะลุ 1,543 ราย
ทหารไทย อนุญาตส่งของบริจาคให้ชาว กะเหรี่ยง ชายแดนพม่าได้แล้ว