ทำเอาหลายคนถึงกับตกใจไปตาม ๆ กัน หลังนักแสดงตลกรุ่นใหญ่ “โย่ง เชิญยิ้ม” ออกมาโพสต์ภาพที่ตัวเองนั่งอยู่หน้าห้องไอซียู พร้อมเขียนเรื่องราวสุดช็อกผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่าคู่หูเพื่อนซี้อย่าง “น้านงค์ เชิญยิ้ม” ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน
เนื่องจากเผลอหยิบน้ำยาล้างเครื่องเงินขึ้นมาดื่ม โดยข้อความระบุว่า "ไอ้นงค์ มึงต้องไม่เป็นอะไรนะ กูไม่อนุญาตให้มึงเป็นแบบนี้ มึงรีบตื่นขึ้นมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้ (ระหว่างพิมพ์มีน้ำตาซึมออกมา) #น้านงค์หยิบผิดเผลอดื่มน้ำยาล้างเครื่องเงิน"
ล่าสุดวันที่ 15 เม.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ “บิว-ปิยะฏา ปิยะโชติ” อายุ 28 ปี ลูกสาวนองน้านงค์ กล่าวว่า คุณพ่อเริ่มรู้สึกตัวแล้ว แต่ก็ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปกติแล้วคุณพ่อเป็นคนชื่นชอบเครื่องเงิน และมีสะสมเป็นจำนวนมาก แต่มักจะเก็บและล้างของพวกนี้อยู่ในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน ไม่ค่อยมีใครได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นลูกชาย คุณป้าหรือพี่สาวของคุณพ่อที่อยู่บ้านเดียวกัน
โดยช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.00 น. พี่ชายของตนที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าให้ฟังว่า คุณพ่อน่าจะนั่งกินขนมปังอยู่ในห้อง เพราะหลังเกิดเหตุพบว่ามีซองขนมปัง พร้อมกับขวดน้ำ 2 ขวด ขวดหนึ่งเป็นขวดน้ำดื่ม ส่วนอีกขวดจะเป็นขวดทั่วไป ไม่มียี่ห้อและมีลักษณะคล้ายกับขวดน้ำดื่มมาก แต่ในขวดนั้นจะเป็นน้ำยาล้างเครื่องเงิน
ในระหว่างที่คุณพ่อกำลังกินขนมปัง ก็น่าจะหิวน้ำ แต่ไปคว้าหยิบเอาขวดน้ำยาล้างเครื่องเงิน หลังจากนั้นเมื่อรู้ว่าดื่มผิดขวด คุณพ่อก็เดินออกมาเคาะเรียกพี่ชายที่อยู่ในห้องนอนชั้น 2 แล้วบอกว่า “พาไปส่งโรงพยาบาลหน่อย พ่อหยิบน้ำผิด กินน้ำยาล้างเครื่องเงินเข้าไป” ตอนนั้นคุณพ่อยังสามารถเดินได้ พูดคุยสื่อสารได้ปกติ หลังจากนั้นคุณพ่อก็ไม่มีการตอบสนอง แถมยังมีอาการเกร็ง มีเหงื่อออกตามร่างกายร่วมด้วย พี่ชายจึงพยายามชวนคุย แต่คุณพ่อก็ไม่ตอบสนองใด ๆ พี่ชายจึงรีบพาคุณพ่อและขวดน้ำยาล้างเครื่องเงินไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
เมื่อถึงโรงพยาบาลในเวลาประมาณ 08.00 น. ทีมแพทย์รีบนำคุณพ่อเข้าห้องฉุกเฉินทันที พี่ชายก็โทรศัพท์ตามตนให้มาที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นแพทย์ก็ออกมาแจ้งกับตนว่า คุณพ่อได้รับสารพิษ คือ ไซยาไนด์ หากกินไซยาไนด์เข้าไปขณะท้องว่างจะใช้เวลาออกฤทธิ์เป็นหน่วยนาทีถึงจะเสียชีวิต แต่ถ้ามีอาหารอยู่เต็มกระเพาะแล้ว จะหน่วงเวลาเสียชีวิตเป็นหน่วยชั่วโมง แต่ถ้าสูดไฮโดรเจนไซยาไนด์เข้าไปจะเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่วินาที
ต่อมาในเวลา 09.40 น. เมื่อทีมแพทย์ได้รับยาต้านพิษก็รีบนำตัวคุณพ่อเข้ารักษา หลังจากนั้น 2 ชั่วโมง คุณหมอก็ออกมาแจ้งกับตนว่า ตอนแรกค่าเลือกของคุณพ่ออยู่ที่ 8 ซึ่งคนปกติจะต้องมากกว่า 18 ทำให้มีอาการช็อก แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นหัวใจหยุดเต้น แต่เมื่อได้รับยาต้านพิษไป ค่าเลือดก็ดีขึ้นอยู่ที่ 21 ทำให้รู้สึกตัว สามารถพูดโต้ตอบได้
ทั้งนี้ แพทย์ก็ยังไม่รับปากว่า คุณพ่อจะอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากค่าเลือดมีความเป็นกรดค่อนข้างสูง เสี่ยงต่อการมีภาวะแทรกซ้อน ประกอบกับยังคงมีอาการตกใจจากการเห็นเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์รอบตัว แพทย์จึงให้ยาเพื่อให้คุณพ่อนอนหลับพักผ่อน และรักษาตัว ดูค่าเลือดในห้องไอซียูอีก 1-2 วัน รวมถึงงดเยี่ยมด้วย
“คุณบิว” ยังบอกอีกว่า ปกติแล้วคุณพ่อก็จะมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ บ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นโรคจนเป็นอันตรายต่อชีวิตขนาดนี้ มีเพียงแค่โรคประจำตัว คือ เบาหวาน นี่ถือว่าหนักสุดเท่าที่เคยเป็นมา ทำให้ตนและคนในครอบครัวต้องกลับมาคิดแล้วว่า หลังจากนี้คงต้องอยู่ใกล้ชิด ดูแลคุณพ่อมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดแบบนี้อีก สุดท้ายตนก็อยากขอบคุณทุกคนแทนคุณพ่อ ไม่ว่าจะเป็น “น้าโย่ง” และคุณป้าหรือพี่สาวคุณพ่อที่อยู่ดูแล รวมถึงทุกคนที่เป็นห่วง และเป็นกำลังใจให้ด้วย