วันที่ 19 ก.ค. 61 นางลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่าจัง เดินทางไปยังกองปราบปรามฯ เพื่อแจ้งความ นายเอกพล กันทะวงษ์ หรือ โค้ชเอก ผู้ช่วยครูฝึกสอนทีมหมูป่า อะคาเดมี ที่เข้าไปติดภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมกับนักฟุตบอลเยาวชนในทีมอีก 12 คน ในข้อหาเกี่ยวกับการบุกรุกอุทยานแห่งชาติ หลังจากกรมอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งดำเนินคดีกับลีน่าจัง กรณีส่งเสียงดังอื้อฉาว และการถ่ายทำภาพยนต์ในเขตอุทยานโดยไม่รับอนุญาต (อ่าน :
เพื่อความเป็นธรรม!? ‘ลีน่าจัง’ แจ้งความ ‘โค้ชเอก’ เข้าถ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต)
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า "การติดถ้ำของเด็ก 13 คนและโค้ชเอกต้องดูที่เจตนาว่า มีเจตนาเข้าไปในที่หวงห้ามคือถ้ำหลวงหรือไม่หรือว่าเป็นกรณีที่มีความจำเป็น เช่น มีน้ำท่วมจำเป็นต้องหนีน้ำเพื่อเอาตัวรอดการกระทำความผิดด้วยความจำเป็น ไม่ต้องรับโทษอยู่แล้วตามกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 67 คุณลีน่าจังเป็นทนายความย่อมรู้กฎหมายดี หากไปแจ้งความเท็จคุณลีน่าจังก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน เพื่อแกล้งให้บุคคลอื่นได้รับโทษทางอาญามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 174 จำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับ #ทนายคลายทุกข์"
ขอบคุณเพจเฟซบุ๊ก
ทนายคลายทุกข์