กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “การข่าวพญาเจ่งนนทบุรี” แชร์คลิปเหตุเพลิงไหม้โรงงานโกดังเก็บน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อ้อมใหญ่ ใกล้บิ๊กซีอ้อมใหญ่ ซึ่งมีรายงานแจ้งว่า ขณะนี้ไฟกำลังลุกลามเข้าไปยังปั๊มน้ำมันปตท.ใกล้เคียง โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ควันไฟลอยคลุ้งเห็นได้จากระยะไกลกว่าระยะ 10 กิโลเมตร ซึ่งยิ่งเข้าใกล้ควันไฟยิ่งดำคลุ้งลอยทั่วฟ้า
โดยตลอดเส้นทางมุ่งหน้าสู่ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ประกาศให้ประชาชนที่กำลังใช้ถนน นำรถชิดขอบทาง เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้นำรถเข้าไปยังที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว
จากการตรวจสอบทราบว่า เวลาประมาณ 17.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัท ประภากรออย์ จำกัด ท้องที่ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นบริษัทเก็บน้ำมันจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกไหม้น้ำมันเป็นบริเวณกว้าง รถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงกำลังเข้าระงับเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างรเว้ยเหตุ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐมได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเขต 1 ปทุมธานี ร้องขอรถดับเพลิงชนิดโฟม เข้าระงับเหตุ
ล่าสุดวันที่ 21 เม.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้นำรถดับเพลิงเข้ามายังจุดเกิดเหตุกว่า 10 คัน ซึ่งความน่ากลัวของเหตุการณ์ดังกล่าว คือ โกดังน้ำมันนั้นตั้งอยู่ข้างปั๊มน้ำมัน ห่างกันเพียงไม่ถึง 1 เมตร โดยเจ้าหน้าที่เกรงว่าตึกอาจจะระเบิดได้
จากการสอบถามนายฐากูร แซ่เซียว อายุ 60 ปี วินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ ทราบว่า โกดังน้ำมันแห่งนี้เกิดการลุกไหม้จากด้านหลัง โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งเพลิงไหม้เริ่มตั้งแต่ในเวลา 17.00 น. จากนั้นลุกลามมายังตึกด้านหน้า จำนวน 3 ชั้น โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 5 นาที ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่เดินทางกันมาภายใน 15 นาที โดยได้เร่งน้ำไฟแบบไม่หยุดพัก
ทั้งนี้ปั๊มน้ำมันข้างเคียงได้ทำการหล่อเย็นบ่อน้ำมัน เพื่อเป็นการป้องกันเพลิงไหม้แล้ว จึงไม่หน้าห่วงว่าไฟจะลามเข้าปั๊มน้ำมัน ตนคาดไม่ออกว่าตึกโกดังน้ำมันจะถล่มหรือไม่ แต่ไม่นานคาดว่าจะควบคุมเพลิงไหมได้
เวลา 19.35 น. ผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง ที่เจ้าหน้าหน้าพยายามระดมกำลังนักดับเพลิงฉีดน้ำเข้าไปภายในตัวอาคาร ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 4 ชั้น และเป็นโกดังเก็บน้ำมันเครื่อง ซึ่งมีการระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังคงมีเพลิงลุกไหม้ภายในตัวอาคาร นอกจากนี้เพลิงยังสร้างความเสียหายลุกไหม้สายเคเบิ้ล และสายไฟ บริเวณด้านหน้าอาคาร เจ้าหน้าที่จึงต้องตัดกระแสไฟทั้งหมดในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจะจเกิดขึ้น และสั่งงดให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง กล่าวว่า ขณะนี้การจราจรเปิดให้สัญจรเพียงฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุเท่านั้น ส่วนเพลิงไหม้อาคารดังกล่าว นักผจญเพลิงได้ฉีดน้ำเพื่อประคองเก็บทีละชั้น ๆ จะได้แน่ใจว่าเพลิงสงบลงทุกจุด และไม่ลุกลามไปจุดอื่น เช่น ปั๊มน้ำมันข้างเคียง นอกจากนี้ตนตอบไม่ได้ว่าโครงสร้างอาคารเป็นอย่างไร จึงไม่แน่ใจว่าจะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยก่อนหน้านี้หรือไม่ ตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่เพลิงยังไม่สงบทั้งหมด
เวลา 20.10 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ยุติการฉีดน้ำบริเวณด้านหน้าและด้านข้าง (ฝั่งปั๊มน้ำมัน ปตท.) แต่ยังคงฉีดน้ำเข้าไปภายในอาคารจากด้านข้างอีกฝั่งและด้านหลัง เนื่องจากไฟยังคงลุกไหม้ภายในอาคารบริเวณชั้น 2 และ ชั้น 3
เวลา 20.41 น. ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังปรับแผนและประชุมงาน จู่ ๆ เพลิงบางส่วนได้ลุกขึ้นมาอีก 2-3 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังออกมา เพราะโครงสร้างตึกค่อนข้างอันตราย เนื่องจากมีเสียงลั่นดังมาจากตัวอาคาร 5 ชั้น และตึกเริ่มอุ้มน้ำ จึงต้องหยุดการฉีดน้ำเข้าไปภายในตัวอาคาร และปรับแผนรอรถโฟมเข้ามาในพื้นที่ เพื่อฉีดโฟมเข้าไปแทนน้ำ ส่วนการจราจรเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดถนนเส้นดังกลาวเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร
เวลา 22.33 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงเฝ้าสังเกตการณ์ และฉีดโฟมแทนน้ำเข้าไปภายในอาคารด้านหลังอยู่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมเพลิงให้ดับได้ทั้งหมด และหลังจากนี้หากคุมเพลิงให้สงบลงได้ เจ้าหน้าที่จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เพื่อเร่งระบายความร้อนออกจากภายในตึกเป็นลำดับต่อไป
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการ จ.นครปฐม ได้เดินทางมาควบคุมงานด้วยตัวเอง เบื้องต้นไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ มีเพียงเจ้าของอาคารบาดเจ็บบริเวณเท้าเล็กน้อย อาคารดังกล่าวก่อตั้งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายน้ำมันเครื่อง มีน้ำมันเครื่องปริมาณ 3 แสนลิตรถูกเก็บไว้
แต่ยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ ต้นเพลิงมาจากน้ำมันหลังอาคาร นอกจากนี้ยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหาย แต่หลังจากนี้หากประเมินแล้วว่าเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปในภายอาคารได้ จะตรวจสอบอีกครั้ง
นายมานัด จันทร์เจ้า อายุ 45 ปี พนักงานในโกดังประภากรออยล์ บอกว่า ขณะเกิดเพลิงไหม้ในเวลา 17.00 น. พนักงานของอาคารได้เลิกงาน และกำลังเดินทางกลับบ้าน ตนก็เดินทางกลับบ้านเช่นกัน คาดว่าน่าจะมีไม่เกิน 10 คนที่อยู่ภายในอาคาร ได้แก่ สามีภรรยาเจ้าของอาคาร ลูกชาย ลูกสาว แม่บ้าน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีได้รับรายงานของการได้รับบาดเจ็บ