ความคืบหน้ากรณีมีลูกศิษย์ของ หลวงปู่พุทธะ เทพสุริยะจักรวาล กล่าวอ้างว่าหลวงปู่สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงโรคโควิด-19 ได้ รวมถึงอ้างว่ามีอภินิหารต่าง ๆ ทำให้ชาวบ้านเข้ามาศรัทธา และรวมเงินกันสร้างรูปปั้นเสมือนจริง ล่าสุดได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับทรัพย์สินส่วนตัว บอกกับลูกศิษย์คนสนิทว่าจะหายเข้าป่า 7-8 ปีเพื่อนั่งสมาธิจนตายไปนั้น
วันที่ 23 เม.ย. 64 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ หมู่ 16 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เวลาประมาณ 9.00 น. กรมป่าไม้ได้ลงพื้นที่เข้ามาพูดคุยกับเจ้าของที่ดิน ที่หน้าบ้านของผู้ใหญ่บ้าน แต่วันนี้ผู้ใหญ่บ้านไปทำธุระที่อื่น ก่อนจะขึ้นไปสำรวจพื้นที่ดังกล่าว
นายปัด วงเวียน อายุ 74 ปี อดีตเจ้าของที่ เปิดเผยว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาสอบถาม ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เคยเป็นเจ้าของที่ดิน ตนก็ให้ข้อมูลไปตามจริง ตนเคยเป็นเจ้าของที่ดินเพิงพักข้างศาลาจนถึงพระพุทธรูปหน้าเหมือนองค์ดำ เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ เป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครอง ตนได้มาบุกเบิกต่อจากคนอื่น จากนั้นได้เข้ามาทำไร่ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหิน ปลูกอะไรไม่ขึ้น ตนถางที่ดินแล้วสร้างศาลาเล็ก ๆ แทน กระทั่งมีพระสงฆ์ธุดงค์มาบ่อยเมื่อ 4-5 ปีก่อน มีพระสงฆ์รายหนึ่งเข้ามาอยู่ประจำ ตนเลยยกที่ดินให้พระสงฆ์รายนั้น ชื่อหลวงปู่พนม หลังจากที่ตนยกที่ดินให้ พระสงฆ์รายนั้นก็เข้ามาก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ใหม่ แต่อยู่ได้ไม่นาน พระรูปนั้นก็มีปัญหาเพราะที่ดินจุดนั้นไม่มีน้ำ เลยธุดงค์ไปที่อื่น
โดยที่ดินตรงจุดนั้นเคยมีเจ้าของประมาณ 4 คน และในบรรดาเจ้าของที่ ตนเป็นบุคคลแรกที่ยกให้ เพราะเห็นว่าพระธุดงค์มาบ่อย นอกจากนี้บริเวณนั้นเป็นเส้นทางที่โขลงช้างสัญจรผ่าน แต่ช่วงที่องค์ดำมาอยู่ มีการตั้งไฟแอลอีดีขึ้นมา ส่วนตัวไม่ได้เข้าไปยุ่งนานแล้ว แต่ช่วงที่มาก่อสร้างห้องน้ำ ตนยังคงเห็นรูปปั้นพระนอน กระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมามีคนงานต่างถิ่นมาเล่าให้ฟังว่าพระนอนได้ถูกทุบทิ้งแล้ว
ทีมข่าวได้เดินทางมาที่สถานที่ปฏิบัติธรรมพุทธะธรรมชาติ ดงพญาเย็น หมู่ 16 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งล่าสุดไม่มีใครอยู่แล้ว ส่วนนายพุทธ เทพสุริยะจักรวาลยังไม่ได้กลับมา โดยนายปัด พามาชี้จุดที่เคยมีพระนอน ทันทีที่เห็นก็มีสีหน้าอึ้งทันที เล่าว่าพระนอนเพิ่งจะหายไปได้ไม่ถึงเดือน และวัยรุ่นมาเล่าให้ฟังว่าชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่นั้นได้ใช้รถเครนยกพระนอนขึ้นไปด้านบนหินก้อนใหญ่ และทุบทิ้งทั้งหมด
แต่ก่อนมีความสวยงามมาก มีขนาดประมาณ 2 เมตร ชาวบ้านมักจะเข้ามากราบไหว้เป็นประจำ แต่พอทุบทิ้ง กลายเป็นว่าต้องไปกราบไหว้พระพุทธรูปหน้าเหมือนหลวงปู่แทน ส่วนตัวเคยไปกราบไหว้ครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้ตั้งใจมองว่าเป็นพระ เพราะตนกราบไหว้ตามชาวบ้านที่อยู่ตรงนั้น
นายเกลี้ยง ยากระโทก อายุ 70 ปี อดีตเจ้าของที่ดิน เปิดเผยว่า ที่ดินของตนอยู่บริเวณเสาธงกับถนนทางเข้า รวมแล้วจำนวน 4 ไร่ กระทั่งเมื่อประมาณปีที่แล้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ได้ติดต่อเข้ามาขอที่ดิน เพื่อไปทำถนนตัดเข้าสถานที่ปฏิบัติธรรม
แต่ก่อนตนยังไม่ทราบว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และทราบว่าหลวงปู่เข้ามาอยู่อาศัย เลยบริจาคที่ดินให้ โดยหลังจากที่บริจาคที่ดินผู้ใหญ่บ้านได้ประสานให้เข้าไปรับสิ่งตอบแทนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งตนรับมากับมือองค์ดำเลย และจำนวนเงินที่รับมาประมาณ 50,000 บาท
ทั้งนี้ หลวงปู่ไม่ได้บอกว่าเป็นพระ แต่บอกว่าให้เรียก "หลวงปู่ดำ" ส่วนตัวไม่ค่อยได้เข้ามาหา เพราะมีงานต้องทำ และไม่ได้ศรัทธาเหมือนคนอื่น
นอกจากนี้ จากกรณีนางสาวน้ำส้มปั่น (นามสมมติ) สาววัย 31 ปี อยู่ ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีข่าวเคยสนิทสนมกับนายพุทธะ เทพสุริยจักรวาล หรือที่อ้างว่าเคยถูชายรายหนึ่งถูกข่มขืนจนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 4 ขวบ แต่ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อมาได้กลับคำว่าไม่รู้จักกับหลวงปู่พุทธะ ก่อนหายตัวไป ซึ่งผู้นำชุมชนขอให้มีการตรวจอีเอ็นเอเด็กนั้น
แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่ามีการเรียกร้องให้ตรวจดีเอ็นเอนั้น ตนมีความยินดีที่จะให้ลูกสาวกับหลานสาวเข้าไปตรวจดีเอ็นเอ แต่ว่าจะต้องตรวจดีเอ็นเอพร้อมกันทั้ง 3 คนคือลูกสาว หลานสาวของตน และนายพุทธะ เพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ หากผลการตรวจออกมาปรากฏว่าหลานของตนเป็นลูกของเขาจริง จะเข้ามารับผิดชอบดูแล ตนก็ไม่ว่า แต่ถ้าไม่รับผิดชอบ ตนก็ไม่ว่าอะไรเช่นกัน
สำหรับตนไม่ขอฝากอะไรไปถึงนายใคร เพราะว่าไม่รู้จะฝากอะไร เรื่องที่แล้วไปก็ขอให้มันแล้วไป ตนบอกลูกสาวไปว่าอย่าสร้างเวรสร้างกรรมกันเลย ลูกสาวของตนบอกว่าเชื่อฟังแม่ และจะไม่เข้าไปหาหลวงปู่พุทธะอีกจนถึงวันตาย ส่วนตนเองอยากให้เรื่องนี้จบไปโดยเร็ว เพราะต้องทำมาหากินทุกวัน
นอกจากนี้ หลังจากที่ลูกสาวได้มีการให้สัมภาษณ์เรื่องถูกข่มขืนแพร่กระจายออกไป แต่ต่อมาได้กลับคำว่าไม่เป็นความจริง ไม่ได้ถูกข่มขืน เจ้าตัวก็หายออกไปจากบ้าน ไม่ได้เข้ามาที่บ้านอีก และไม่มีใครทราบว่าไปพักอยู่ที่ใด คาดว่าต้องการหลบหนีไปจากเรื่องที่เกิดขึ้น