แม่ 'น้องฟาง' ลั่น! ไม่ให้อภัยทอมกระทืบลูกสาวปางตาย ย้ำเอาเรื่องถึงที่สุด

จากกรณีทอมทำร้ายร่างกายแฟนสาวที่บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งจนกระทั่งฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. เวลา 01.00 น. ซึ่งเมื่อวานนี้ (22 ก.ค. 61) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาฝ่ายผู้เสียหายนำผลวินิจฉัยจากแพทย์เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.พหลโยธิน นั้น วันนี้ (23 ก.ค.) ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ นางนิฤมล ปักษี อายุ 50 ปี แม่ของ น.ส.พิมพ์พิไล ปักษี หรือ “ฟาง” ผู้เสียหาย โดยนางนิฤมล เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ เวลา 02.00 น. เนื่องจาก ตร. โทรศัพท์มาบอกว่าลูกถูกทำร้าย จึงบอกให้น.ส.ทิฆัมพร พิมให้ผล หลานที่อยู่กรุงเทพฯ  ไปดูน้องที่โรงพยาบาล จากนั้น เวลาประมาณ 06.00 น. ตนก็รีบออกเดินทางจาก จ.แพร่ ทันทีเพื่อมาหาลูกที่หอพัก นางนิฤมล เผยอีกว่า เมื่อมาถึงหอพักก็พบลูกสาว หลาน และผู้ก่อเหตุที่ยังคงพักอยู่ด้วยกัน โดยทางผู้ก่อเหตุก็เข้ามากราบตน และกล่าวขอโทษโดยยอมรับผิดทุกอย่าง แต่ตนไม่มองหน้าและไม่รับคำขอโทษเนื่องจากขณะนั้นโกรธมาก โดยหลังจากนั้นฝ่ายพ่อแม่ของผู้ก่อเหตุเมื่อทราบเรื่องก็ตามมาพักอยู่ที่นี่ด้วย ซึ่งอีกฝ่ายก็พยายามที่จะขอโทษและขอพูดคุยตกลงเรื่องคดี ซึ่งทางตนก็ยืนยันที่จะสู้เรื่องคดีอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้ นางนิฤมล เผยว่า การที่คู่กรณีได้มาดูแลลูกสาวหลังเกิดเหตุเกือบทำให้ตนใจอ่อน แต่เมื่อตนมาเห็นคลิปวีดีโอก็รู้สึกโมโห

สำหรับความสัมพันธ์ของลูกสาวกับแฟน นางนิฤมลกล่าวว่า ทั้งคู่เริ่มคุยกันตั้งแต่ตอนที่อยู่ จ.สุโขทัย เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว จนกระทั่ง ลูกสาวตนได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพ โดยลูกสาวเข้ามาทำงานก่อน จากนั้นคู่กรณีก็ย้ายตามมาอยู่ด้วยกัน โดยมาอยู่ที่หอพักแห่งนี้ได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ก็มาหาตนอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล เช่น วันปีใหม่ ซึ่งท่าทีของคู่กรณีก็ดูเป็นคนพูดจาเรียบร้อย แต่บางครั้งตนโทรศัพท์มาคุยกับลูกก็มีได้ยินเสียงทะเลาะกันบ้าง ซึ่งตนก็จะกล่าวกับลูกว่าให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุยกัน ไม่คิดว่าคู่กรณีจะทำถึงขนาดนี้

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) คนรู้จักของทั้งสองฝ่าย เปิดเผยว่า เท่าที่ตนรู้จักและได้พูดคุย ทั้งสองคนก็เป็นคนเรียบร้อย โดยทั้งคู่ก็ดูรักและดูแลกันดี ไม่เคยเห็นทั้งคู่ทะเลาะหรือมีปัญหาอะไรกัน โดยทราบว่าน้องฟาง บาดเจ็บตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ (19 ก.ค.) แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำและไม่คิดว่าคนที่ทำจะเป็นอดีตแฟน โดยได้มีโอกาสสอบถามกับผู้ก่อเหตุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ยอมรับกับตนว่าเป็นคนทำ โดยทำลงไปเพราะว่าเมา ซึ่งขณะที่พูดก็ก้มหน้าและมีสีหน้าท่าทางที่ดูสำนึกผิดและเสียใจ ซึ่งตนก็ได้มีการสอนไปว่า อย่าได้ทำแบบนี้อีก และยังได้บอกกับผู้ก่อเหตุว่า พี่รู้สึกตกใจมากและไม่คิดว่าน้องจะทำแบบนี้