กระเป๋ารถเมล์ สาย 4 ติดโควิด จากไทม์ไลน์พบหลังไปตรวจหาเชื้อเสร็จแล้วได้กลับไปทำงานต่อ ขณะนี้สั่งหยุดเดินรถแล้ว และให้พนักงานขับรถซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ตรวจหาเชื้อด้วย
วันที่ 26 เม.ย. 2564 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ขสมก. แจ้งว่า ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ที่ผ่านมาองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติการป้องกันของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
แต่ทั้งนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขออภัยที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 พนักงานเก็บค่าโดยสารรถธรรมดา สาย 4 เพศชาย อายุ 37 ปี (ปฏิบัติหน้าที่เก็บค่าโดยสารช่วงกะบ่าย)
ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ณ ศูนย์กีฬาเวชศาสตร์สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ต่อมาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สมุทรสาคร ได้แจ้งให้ทราบว่าพนักงานคนดังกล่าวเป็นผู้ติดเชื้อฯ จึงให้พนักงานอยู่ที่บ้าน เพื่อรอรถพยาบาลมารับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม โรงแรมรอยัล คิงส์ จังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ 26 เมษายน 2564
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว จากผู้อำนวยการเขตการเดินรถที่ 4 จึงได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ดังต่อไปนี้
1. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้มีการแจ้งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อแจ้งรายละเอียดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) (ตามแนวทางปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อฯ) โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข
2. พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อย่างเคร่งครัด โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้ง มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง ซึ่งอุณหภูมิร่างกายของพนักงาน ตั้งแต่วันที่ 16 – 23 เมษายน 2564 อยู่ที่ 36.5 องศาเซลเซียส โดยไทม์ไลน์ของพนักงานสรุปได้ ดังนี้
วันที่ 16 - 17 เมษายน 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 4 หมายเลข 4 – 80349 ตั้งแต่เวลา 13.00 – 21.00 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที
วันที่ 18 เมษายน 2564 วันหยุดประจำสัปดาห์ พนักงานพักอาศัยอยู่ที่บ้าน
วันที่ 19 เมษายน 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 4 หมายเลข 4 – 80349 ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.40 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที โดยพนักงานเริ่มมีอาการเวียนหัวและเจ็บคอ
วันที่ 20 - 21 เมษายน 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 4 หมายเลข 4 – 80349 ตั้งแต่เวลา 13.45 – 21.15 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที
วันที่ 22 เมษายน 2564 พนักงานมีอาการเวียนหัวและเจ็บคอ จึงเดินทางไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ณ ศูนย์กีฬาเวชศาสตร์สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง หลังการตรวจเสร็จสิ้น ได้เดินทางมาทำงาน โดยปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 4 หมายเลข 4 – 80349 ตั้งแต่เวลา 13.00 – 21.00 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที
วันที่ 23 เมษายน 2564 เวลา 10.00 – 11.00 น. พนักงานได้เดินทางไปรับประทานอาหารที่บ้านของญาติ บริเวณตลาดคลองเตย หลังจากนั้นได้เดินทางมาทำงาน โดยปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 4 หมายเลข 4 – 80349 ตั้งแต่เวลา 13.30 – 22.15 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที
วันที่ 24 เมษายน 2564 เวลา 09.30 – 10.00 น. พนักงานได้เดินทางไปรับประทานอาหารที่บ้านของญาติ บริเวณตลาดคลองเตย ต่อมาเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ได้แจ้งให้ทราบว่าพนักงานเป็นผู้ติดเชื้อฯ จึงแจ้งหัวหน้างานเพื่อขออนุญาตกักตัวอยู่ที่บ้าน และรอรถพยาบาลมารับไปรักษาตัวในวันที่ 26 เมษายน 2564
วันที่ 25 เมษายน 2564 วันหยุดประจำสัปดาห์ พนักงานพักอาศัยอยู่ที่บ้าน
วันที่ 26 เมษายน 2564 รถพยาบาลมารับพนักงาน ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม โรงแรมรอยัล คิงส์ จังหวัดสมุทรปราการ
3. พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงกะบ่าย ซึ่งเป็นกะสุดท้ายของแต่ละวัน จึงไม่มีพนักงานขับรถคนใดนำรถไปขับต่อ อีกทั้ง เมื่อพนักงานขับรถโดยสารนำรถกลับเข้าอู่ในแต่ละรอบ จะมีการฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารทันทีด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70 % จึงมั่นใจได้ว่ารถโดยสารขององค์การมีความสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) นอกจากนี้ องค์การได้พักการใช้งานรถโดยสารธรรมดา สาย 4 จำนวน 1 คัน ที่พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติหน้าที่คือ รถโดยสารหมายเลข 4 – 80349 เป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อทำการฉีดพ่น ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถ รวมถึง อู่จอดรถและท่าปล่อยรถโดยสาร
4. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้มีการตรวจสอบ พบว่าพนักงานขับรถโดยสาร จำนวน 1 คน ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารคันเดียวกับพนักงานผู้ติดเชื้อ จึงให้พนักงานขับรถโดยสารดังกล่าวหยุดงานไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) หากได้ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร การล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารด้วยแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังนำรถออกวิ่งให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทาง
Advertisement