ตายแปลก! สองตาหลานดำน้ำยิงปลา ซัดหน้าไม้ปักหัวดับ เชื่ออาถรรพ์บ่อมรณะ (คลิป)

จากกรณี เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 64 เวลา 13.25 น. คุณตาอายุ 75 ปี และหลานชายอายุ 29 ปี ออกไปหาปลาที่บ่อน้ำ ระหว่างนั้นคุณตาได้คว้าปืนผาหน้าไม้ไปยิงปลา แต่พลาดไปโดนหลาน ทำให้หลานชายได้รับบาดเจ็บ ถูกลูกดอกของปืนหน้าไม้ยิงเข้าที่ขมับด้านขวา ก่อนนำส่งโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยผู้เสียชีวิตคือ นายสำเรืองฤทธิ์ เหล็กกล้า อายุ 29 ปี ส่วนคุณตาที่มาหาปลาด้วยกันทราบชื่อ นายสุทิน กิ่งมาลา อายุ 75 ปี

วันที่ 27 เม.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านกกข่า หมู่ที่ 9 ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายสำเรืองฤทธิ์ เหล็กกล้า อายุ 29 ปี มีญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ

นายสุทิน กิ่งมาลา อายุ 75 ปี ตาของผู้เสียชีวิต ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 11.00 น. นายสำเรืองฤทธิ์ ผู้ตายได้มาตามตนที่บ้าน บอกว่ากำลังตกปลาอยู่ แล้วเห็นปลาชะโดตัวใหญ่แต่จับไม่ได้ จะให้ตนเข้าไปช่วยจับปลา จากนั้นตนได้เดินทางมาที่บ่อน้ำเพื่อช่วยนายสำเรืองฤทธิ์ตกปลา และใช้วิธีดำน้ำยิงปลากัน คือดำลงไปในน้ำเพื่อหาปลา ก่อนจะใช้ปืนหน้าไม้ยิงเพื่อจับปลา แบ่งพื้นที่กันให้นายสำเรืองฤทธิ์ดำน้ำบริเวณริมน้ำ ส่วนตนดำน้ำอยู่บริเวณเกาะกลาง

ระหว่างที่ดำน้ำ ตนเห็นปลาชะโดตัวใหญ่ ขนาดประมาณ 8 กิโลกรัม กำลังว่ายน้ำอยู่ ตนจึงดำน้ำตามไป เมื่ออยู่ในระยะที่ยิงปลาได้ ตนจึงตัดสินใจยิงปืนหน้าไม้ออกไปทันที หลังจากที่ตนยิงปืนหน้าไม้เสร็จได้ดึงเชือกที่ผูกติดกับลูกดอกจับปลามาเพื่อดูเหยื่อ แต่เหยื่อดังกล่าวไม่ใช่ปลา เป็นนายสำเรืองฤทธิ์ หลานชายของตนเอง

ขณะนั้นตนตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ดึงลูกดอกทิ้งลงน้ำและประคองหลานชายขึ้นมาบนฝั่ง พร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ โดยลูกดอกมีความยาวประมาณ 3 นิ้ว แต่ปักเข้าไปที่บริเวณขมับด้านขวาของหลานชายลึกประมาณ 2 นิ้ว ปกติแล้วตนกับนายสำเรืองฤทธิ์จะไปตกปลาด้วยกันเป็นประจำ เพราะรักการตกปลาเหมือนกัน และไม่เคยเกิดอุบัติเหตุลักษณะนี้มาก่อน เพราะตนตกปลามาตั้งแต่ยังหนุ่มแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกสงสารหลานชายมาก เพราะตนรักหลายชายคนนี้มาก เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก หากหลานชายได้ยินตนอยากจะบอกว่าอยากจะตายแทน และให้หลายชายได้มีชีวิตอยู่ต่อ เพราะหลานชายยังอายุน้อย

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณบ่อน้ำหนองตามอน ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ มีพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ และบ่อน้ำมีความลึกประมาณ 2-3 เมตร ห่างจากเกาะกลางประมาณ 1 เมตร และระดับน้ำลึกประมาณ 2 เมตรกว่า จุดที่ตากับหลานชายดำน้ำห่างกันมาก คือหลานชายดำน้ำอยู่ริมบ่อน้ำ แต่ตาดำน้ำบริเวณเกาะกลาง

นายบุญเลี้ยง จันทร์หง่อม อายุ 66 ปี ตาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. หลานชายกับตาได้มาดำน้ำยิงปลากัน และเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นทำให้หลานชายถูกยิงเสียชีวิตในเวลา ประมาณ 15.00 น. ทั้งนี้ตากับหลานชายเพิ่งมาดำน้ำหาปลาที่บ่อน้ำแห่งนี้ได้แค่ 2 วัน คือวันที่ 24-25 เม.ย. เพราะปกติจะไปหาปลากันที่บ่อน้ำอื่น โดยทั้งคู่มีความชำนาญเรื่องการจับปลา ทำให้ตนรู้สึกแปลกใจมากว่าทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้นได้

โดยนายสุทิน เป็นคนชำนาญเรื่องการหาปลา ก่อนจะยิงปืนผาหน้าไม้ นายสุทินจะไม่ได้ยิงสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะคนจับปลาเป็นจะต้องดูให้ละเอียดก่อนว่าปลาอยู่ตรงจุดไหน เพื่อไม่ให้ยิงพลาด แต่เหมือนมีสิ่งอะไรแปลกปลอมมาบังตา ทำให้นายสุทินมองเห็นเป็นอย่างอื่น เพราะสิ่งที่นายสุทินเห็นต้องเป็นปลาอยู่แล้ว และนายสุทินยังเล่าว่าเห็นตัวปลาว่ายน้ำไปจึงตัดสินใจยิง แต่ปรากฏว่ายิงถูกหลานชาย ทั้งที่หลานชายดำน้ำอยู่กันคนละทิศ เพราะเวลาที่จับปลาจะต้องยืนจับปลากันคนละทิศ เพื่อป้องกันการพลาดมาโดนกันเอง อีกทั้งจะต้องขอเจ้าที่เจ้าทางก่อนว่าขออนุญาตมาหาปลา ขอให้ปลอดภัยดี และขอให้ได้ปลากลับบ้านไป ซึ่งเป็นไปได้ว่า ผู้ตายอาจจะไม่ได้ไหว้ขอเจ้าที่ ส่วนตัวเชื่อว่า อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของอาถรรพ์ เพราะเคยมีคนเห็นปลาขนาดใหญ่ กระโดดน้ำเสียงดังเหมือนเด็กกระโดดน้ำ คล้ายกับเป็นปลาเจ้าที่ แต่ตนไม่เคยเห็นกับตา เพราะเวลาไปไหนจะไหว้เจ้าที่ตลอด

พื้นที่บริเวณนี้ไม่ได้ตายบ่อย แต่เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มีผู้หญิงขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักจมน้ำตาย และก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน เคยมีคนจมน้ำตายประมาณ 2 ศพ ทั้งนี้เวลาตายโหงจะต้องทำพิธีอัญเชิญวิญญาณ เพื่อให้วิญญาณกลับเข้าร่าง และจากนั้นจะต้องทำพิธีเลี้ยงส่งวิญญาณ คือนำของดิบมาเซ่นไหว้ เพื่อให้วิญญาณไม่อดอยาก เพราะถ้าวิญญาณหิว วิญญาณจะกลายเป็นหัวหน้า และจะหาอะไรกิน โดยไปลากชีวิตคนอื่นมาตายอีก ตนกลัวว่า จะกลับมาเป็นอาถรรพ์ ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีทางศาสนา ตนคิดว่าจะมาทำพิธีเลี้ยงส่งอีก

นางสาววัชราภรณ์ ครุฑสุวรรณ อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ครั้งสุดท้ายที่เห็นกันคือ ช่วงเย็น ของเมื่อวันที่ 24 เม.ย. แต่ไม่ได้คุยอะไรกันเป็นพิเศษ จากนั้นช่วงเช้าของวันที่ 25 เม.ย. ผู้ตายก็ออกไปหาปลาตามปกติ ทำให้ไม่ได้เจอกันอีก
กระทั่งช่วงบ่ายของวันนั้นมีคนมาบอกว่าผู้ตายอยู่โรงพยาบาล ตนจึงตามไปทันที แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตก่อนแล้ว

ทั้งนี้ ผู้ตายไม่เคยพูดเป็นลาง และไม่มีสัญญาณบอกเหตุมาก่อน ผู้ตายเพิ่งจะเริ่มตกปลาได้ประมาณ 1 ปีกว่า บางครั้งก็นำไปขาย และบางครั้งก็ตกปลาเล่น เพราะเป็นความชอบส่วนตัว ผู้ตายกับนายสุทินมักจะไปหาปลาด้วยกันเป็นประจำ เพราะนายสุทินอายุเยอะแล้ว ไม่ค่อยมีใครชวนไปตกปลา มีแต่ผู้ตายที่ยอมไปตกปลาด้วยตลอด อีกทั้งตนกับผู้ตายคบหากันมาประมาณ 7 ปีแล้ว มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน อายุ 3 ปี กับ 4 ปี ผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังจากนี้คงจะขาดเสาหลักไป แต่ตนต้องสู้ต่อไป เพราะเมื่อนานมาแล้วผู้ตายเคยบอกกับตนให้อยู่เพื่อต่อสู้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้รู้สึกโกรธตา เพราะตนเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ตนยังทำใจไม่ได้