แฉกลโกงบุญลูกโซ่ "แม่ชีเอ้" ลงทุน 2 พันปันผลเท่าตัว เหยื่อผวากฎเหล็กห้ามสงสัย (คลิป)

27 เม.ย. 64

กรณีพบผู้เสียหายรวมกว่า 100 คน ในพื้นที่ จ.นครพนม ร่วมทำบุญกับสำนักปฎิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ออกอุบายว่าเป็นพระธรรมิกราช ในร่างของภิกษุณี ลงมาโปรดมนุษย์ ขอให้ทุกคนช่วยกันทำบุญผ้าป่าเริ่มต้น กองละ 3,555 บาท จากนั้นจะได้รับค่าตอบแทนเป็นทองคำ 1 สลึง หรือ 6,000 บาท หลังจากนั้นได้มีกลุ่มลูกศิษย์หลงเชื่อนำเงินมาถวายจำนวนมาก สุดท้ายไม่ได้ทองคำและเงินสดนั้น

251469

วันที่ 27 เม.ย. 64 ตำรวจเข้าตรวจค้นสถานปฏิบัติธรรมภิกษุณีอิสรีย์ หรือ แม่ชีเอ้ พร้อมแจ้งข้อหาและเชิญตัวไปที่โรงพัก รวมทั้งหมด 4 ผู้ต้องหา ตอนนี้แยกส่งไปสอบตามพื้นที่แล้วนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โผล่ภิกษุณีลัทธิใหม่กฐินเงินแลกทอง เหยื่อสูญครึ่งล้าน คลิปว่อนชีสื่อเทพแต่พระปัดเอี่ยว

716839

ส่วนที่ สภ.ท่าอุเทน มีรายงานว่าชาวบ้านรวมกว่า 150 คน ถูกกลุ่มแม่ชีในสำนักปฎิบัติธรรมหลอกให้มีการถวายกองผ้าป่า สูญเงินกว่า 7 ล้านบาทนั้น มีการตั้งเต็นท์อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในช่วงโรคระบาดโควิด-19 ให้พักคอย จากนั้นเมื่อถึงคิวก็ให้เข้าไปพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ สังเกตว่ามีชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายเดินทางมารอแจ้งความดำเนินคดีหลายราย

833935

นายสาวแจง (นามสมมติ) อายุ 44 ปี ผู้เสียหายได้นำเงินจำนวนกว่า 103,000 บาท ไปรวมกองผ้าป่า 40 กอง เปิดใจว่า ตนเองไม่เคยรู้จักกับสำนักปฎิบัติธรรมดังกล่าว แต่ได้ยินคำสอนจากแม่ชีทองพูล อ้างว่าเป็นตัวแทนของสำนักปฏิบัติธรรม เดินทางมาเพื่อเผยแพร่หลักคำสอน เกี่ยวกับการถวานเงินแล้วได้เงิน เห็นชาวบ้านหลายคนมีความเชื่อยอมที่จะนำเงินไปถวาย จึงได้มีการร่วมถวายครั้งแรกจำนวน 5 กอง กองละ 3,555 บาท แล้วไม่นานก็ได้รับสร้อยทอง 1 สลึง 5 เส้น หลังจากที่เห็นผลตอบแทนที่ได้รับ ซึ่งเป็นไปตามที่แม่ชีได้มาพูดเอาไว้ จึงได้เกิดความคิดที่จะร่วมถวายเพิ่มเติม

514795362497

แต่สังเกตว่าระยะหลัง แม่ชีเริ่มมีเงื่อนไขให้ทุกคนถวายเป็นเงินสด ตนเองต้องไปนั่งรอที่ธนาคารตั้งแต่เช้า เพื่อถอนเงินสดมาร่วมกองทุนเพิ่ม อีกทั้งแม่ชียังมีการบังคับให้ทุกคนรีบจ่ายเงิน ให้ไปรวบรวมสมาชิกให้ได้ 150 คน เพราะแม่ชีอ้างว่ามีสร้อยที่พร้อมจะมอบให้ 150 เส้น ดังนั้นต้องได้ตามปริมาณที่ต้องการก่อน จึงจะมีการให้ถวายกองผ้าป่า ทุกคนจึงได้ไปรวบรวมชาวบ้านและนำเงินมาถวาย เพื่อหวังจะได้รับสร้อยคอทองคำตามที่แม่ชีอ้าง แต่หลังจากที่มีการถวายไปแล้ว แม่ชียังสอนและพูดเป็นคติธรรมอีกว่า การที่ร่มถวายบุญครั้งนี้ต้องเก็บเป็นเรื่องเงียบ ไม่บอกใคร ไม่พูดมาก ถ้าหากพูดมากจะมีอันเป็นไป รถจะพุ่งชนทำให้ถึงแก่ความตาย

714735828990

หลังจากที่ทุกคนได้มีการรวบรวมกองผ้าป่าจำนวน 150 กอง ถวายให้กับแม่ชีไปแล้ว ทุกคนต่างรอตามวันเวลาที่จะได้รับทอง สุดท้ายก็พบว่าถูกหลอก จึงได้เดินทางมาที่โรงพักเพื่อแจ้งความดำเนินคดี ในมุมหนึ่งในฐานะผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ยอมรับว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะตัวเองที่ไปหวังเรื่องผลตอบแทนหรือความโลภ ทำให้ตกเป็นเหยื่อ ในวันนี้หลังจากที่เจ้าตัวถูกดำเนินคดี หรือถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแล้วก็รู้สึกดีใจ อยากให้ชดใช้เวรกรรมตามกฎหมาย อยากให้มีการคืนเงินให้กับผู้เสียหาย รวมทั้งออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

115897

นายนนท์ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย นำเงิน 85,000 บาท ไปรวมกองผ้าป่า 25 กอง เปิดใจว่า ตนเองเคยไปที่สำนักปฎิบัติธรรม 1 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นเงื่อนไขของการเข้าไปด้านในจะต้องมีการนุ่งขาวห่มขาว แต่ก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปภายในศาลาภิกษุณีอยู่ เพราะอ้างว่าเป็นพื้นที่เฉพาะบุคคล หรือลูกศิษย์คนสนิท แต่เว้นว่าถ้าหากลูกศิษย์ที่มาปฎิบัติธรรมเป็นผู้มีบุญก็จะได้เจอภิกษุณีเอง และทุกครั้งที่เข้าไปด้านในก็จะถูกสั่งห้ามไม่ให้ถามหรือสงสัย แม้แต่เห็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เช่น พระสงฆ์ก้มกราบแม่ชี คือภิกษุณี ที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้สูงกว่าพระสงฆ์ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่แปลกและไม่สมควร

373618

ซึ่งคนที่อยู่ด้านในสำนักปฎิบัติธรรมจะพูดกรอกหูเสมอว่าภิกษุณีคือผู้ที่สูงส่งและเป็นพระอรหันต์ สังเกตได้จากพระสงฆ์ยังต้องก้มกราบ การเดินทางไปที่สำนักปฏิบัติธรรม ภายในพื้นที่มีพานทองจำนวนมาก สำหรับกรณีการถูกหลอกเกิดจากกิเลสและความโลภ แม้ว่าจะรู้ว่าสำนักปฎิบัติธรรมมีจริง แต่ก็ดันเชื่อในสิ่งที่เคยได้รับสร้อยคอทองคำหรือผลตอบแทน อีกทั้งรูปแบบของการถวายกองผ้าป่าที่เรียกว่ากองทอง หรือจะได้รับทองคำจะต้องลงทุนในราคา 3,000 บาทขึ้นไป แต่ก็ยังมีกลุ่มแม่ชีทำเป็นรูปแบบใหม่ขึ้นมา โดยเรียกว่ากองเงิน จะต้องถวายเงินกองละ 2,000 บาท จะได้เงินคืนภายใน 3-5 วัน จำนวน 4,000 บาท ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียกว่าได้เงินเร็ว จ่ายน้อย ทำให้มีชาวบ้าน 4 หมู่บ้านถูกหลอกจำนวนมาก เพราะถวายเงินแค่กองละ 2,000 บาท

วันนี้หลังจากที่ภิกษุณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้แล้ว ตนเองรู้สึกดีใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวก็อยากให้ได้รับโทษสูงสุด และออกมารับผิดชอบต่อการกระทำ โดยเฉพาะการออกมาหลอกลวงประชาชนหรือเป็นไปได้ก็อยากให้มีการคืนเงินให้กับประชาชน เพราะในคดีนี้มีทั้งคนแก่และเด็กหลงเชื่อ ส่วนกรณีที่ทราบว่าในบัญชีล่าสุดของภิกษุณีมีเงินเหลือเพียงแค่ 8 บาท ตนเองรู้สึกแปลกใจไม่รู้ว่ามีการโอนหายไปที่ไหน แต่ก็อยากให้มีการยึดทรัพย์แล้วคืนเงินให้กับผู้เสียหาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม