กรณีพบผู้เสียหายในพื้นที่ จ.นครพนม ร่วมทำบุญกับสำนักปฎิบัติธรรม ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ออกอุบายว่าเป็นพระธรรมิกราชในร่างของภิกษุณี ขอให้ทุกคนช่วยกันทำบุญผ้าป่าเริ่มต้น กองละ 3,555 บาท ได้รับค่าตอบแทนเป็นทองคำ 1 สลึง หรือ 6,000 บาท มีกลุ่มลูกศิษย์หลงเชื่อนำเงินมาถวายจำนวนมาก สุดท้ายไม่ได้ทองคำและเงินสด
วันที่ 27 เม.ย. 64 ตำรวจเข้าตรวจค้นสถานปฏิบัติธรรม ภิกษุณีอิสรีย์ หรือ แม่ชีเอ้ พร้อมแจ้งข้อหาและเชิญตัวไปที่โรงพัก รวมทั้งหมด 4 ผู้ต้องหา แยกส่งไปสอบตามพื้นที่แล้วนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รวบชีอรหันต์แจกบุญลูกโซ่เหยื่อสูญ 10 ล้าน อึ้งใส่วิกซื้อทองแหกตา ฉะสื่อ "โง่"
- แฉกลโกงบุญลูกโซ่ "แม่ชีเอ้" ลงทุน 2 พันปันผลเท่าตัว เหยื่อผวากฎเหล็กห้ามสงสัย
- ศิษย์ป้องชีอรหันต์เสกทองไม่ผิด ฉะสื่อแฉคลิปคุยเทพกุข่าว "พระต้อง" ร่วมก๊วนเคยสึก
- เปิดใจ! พี่แม่ชีเอ้ยันน้องไม่บ้า ช็อกอวดเป็นอรหันต์ เปิดกลโกงทำบุญด้วยหินสร้างศรัทธา
- โผล่ภิกษุณีลัทธิใหม่กฐินเงินแลกทอง เหยื่อสูญครึ่งล้าน คลิปว่อนชีสื่อเทพแต่พระปัดเอี่ยว
วันที่ 28 เม.ย. 64 ช่วงเช้าพนักงานสอบสวน สภ.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ได้สรุปสำนวนคดีนางสาวอิสรีย์ อินทร์ไชยา อายุ 49 ปี ผู้อ้างเป็นพระยาธรรมิกราช ในข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน ยื่นฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยผู้ต้องหาหลอกลวงเหยื่อลงทุนสะสมบุญด้วยการซื้อกองผ้าป่าเงินผ้าป่าทองคำนั้น
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาด้วย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด จึงต้องลดจำนวนความแออัดภายในห้องควบคุมศาล ใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากศาลจังหวัดนครพนมไปยัง สภ.กุตาไก้ ตลอดทั้งวันไม่มีญาติของนางสาวอิสรีย์มาแสดงตน เพื่อขอประกันตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งเรือนจำกลางจังหวัดนครพนมตามขั้นตอน
นอกจากนี้ มีสาวกของนางสาวอิสรีย์ที่แต่งกายเป็นแม่ชี นุ่งห่มชุดขาว ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ คือ น.ส.ดรุณี จันทะนาม หรือแม่ชีทองพูน, น.ส.ไพลิน สุนทรสุวรรณ หรือ แม่ชีการ์ตูน และนางกิติยา หรือ เพลิน ฆราวาส โดยญาติของนางเพลินพยายามยื่นขอประกันตัว แต่ศาลไม่อนุญาต ทำให้ทั้งหมดต้องนอนเรือนจำ
น.ส.อิสรีย์ เจ้าตัวยังพูดจาวกวนไปมา ยืนยันว่า ตนเป็นอริยบุคคล เทียบเท่าอริยสงฆ์ ไม่ยึดติดกับสิ่งใด ไม่รับรู้สิ่งใดในโลกนี้แล้ว ส่วนการจัดตั้งกองทุนผ้าป่า เป็นการทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนยากจน แต่จะมีเวลาคืนเงินให้ ตามความเชื่อศรัทธาจะต้องมีฤกษ์ยามที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคืนให้ แต่คนที่มาร่วมทำบุญเกิดความโลภ จึงเกิดปัญหาขึ้น
โดยคืนนี้เป็นคืนแรกที่จะต้องเข้าสู่เรือนจำพิเศษจังหวัดนครพนม ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากพนักงานสอบสวนว่า ภิกษุณีอิสรีย์, แม่ชีการ์ตูน, แม่ชีทองพูน ยังมีสมณเพศเป็นแม่ชี และเจ้าตัวต้องการที่จะสวมใส่ชุดขาว เบื้องต้นได้มีการฝากขังและให้สวมใส่ชุดขาวตามที่ต้องการได้ เป็นเงื่อนไขอนุโลมจากทางเรือนจำหญิง ส่วนนางเพลิน ได้มีการเปลี่ยนชุดเป็นของเรือนจำ การหลับนอนในคืนนี้ก็จะเป็นไปตามมาตรการในเรือนจำ ไม่มีการแบ่งแยก นอนรวมกับผู้ต้องขังรายอื่น
จากการตรวจสอบบนเฟซบุ๊กของแม่ชีการ์ตูน มีการโพสต์ภาพใบหน้าตัวเองและข้อความทั่วไป ลักษณะผมยาว สวยใสฟรุ้งฟริ้งสไตล์วัยรุ่น และมีสีผมเดียวกับที่ตำรวจตรวจพบวิกผมภายในสำนักปฏิบัติธรรมด้วยนั้น ซึ่งจะพบว่ามีการโพสต์ภาพเรื่อย ๆ แทบทุกวัน โดยพื้นหลังของภาพนั้นคล้ายกับอยู่สถานที่ใดสถานที่หนึ่งนอกสำนักปฏิบัติธรรม
นอกจากนี้ บนแอฟพลิเคชัน TikTok ของแม่ชีการ์ตูน หลุดจากภาพลักษณ์การเป็นแม่ชี มีผู้ติดตาม 52 บัญชี มีการลงคลิปวิดีโอจำนวนมาก ประกอบกับเพลงต่าง ๆ และมีคลิปที่ไปท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ด้วย ลักษณะผมยาวเช่นเดียวกับบนเฟซบุ๊ก
นางสาวเจน (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของแม่ชีการ์ตูน หรือ นางสาวไพลิน สุนทรสุวรรณ ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับแม่ชีการ์ตูนเมื่อช่วงปลายปี 2563 ตอนนั้นแชีการ์ตูนได้มีการทักพูดคุยผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีลักษณะตามจีบ แม่ชีการ์ตูนเป็นผู้หญิงที่ชอบสาวทอม แต่ในเฟซบุ๊กยังคงแต่งเป็นหญิงตามปกติ ตนคาดไม่ถึงว่าช่วงที่คุยกันนั้น เป็นช่วงที่เข้าไปบวชอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมพร้อมทั้งมีการโกนหัว โกนคิ้วแล้ว
เมื่อมีการพูดคุยรู้จักกันได้ระยะหนึ่ง แม่ชีการ์ตูนได้นัดให้ไปเจอกันที่ห้างฯ ในตัวเมืองนครพนม แม่ชีการ์ตูนอ้างว่าจะนำของขวัญวันเกิดมาให้ ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เจ้าตัวได้มีการพูดถึงกองทุนผ้าป่า อ้างว่าถ้าหากมีการทำผ้าป่าจำนวนกองละ 3,000 บาท จะได้รับสร้อยคอทองคำ 1 เส้น แต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจ เพราะการพูดคุยวันนั้นเหมือนเป็นการพูดคุยคนละภาษา ตนเองพูดด้วยความเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ฟังแม่ชีการ์ตูนพูดเหมือนพวกปฏิบัติธรรมถือศิล อ้างถึงการทำบุญแล้วได้ไปสวรรค์ ทำบุญแล้วได้รับบุญใหญ่ ตนเองจึงเลือกที่จะปฏิเสธ หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีผู้เสียหายถูกหลอก ยอมรับว่าโชคดีที่ไม่ตกเป็นเหยื่อ
ทั้งนี้ ตนเองมานั่งดูข่าวที่มีการจับกุมเมื่อวานนี้ พบว่าที่พักของแม่ชีการ์ตูนมีเครื่องแต่งกายของผู้หญิง วิกผมสีน้ำตาลแดง ค่อนข้างตกใจ เพราะย้อนกลับไปในช่วงที่เริ่มต้นรู้จักกัน เป็นช่วงที่คาดว่าแม่ชีการ์ตูนอยู่ระหว่างการบวชที่สำนักปฎิบัติธรรม มีการใส่วิกผม แต่งหน้าเขียนคิ้ว ใส่หน้ากากอนามัย เพราะเป็นช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจว่ามีการปลอมตัว หลังจากที่ทราบข่าวก็ตกใจพอสมควร
