เปิดใจ หมอแนต หัวหน้าทีมชุด PPE ย้ายคนไข้โควิดหนัก 100 กก.ก่อนมี จนท.เป็นลม ขอประชาชนร่วมส่งกำลังใจให้บุคลากร
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Amol Singhsakul โพสต์ภาพขอกำลังใจให้ทีมบุคลากรการแพทย์ ขณะให้นำคนไข้ที่นอนบนเตียงเคลื่อนย้ายเข้าสู่ตึกโรงพยาบาล พร้อมระบุข้อความว่า
“ณ เวลาบ่ายคล้อย แดดเดือด รพ.กลางสวนมะพร้าวของ พญ.ตอบรับเคสส่งต่อมารักษาต่อจากพี่สาวคนเก่ง (คือนางส่งมาให้แปลว่าต้องรับแหละ ไม่สุดจริงนางไม่ส่งหรอก) ข้อมูลคร่าวๆ คือคนไข้ นน.100++ และให้ steroid high doseสุดๆ แล้วยังไม่ค่อยดี ขณะ พญ.ยืน observe ภาพที่เห็นคือความทุลักทุเล ยกเตียง capsule คนไข้ ยกๆ หล่นๆ เข็นไม่ได้ เดินต่อไม่ได้
สักพักมีมนุษย์หมีคนนึง ค่อยๆ ล้มลง เป็นลมนั่งลงข้างทาง เพื่อนที่เหลือพยายามยกเตียงเพื่อให้ล้อกางแต่ด้วย นน.ของคนไข้+ใส่ชุดหมี และแดดเดือดๆ ทำให้ไม่สำเร็จ จนท.ของบ้านแพ้วที่ไม่ได้ใส่ชุดหมีพยายามสื่อสารให้ความช่วยเหลือกันวุ่นวาย พักใหญ่ๆ จนท.จาก ICU พร้อมชุดหมีวิ่งออกไปช่วยกันยกเตียงขึ้นสุดเพื่อให้ขาเตียงกางออกได้ และเข็นได้
สรุปคือ……เตียงลงจากรถแล้วขาล้อไม่กางออก และ จนท.คนนึงเป็นลม สงสารจับใจ ช่วยอะไรไม่ได้เพราะไม่ได้ใส่ชุดหมี นี่คือโฉมหน้า 1 ในทีมมนุษย์หมีค่ะ นางมาส่งคนไข้เอง พญ.แนต หมอที่ดูคนไข้โควิดเยอะสุดในประเทศ สภาพออกจากหมีคือเปียกค่ะ เหงื่อค่ะ แต่นางก็ยิ้มนะ อยากเข้าไปกอดนาง แต่นางเปียก!!!!! #ขอกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ด้วยค่ะ”
โพสต์ดังกล่าวหลังมีการเผยแพร่ออกไป มีผู้แชร์ต่อและเข้ามาคอมเม้นท์ชื่นชมและให้กำลังใจทีมแพทย์จำนวนมาก โดยบางส่วนเรียกร้องให้จ่ายค่าเสี่ยงภัยให้แก่เจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวเข้าพูดคุยกับ หมอแนต แพทย์หญิงนิษฐา เอื้ออารีมิตร อายุรแพทย์โรคระบาดทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤตประจำ รพ.เอกชัย หรือหัวหน้าทีมชุด PPE ในภาพ ออกมาเปิดใจว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ รพ.เอกชัย มีผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนแรงดันสูงจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างทั่วถึง รวดเร็ว เกิดความปลอดภัยต่อผู้ป่วยนั้น ทางทีมแพทย์เห็นว่าต้องส่งคนไข้ไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น ซึ่งก็ได้ทาง รพ.บ้านแพ้ว รับเคสคนไข้รายดังกล่าวไปอยู่ในการดูแลรักษา
หมอแนต กล่าวว่า ทาง รพ.จึงรีบนำผู้ป่วยรายนี้ที่มีน้ำหนักว่า 100 กก.ไปส่งภายใต้มาตรการโควิด-19 ซึ่งต้องนอนบนเตียงครอบ และยังต้องลดจำนวนผู้สัมผัสใกล้ชิดให้น้อยที่สุด จึงมีใช้เจ้าหน้าที่เพียง 3 คนเท่านั้นคือ หมอแนต พยาบาลหญิง และคนขับรถ แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าล้อรถไม่กางออก อีกทั้งคนไข้ก็มีน้ำหนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นตึกเกิดความทุลักทุเล ประกอบกับอากาศร้อนและต้องใส่ชุด PPE ตลอดเวลา จึงเป็นเหตุให้คนขับรถที่ร่วมนำส่งด้วยเกิดอาการหมดแรง หายใจไม่ทันต้องไปนั่งพักดังภาพที่เห็น
ส่วนหมอแนตกับพยาบาลที่เหลือเพียง 2 คน ก็ต้องช่วยกันประคองรถเข็นคนไข้เข้าที่ร่มก่อนนำออกซิเจนถังเล็กไปต่อให้คนไข้ และขอให้เจ้าหน้าที่ รพ.บ้านแพ้วมาช่วย ซึ่งเมื่อนำคนไข้เข้าตึกได้แล้ว หมอก็ไปดูพนักงานขับรถที่เป็นลมอยู่ที่พื้น โดยไม่ได้ถอดถุงมือ และไม่ได้ถอดชุดออก จึงต้องให้คนขับรถต้องแยกโรคเพราะมีโอกาสสัมผัสความเสี่ยงสูง ซึ่งคนที่นำเชื้อไปให้น้องเขาคือตัวหมอแนตเอง
พญ.นิษฐาบอกอีกว่า อยากบอกกับประชาชนให้เห็นใจกับบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงนี้ คิดว่าเป็นหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่จะต้องดูแลคนไข้ทุกคนอยู่แล้ว จึงทำให้ช่วงนี้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมาก แต่ด้วยบริบทของโรงพยาบาลแต่ละสถานที่ ความจำกัดด้านอุปกรณ์และบุคลากรที่มีอยู่ บางครั้งจึงไม่สามารถดูแลได้ดีไม่ครบถ้วน 100% แต่หมอและบุคลากรทางการแพทย์พร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จึงขอแค่ให้ทุกคนเข้าใจ เป็นกำลังใจให้กับทีมบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนให้สู้กับสถานการณ์โควิด-19 นี้