กระแสมาแรง กับชีวิตอันน่าเศร้าของเหล่า สัตว์ทดลอง

29 เม.ย. 64

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคงมีคนเห็นแฮชแท็ก #SaveRalph กันไม่น้อย ซึ่งกำลังมาแรงๆสุดๆ ว่าด้วยกระแสการรณรงค์เกี่ยวกับการแบนผลิตภัณฑ์ที่มีการทดลองสารเคมีกับสัตว์ต่างๆในขั้นตอนการผลิต และหันไปใช้สินค้าที่มี Cruelty-Free หรือผลิตภัณฑ์ที่การันตีว่าไม่มีการทดลองกับสัตว์แทน แล้วทำไมกระแสงที่ว่าถึงได้เป็นที่สนใจและมีการรณรงค์กันมากขึ้นเรื่อย ๆ สาหตุก็คงเป็นเพราะชีวิตอันน่าเศร้า ของเหล่าสัตว์ที่ถูกนำมาทดลองนั่นเองmessageimage_1619669945797การทดลองกับสัตว์นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะมนุษย์ทำการทดลองกับสัตว์มานานกว่า 100 ปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์ ด้านยารักษาโรค หรือด้านอื่นๆ เพราะหากไม่มีการทดสอบสิ่งเหล่านั้นก่อนนำมาใช้จริง ก็อาจเกิดผลเสียกับมนุษย์ด้วยกันเองได้ แต่ผู้คนในทุกวันนี้เริ่มตระหนักแล้วว่า การทดลองสิ่งต่างๆกับสัตว์ ในบางครั้งมันก็ดูจะโหดร้ายเกินไปหน่อย แม้ว่าในหลายๆด้านจะยังมีความจำเป็นในการทดลองmessageimage_1619670323476

แต่กระแสรณรงค์ที่กำลังมาแรง เน้นไปที่การทดลองซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องเกิดขนั่นคือการทดลองเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์กับสัตว์ ซึ่งรวมไปถึงของใช้พวก สบู่ แชมพู ยาสีฟันด้วย เพราะในขั้นตอนการทดลองนั้นถือว่ารุนแรงต่อสัตว์และทำให้สัตว์เหล่านั้นพิการหรือเสียชีวิตได้ ซึ่งสัตว์เหล่านั้นก็มีทั้งกระต่าย หนูตะเภา หนู หรือแม้แต่สุนัข และอาจต้องใช้สัตว์หลายร้อยถึงหลายพันตัว เพื่อทดสอบสารเคมีชนิดเดียว โดยการทดลองหลักๆจะมีอยู่ 4 แบบคือ

  1. Skin Irritation Test : การทดสอบการระคายเคืองต่อผิว
  2. Phototoxicity Test : การทดสอบความเป็นพิษเมื่อเจอแสง
  3. Ocular Irritation Test : การทดสอบการระคายเคืองต่อดวงตา
  4. Transdermal Permeability Test : การทดสอบความสามารถในการซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังmessageimage_1619670094214โดยการทดลองแต่ละแบบก็จะใช้วิธีที่แตกต่างกันไป เช่น หยอดสารเคมีเข้าไปในดวงตา กล้อนขนและทาสารเคมีลงบนผิว ฉีดสารเคมีเข้าไปในตัวโดยตรงและให้โดนแดด เป็นต้น ซึ่งหากสารเคมีเหล่านั้นเป็นมิตรและใช้ได้จริงก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ามันเป็นสารเคมีตัวที่รุนแรงเกินไป ก็จะส่งผลต่อร่างกายสัตว์ทดลองโดยตรงทั้ง ตาบอด ผิวหนังไหม้รุนแรง หูหนวก มีแผลอักเสบ ฯลฯ สุดท้ายก็เสียชีวิต

ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนเริ่มรณรงค์กันมากขึ้น และในปัจจุบันเองแบรนด์สินค้าหลากหลายแบรนด์ก็เลิกทดลองกับสัตว์แล้ว เพราะสามารถใช้เนื้อเยื่อสังเคราะห์ในการทดลองแทนได้ แต่ราคายังคงสูงอยู่ทำให้ต้นทุนเพิ่มตาม จึงยังมีแบรนด์ที่ังทดลองกับสัตว์ และถึงแม้ว่าจะมีการห้ามใช้สัตว์ทดลองใน 40 ประเทศ แต่หลายประเทศกลับมีนโยบายที่ต่างออกไป ซ้ำยังมีกฎหมายเกี่ยวกับสารเคมีในบางประเทศ ที่กำหนดให้ต้องมีการทดสอบในสัตว์เพิ่มขึ้นmessageimage_1619669880098ผู้บริโภคอย่างเราจึงมีตัวเลือกในการใช้เครื่องสำอาง Cruelty-free ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ โดยสามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์รูปกระต่ายบนผลิตภัณฑ์นั้น ๆ รวมถึงมีบางองค์กรที่รวบรวมรายชื่อแบรนด์ที่เป็นสินค้า Cruelty-free ออกมาด้วย เช่น crueltyfree.peta.org

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวประชาสัมพันธ์ เป็นกระแส