จากกรณี น้องหญิง อายุ 19 ปี เสียชีวิตขณะเดินทางกลับบ้าน หลังจากไปเที่ยวกับเพื่อน ใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยอ๊อฟ ชายแปลกหน้าที่ขับรถไปส่งหญิงกลับบ้าน อ้างว่าหญิงกระโดดลงจากรถ จนทำให้กะโหลกศีรษะแตก เสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านญาติของหญิง ส่งศพตรวจพิสูจน์พบว่า ผลการตรวจขัดแย้งกับคำพูดของอ๊อฟ ประกอบกับที่ร่างของหญิงไม่มีรอยแผลจากการกระโดดลงรถ ล่าสุด ญาติสั่งเก็บศพไว้ ยังไม่กำหนดวันพิธีฌาปนกิจ เพื่อรอให้มีความชัดเจนก่อน
ที่วัดเกิดการอุดม ถนนเลียบคลองสาม ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ที่ตั้งศพของน้องหญิง โดยมีพิธีสวดบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 คืน ก่อนจะตั้งศพไว้ ยังไม่กำหนดการพิธีฌาปนกิจ พระณรงค์ สาทโร พระเจ้าหน้าที่ประจำวัดเกิดการอุดม เปิดเผยว่า ทางเจ้าภาพยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงยังไม่อยากให้ฌาปนกิจศพ และขอให้ตั้งศพไปจนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน ทางวัดก็ยินดีที่จะทำตาม และไม่ได้กังวลว่าการเก็บศพเกิน 7 วัน จะเป็นเรื่องไม่ดี หากเจ้าภาพจะฌาปนกิจก็ขอให้รีบมาแจ้ง เพราะจะต้องทำการสวดอภิธรรมอีก 1 คืน ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะมีการฌาปนกิจ
ต่อมา นายสุบิน ยาวิราช พ่อของหญิง ผู้เสียชีวิต พร้อมญาติ จุดธูปเคารพศพลูก จากนั้นพ่อเดินไปเคาะโลงศพของลูกสาว 3 ครั้ง ก่อนจะเดินออกมา ซึ่งศพของน้องหญิง ถูกแช่ไว้ในโลงเย็น ด้านหลังของโลงศพที่ตั้งอยู่ เพื่อให้ร่างคงสภาพเดิมมากที่สุด ถ้าหากต้องใช้ร่างพิสูจน์หลักฐาน เนื่องจากญาติยังติดใจการเสียชีวิต
นายสุบิน เปิดเผยว่า ตนยังติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่เกิดเรื่องจนกระทั่งตอนนี้ ตนก็ยังไม่ได้ติดต่อเพื่อนของลูกสาว เพราะไม่รู้ว่าจะพูดคุยอะไรด้วย ส่วนเรื่องเพื่อนของลูกสาวที่ชื่อเป็ด ตนทราบเพียงว่า ทั้งคู่รู้จักกันได้ไม่ถึง 1 เดือน ก่อนจะย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันได้ 3 วัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุ เป็ดชักชวนลูกสาวตนให้ออกไปซื้ออาหาร โดยอ้างว่าไปไม่ไกลจากหอพัก แต่ที่จริงแล้วเป็ดนัดนายท๊อป แฟนหนุ่มเอาไว้ เพื่อไปเที่ยวที่สถานบันเทิง
นอกจากนี้ หลังจากเหตุ ตนได้กลับไปที่จุดเกิดเหตุที่อ๊อฟอ้างว่า ลูกสาวตนกระโดดลงจากรถ ทั้งนี้ ได้สอบถามคนเห็นเหตุการณ์ และพนักงานปั๊ม เนื่องจากยังคาใจในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่พาหญิงไปเที่ยวด้วย แต่ไม่พากลับมาส่งที่บ้าน ล่าสุด ตนได้สอบถามนายอ๊อฟแล้ว ซึ่งนายอ๊อฟบอกว่า "ไปเที่ยวกับน้องจริง ก่อนจะแวะไปเปลี่ยนรถ และไปเติมน้ำมัน โดยขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวอยู่นั้น น้องก็กระโดดลงไปเอง" เมื่อตนได้ฟัง ก็ยิ่งไม่เชื่อ เพราะตนไม่เชื่อว่าลูกจะกระโดดลงไป ทั้งนี้ ตนไม่อยากจะขออะไรแล้ว ขอแค่พูดความจริง บอกความจริงมาก็พอ เพราะเรื่องคดีความตอนนี้ก็ยังล่าช้ามาก
น.ส.ภาณิศา ยาวีราช หรือ ใบเฟิร์น อาของหญิง เปิดเผยว่า ทางญาติของนายอ๊อฟมาร่วมงานสวดอภิธรรมศพด้วย และรอพบพ่อของน้องหญิง โดยบอกกับญาติ ๆ ตนว่า "นายอ๊อฟเป็นคนดี" แต่นายอ๊อฟจะเป็นคนทำให้น้องหญิงเสียชีวิตหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ทราบว่านายอ๊อฟเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับน้องหญิงก่อนตาย ส่วนสาเหตุที่น้องขึ้นรถเทลเลอร์นั้น นายอ๊อฟพูดเองว่า "เป็ดเป็นคนเปิดประตูรถให้น้องหญิงขึ้น" ส่วนสาเหตุที่น้องหญิงย้ายไปอยู่กับเป็ดนั้น เพราะเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ทั้งนี้ ตนก็ไม่อยากจะพูดอะไรถึงเป็ด เพราะตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ไม่เคยเจอเป็ดมางานศพเลย
ทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านวูฟ ร้านเหล้าที่น้องหญิงกับเพื่อนเดินทางไปในวันเกิดเหตุ พร้อมกับพูดคุยกับนายเก่ง ผู้ดูแลร้านเหล้า เผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. เวลาประมาณ 02.00 น. ร้านของตนได้ปิดให้บริการแล้วแต่ตนกับเพื่อนยังนั่งดื่มเหล้ากันต่อ ตอนนั้น นายอ๊อฟ ผู้ต้องสงสัยได้โทรศัพท์หาเพื่อนรุ่นน้องของตนว่าอยู่ที่ไหน เพื่อที่จะไปกินเหล้าด้วย เพื่อนรุ่นน้องบอกไปว่าอยู่ที่ร้านตน จากนั้นไม่นานกลุ่มของน้องหญิงที่มีทั้งหมด 4 คน ได้เดินทางเข้ามาภายในร้านแล้วนั่งดื่มเหล้าโต๊ะเดียวกับตน หญิงและเป็ดนั่งบริเวณหัวโต๊ะ ข้างเป็ดคือท็อป ถัดไปคืออ๊อฟ ตน และ ต๋อง ส่วนฝั่งตรงข้ามโต๊ะคือโก๊ะและกั๊ก เพื่อนของตน
นายเก่ง เผยว่า คืนที่น้องหญิงมานั่งที่ร้านเหล้าดูเงียบ ไม่ค่อยพูดจาและดื่มเหล้า มาทราบจากเพื่อนน้องหญิงว่า น้องอกหัก แต่ตอนนั้นตนไม่ได้สนใจอะไร เพราะต้องดูแลคนอื่นภายในร้านด้วย และนายโก๊ะ รู้สึกชอบน้องหญิง จึงได้ขอเบอร์และเฟซบุ๊กตอนช่วงที่น้องหญิงเดินเข้าห้องน้ำ น้องหญิงก็ให้มาและพูดคุยดี ระหว่างที่นั่งดื่มอยู่ นายอ๊อฟแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจคล้ายอาการหึงหวง เนื่องจากน้องหญิงหน้าตาน่ารัก จึงมีคนเข้าไปคุยด้วยเยอะ
เวลาประมาณ 03.00 น. ตนได้ออกไปทำธุระที่อื่นและกลับเข้ามาที่ร้านอีกครั้งเกือบ 6 โมงเช้า ไม่เจอกลุ่มของน้องหญิงแล้ว จึงถามคนในร้านจนทราบว่า ตอนกลับนายอ๊อฟเป็นคนขับรถ และเร่งเครื่องออกไปจากร้านคล้ายคนโมโห มาทราบจากนายโก๊ะ ภายหลังว่า ก่อนที่ทั้ง 4 คนจะกลับออกจากร้านไป น้องหญิงมาเข้าห้องน้ำ แล้วนายอ๊อฟตามมาชวนให้กลับ แต่ท่าทางของน้องหญิงดูเหมือนยังไม่อยากกลับ และนายโก๊ะ ก็ส่งภาพข้อความแชทที่ได้คุยกับน้องหญิงมาให้ดูเป็นการถามว่าถึงบ้านหรือยัง และแสดงออกว่าชอบน้องหญิง พอมาทราบข่าว รู้สึกหดหู่ใจ ว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะตอนอยู่ที่ร้านแทบไม่มีอะไรผิดปกติ
ส่วน นายหนึ่ง ผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า ช่วงแรกที่กลุ่มน้องหญิงเข้ามาที่ร้าน ตนออกไปดื่มกับเพื่อนๆ อยู่ที่ร้านอื่น และกลับมาถึงร้านเหล้าที่เกิดเหตุ ประมาณ 03.00 น. ตอนที่กลุ่มของน้องหญิงขึ้นรถกลับไป ทุกอย่างดูปกติ เพราะทุกคนต่างเดินขึ้นรถเองแบบไม่ได้มีอาการมึนเมา และขับรถออกไปตามปกติ
นอกจากนี้ นายสุบิน ยาวิราช พร้อมนางสาวภาณิศา ยาวิราช บิดาและอาของน้องหญิง ผู้เสียชีวิต พร้อมเพื่อน ๆ ของหญิง เดินทางมาพบกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อขอความช่วยเหลือทางคดี ซึ่งพ่อของหญิง คาดว่าลูกสาวถูกฆาตรกรรมมากกว่าอุบัติเหตุ เนื่องจากสภาพแวดล้อมทำให้เชื่อได้ว่ามีการวางแผนมาก่อน
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่อาจจะยังตรวจสอบไม่รัดกุม ทั้งนี้ การกระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ ตกลงมาเสียชีวิต ขณะโดยสารมากับรถคันใหญ่ เบาะที่นั่งจะอยู่สูงนั้น หากกระโดดลงมาก็น่าจะต้องมีรอยแผลมากกว่านี้ จะต้องมีรอยที่ขา หรือขาหักได้ แต่จากผลตรวจศพพบว่ามีเพียงรอยที่ศีรษะเพียงเล็กน้อย
ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) ตนจะเตรียมลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. รวมทั้ง ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมสืบสวนหาข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อเร่งรัดคลี่คลายคดีนี้
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน ซึ่งไม่พบญาตินายอ๊อฟ หรือ ญาติของน้องหญิง ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับ พันตำรวจเอกฤทธิ์ ศิริเทพ ผู้กำกับสภ.บางปะอิน ให้ข้อมูลว่า ตนเพิ่งไปงานพระราชพิธีมา จึงไม่ทราบว่าคดีดังกล่าว มีการดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว แต่เท่าที่ทราบคือเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายอ๊อฟเดินทางมาที่ สภ.บางปะอิน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทางเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาสอบสวน พร้อมกับนำตัวไปชี้จุด เพื่อประกอบสำนวน แต่คาดว่าจะต้องสอบปากคำไปก่อน จนกว่าคดีจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งทำเอกสารส่งตัวนายอ๊อฟไปตรวจร่างกาย และตรวจเลือดที่โรงพยาบาลใกล้เคียงด้วย
ส่วนด้านผลการชันสูตรพลิกศพของน้องหญิง ทางแพทย์แจ้งว่าจะต้องรอผลอีก 1 เดือน นอกจากนี้ อยากจะขอประชาสัมพันธ์ หากเจ้าของรถกระบะ หรือผู้ที่ช่วยพาน้องหญิงไปส่งโรงพยาบาล ตามที่นายอ๊อฟอ้าง ก็ให้มาแสดงตัว และให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ด้วย
ต่อมาทีมข่าวลองย้อนเส้นทางตั้งแต่ร้านวูฟที่ตั้งอยู่หลังตลาดประตูน้ำพระอินทร์ ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร้านเหล้าดังกล่าวเป็นร้านที่น้องหญิง ผู้เสียชีวิตพร้อมกับนายอ๊อฟ นายท็อป และเป็ด เดินทางมา พบว่าบริเวณรอบข้างร้านเป็นชุมชน อยู่ห่างจากถนนสายหลัก ไม่ถึง 1 กิโลเมตร
ตามคำให้การของนายอ๊อฟ บอกว่า เมื่อออกจากร้านวูฟ ก็ได้ขับรถกระบะมาแวะจอดที่ปั๊มร้าง ติดถนนคู่ขนาน พหลโยธิน โดยมีการเปลี่ยนจากรถกระบะไป เป็นรถเทรลเลอร์ และอ้างว่าท็อปกับเป็ด ต้องไปทำงานต่อ ยังไม่กลับหอ จึงแยกไปขึ้นรถ พร้อมฝากให้นายอ๊อฟไปส่งน้องหญิงแทน ด้านหน้าปั๊มเป็นถนน 4 เลน ค่อนข้างมืด ห่างจากบ้านคน มีเพียงรถสัญจรผ่านไปมาเท่านั้น
หลังจากที่เปลี่ยนรถเสร็จนายอ๊อฟได้ขับรถเทรลเลอร์ ไปจอดเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ ห่างออกไปไม่ไกล จุดนี้ผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน แต่จากการสอบถามพนักงานภายในปั๊ม พบว่า ไม่มีใครทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนที่มีการพานายอ๊อฟมาชี้จุด น่าจะเป็นช่วงที่ผลัดเปลี่ยนเวร จึงไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์
ส่วนจุดท้าย ที่นายอ๊อฟอ้างว่า น้องหญิงกระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ อยู่ใกล้กับสะพานกลับรถเกือกม้า บนถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ก่อนถึงนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ใกล้กับจุดคาดว่า น้องหญิงกระโดดลงจากรถ มีการนำอาหารคาว หวาน ดอกไม้ ธูป เทียน มาวางไว้ใกล้กับเสาไฟต้นที่เป็นจุดเกิดเหตุ ก่อนถึงหน้าร้านครัวข้าวหอม ร้านนี้จะเปิดถึงตั้งแต่ 11.00 น. - 21.00 น. จึงไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ ส่วนรอบข้างไม่มีบ้านคน มีเพียงป่าหญ้าข้างทาง โดยมีไฟทางส่องสว่างเพียงพอ