ยิงสนั่นตลาดพ่อค้ามือปืนยัวะถูกด่าขโมย เหยื่อปัดใส่ร้ายแค่กั้นผ้าไม่อยากเห็นหน้า (คลิป)

จากกรณีเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 18.00 น. ร.ต.อ.อมร ฉันทะดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีผู้ถูกอาวุธยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณตลาดนัดวัดอัมพวัน หรือวัดหลวงพ่อโหน่ง ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

นายทองใส สมนตรี อายุ 41 ปี ถูกยิงเข้าที่แขนซ้าย 1 นัด โดยเจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้นจำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยผู้ก่อเหตุนายณรงค์ แก้ววงค์ล้อม อายุ 46 ปี หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ L 200 สีเขียว หลบหนีไป

วันที่ 1 พ.ค. 64 ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถาม พ.ต.อ.เกียรติชัย เกิดโชค ผกก.สภ.สองพี่น้อง ให้ข้อมูลว่า นายณรงค์ แก้ววงค์ล้อม ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามามอบตัวเมื่อเวลา 21.00 น. ของคืนที่ผ่านมา จากการสอบปากคำนายณรงค์ ได้ข้อมูลว่า เดิมทีนายณรงค์ขายข้าวแกงอยู่ติดกับแผงขายไก่ของนายทองใส ก็มีปากเสียงเล็กน้อยกันมาตลอด

กระทั่งเมื่อวาน นายทองใสได้นำผ้ายางมากั้นเพราะเห็นหน้ากันและกลัวว่านายณรงค์จะขโมยเงิน ซึ่งเมื่อนายณรงค์ได้ยินดังนั้นก็ทำให้มีปากเสียงและถูกนายทองใสท้าชก ทำให้นายณรงค์ทนไม่ไหว ขณะที่ทั้งคู่เดินไปที่รถเพื่อจะกลับบ้าน นายณรงค์ได้เดินกลับไปที่รถกระบะและหยิบปืนขนาด 9 มม. กลับมารัวยิง 4-5 นัด แต่นายณรงค์อยู่ในอาการเมา จึงได้ยิงปืนสะเปะสะปะ ทำให้กระสุนเจาะเข้าที่แขนซ้ายของนายทองใส 1 นัด หลังจากนั้นนายณรงค์ก็ขับรถกระบะหลบหนีไป

เบื้องต้นได้แจ้ง 3 ข้อหากับผู้ก่อเหตุคือพยายามฆ่า, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ, และยิงปืนในที่สาธารณะ โดยอนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากนายณรงค์เข้ามามอบตัวและให้ความร่วมมือกับตำรวจ

ที่วัดหลวงพ่อโหน่ง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พบว่าวันนี้ไม่มีการจัดตลาด มีการจัดแค่วันศุกร์กับวันจันทร์เท่านั้น ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังตลาดข้างกัน ห่างจากวัดประมาณ 100 เมตร

นายทองใส สมนตรี อายุ 41 ปี ซึ่งได้มาตั้งร้านขายของตามปกติ โดยนายทองใสมีบาดแผลที่แขนซ้าย เป็นรอยกระสุนที่เจาะเข้าหน้าแขนและทะลุไปยังหลังแขน เปิดเผยว่า โดยปกติตนกับนายณรงค์จะขายของร้านติดกัน เฉพาะวันจันทร์และวันศุกร์เท่านั้น เมื่อวานนี้ได้ไปขายของที่ตลาดนัดวัดหลวงพ่อโหน่ง ก็ตั้งร้านติดกัน ขายตั้งแต่ 14.00-18.00 น. ตนก็ได้นำผ้าใบมากั้นร้านเอาไว้เพื่อบังแดด และไม่อยากจะเห็นหน้าของคู่กรณี เมื่อวานนายณรงค์ได้ด่าทอ พูดจาลอย ๆ อยู่ตลอด เนื่องจากไม่ถูกกับภรรยาของตน ตามประสาญาติพี่น้อง แต่ตนพยายามที่จะไม่สนใจอดกลั้นมาเป็นปี

จนเมื่อวานเขาพูดว่า "ตายไปก็ไม่ต้องมาเผาผี" กระทั่งช่วงที่ขนของจะกลับบ้าน นางวันนา ภรรยาของตนจึงเข้าไปถามว่าสิ่งที่พูดนั้นหมายถึงใคร เพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน นายณรงค์ก็ตอบว่า "ด่ามึงนั่นแหละ" ตนจึงเข้าไปถามว่ามีปัญหาอะไรกัน จนเริ่มมีปากเสียงกับนายณรงค์ จนเขาทนไม่ไหว เดินไปเอาปืนมาจากในรถกระบะ และตะโกนว่า "กูจะฆ่ามึง" ภรรยาของนายณรงค์ก็เข้ามาห้ามปรามไม่ให้ยิง แต่นายณรงค์ก็ชักปืนมารัวยิงหลายนัด ตนก็หมอบหลบกระสุน ทำให้ถูกยิงเข้าที่แขนซ้าย หลังจากนั้นนายณรงค์ก็หนีไป

อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ตนจะกลับมาตั้งแผงขายตามปกติ ตนไม่กลัว เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็ไม่รู้จะมองหน้ากันได้หรือไม่ และไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาขายของหรือไม่

ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านผู้ก่อเหตุ หมู่ 6 ต.ศรีสำราญ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี นายณรงค์ แก้ววงค์ล้อม ผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้ประกันตัวมาในหลักทรัพย์ 200,000 บาท เปิดเผยว่า ตนกับนางวันนานั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน โดยเขาเป็นผู้พี่ ส่วนตนเป็นผู้น้อง และตั้งแผงขายของติดกัน ก่อนหน้านี้เงินของนางวันนาหาย ก็โทษว่าตนเป็นคนขโมย เขาจึงเอาผ้ามากั้นระหว่างร้านเอาไว้ ซึ่งตนก็เก็บความน้อยใจเอาไว้ แต่เมื่อวานตนดื่มเบียร์ไปนิดหน่อย และได้พูดบ่น ๆ ด่าทอเขา ทำให้นายทองใสไม่พอใจ ถอดเสื้อและมาท้าต่อยตน

ซึ่งตนก็โมโหจึงได้ไปหยิบปืนมาจากในรถกระบะ ขณะที่ตนเดินถือปืนมา ภรรยาของตนก็เข้ามาห้ามปรามและดึงปืนจากมือ ทำให้ปืนลั่นออกไป 4 นัด โดยที่ตนไม่ได้ตั้งใจ และภรรยาของตนที่เข้ามาห้ามก็ถึงกับนิ้วนางข้างซ้ายหักจนต้องผ่าตัด เกิดจากการฉุดกระฉากในช่วงแย่งปืน ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะยิงอีกฝ่ายให้ถึงชีวิต เอาปืนออกมาแค่ต้องการจะขู่เพียงเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้ตนก็คงไม่ไปขายของสักพัก เพราะรอให้ภรรยารักษาตัวจากอาการนิ้วหักก่อน

อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกสำนึกผิดและได้กล่าวขอโทษกับนางวันนาแล้ว หลังจากนี้ถ้าเรื่องมันเย็นลง ก็คงจะกลับมาพูดคุยกันได้