กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อย v plus" แชร์เรื่องราวของการขับรถบนถนนในพื้น อ.เมือง จ.พังงา โดยผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมขับรถกระบะพยายามจี้ท้าย เปิดไฟกะพริบ แล้วปาดหน้า จากนั้นจอดขวางทาง แล้วถูกคนขับรถใช้เหล็กฟาดที่กระจกรถยนต์ได้รับความเสียหาย
ล่าสุดวันที่ 2 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สอบถามไปยังนายสมพร เพ็งแสน อายุ 41 ปี น้องชายผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ตนและพี่ชายขับส่งของกำลังเข้าตัวเมืองพังงา จู่ ๆ ก็มีชายขับรถกระบะโตโยต้า กะพริบไฟหน้าใส่ และพยายามขับจี้ท้าย ขณะนั้นตนอยู่เลนในสุดก็เลยหลบซ้ายให้
จากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวพยายามขับรถปาดหน้าตน จากนั้นคนขับรถกระบะก็ลงมาจากรถ พร้อมถือเหล็กความยาว 1 เมตร ออกมาฟาดที่กระจกข้างคนขับแต่ไม่แตก ขณะนั้นพี่ชายตนขับถอยหลัง แล้วเดินหน้าเพื่อขับหนีชายคนดังกล่าว แต่รถกระบะคันก่อเหตุ ก็ขับตามตนมาอีกรอบ ตนจึงเริ่มถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ เห็นว่าใช้ขวดปามาโดนกระจกท้ายกระบะแตก แล้วพยายามขับปาดหน้าแซงอีกครั้ง ลงมาจากรถเหมือนเดิมทำท่าขึงขังแล้วใช้เหล็กฟาดที่กระจกรถหน้าคนขับ พี่ชายตนจึงพยายามอยู่ในรถไม่ตอบโต้ แต่ผู้ก่อเหตุก็ใช้เหล็กตีที่กระจก จากนั้นก็หลบหนีไป
ส่วนตัวรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเพิ่งทำงานแถวนี้ได้ไม่นาน ก็เลยไม่อยากมีปัญหากับใคร ถ้าจะลงไปทำร้ายร่างกายเขาก็ทำได้ เพราะตนมากับพี่ชาย ส่วนผู้ก่อเหตุลงมาคนเดียว ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุอาจจะเข้าใจว่า ตนขับรถแช่เลน แต่จริง ๆ แล้วขับอยู่ในความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วทุ่ง เพื่อติดตามในการจับตัวคนร้ายให้ได้ แต่ก็มีความกังวลใจ ว่าคนในพื้นที่จะช่วยเหลือกันหรือไม่ เพราะเขากล้าทำแบบนี้ แสดงว่าไม่กลัวกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดหมายให้ตนไปให้ปากคำเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วทุ่ง ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ทราบเรื่องแล้วแต่อยู่ในระหว่างการสืบหาหลักฐาน ซึ่งขอให้ผู้เสียหายมั่นใจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไปตามผิด ไม่มีใครเข้าข้างใครทั้งนั้น หามีคำถามหรือไม่สบายใจ ให้ผู้เสียหายติดต่อมาที่ผกก.สภ.ตะกั่วทุ่งได้ตลอดเวลา
