การจากไปของตลกชื่อดัง "ค่อม ชวนชื่น" ยังคงทำให้หลายคนสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ตลกดังติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับรักษาตัวอยู่ 19 วัน ก่อนจะอาการทรุดหนักและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้หลายคนสะเทือนใจ เมื่อลูกสาวน้าค่อม อย่าง “ไอซ์ ณพัชรินทร์” ต้องจัดงานศพให้พ่อเพียงลำพัง โดยที่ "แม่เอ๋" ภรรยาที่อยู่เคียงข้างตลกดังยังต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน ส่วนลูกชายนั้น ก็ต้องกักตัว จึงไม่สามารถมาร่วมงานศพพ่อได้ ทำให้หลายคนต่างส่งกำลังใจให้ครอบครัวน้าค่อมเป็นอย่างมาก
ล่าสุดวันที่ 3 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในอินสตาแกรมของสาว “ไอซ์ ณพัชรินทร์” ได้โพสต์ถึงความรู้สึกว่า "การเข้าใจและยอมรับ ในจุดนี้มันหนักหนาสาหัสมาก แต่ความในโชคร้ายของครอบครัวพวกเรา ก็ยังมีความโชคดีมาก ๆ ที่ได้เห็นมิตรภาพดี ๆ มีคนที่ห่วงใย และอยู่ข้างครอบครัวพวกเราในยามคับขัน มันคือช่วงเวลาที่พวกเราต้องการกำลังกายและกำลังใจที่จะผลักดันให้ตัวเองเข้มแข็ง และเดินหน้าต่อไปให้ได้เพื่อคนที่เรารัก ถึงแม้จะร้องไห้ มันก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ใจมันคิดทำไมเราต้องเจออะไรแบบนี้ โชคชะตาเล่นตลกอะไรกับครอบครัวเรา มันเหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวใจ ใจแตกสลาย
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เห็นและเข้าใจถึงสัจธรรมของชีวิต บททดสอบที่ทำให้โตขึ้น มีเหตุผลมากขึ้น และเปลี่ยนตัวไอซ์หลาย ๆ อย่าง ชัดเจนที่สุด คือ ทัศนคติการใช้ชีวิต เราไม่รู้เลยว่าเวลาของแต่ละคนเหลืออยู่เท่าไร ไม่รู้เลยว่าจะได้อยู่กับคนที่เรารักได้นานแบบที่เราคาดหวังไว้ไหม ไม่รู้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตจะจบลงวันไหน สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ คือ ตอบแทนพ่อ ดูแลแม่ และน้อง ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่ไอซ์จะทำได้ ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่รักคุณพ่อค่อม และขอบคุณทุก ๆ ข้อความอีกครั้งนะคะ ไอซ์อ่านทุกข้อความ แต่อาจจะไม่ได้ตอบทุกคน กำลังใจของทุกคนมีค่าสำหรับครอบครัวไอซ์มากจริง ๆ สุดท้าย ไอซ์อยากจะให้กำลังใจคนที่กำลังเจอเรื่องราวแบบไอซ์ สู้ ๆ นะคะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น สู้ไปด้วยกันค่ะ"
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ต่อสายตรงไปยัง “ไอซ์ ณพัชรินทร์” ลูกสาวของน้าค่อม กล่าวว่า คุณแม่จะออกจากโรงพยาบาลวันที่ 4 พ.ค.64 หลังจากกำหนดการเดิมคือวันที่ 3 พ.ค.64 แต่เพราะอยากให้คุณแม่ Swab จมูกก่อน อยากให้ลองตรวจอีกรอบก่อนกลับ ซึ่งผลออกมาโอเคปกติแล้ว
หากถามว่าสภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง “ตอนนี้ ก็โอเคขึ้น มันก็มีบ้างที่คิดถึงพ่อลอยขึ้นมาตลอด หรืออะไรแบบนี้ ตอนเอาข้าวให้พ่อกินตอนเช้า ก็นึกถึงเห็นรูปพ่อ ก็ยังคิดอยู่บ้างว่า...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ส่วนเรื่องกำหนดการทำบุญกระดูกคุณพ่อ ยังไม่ได้แพลนกันเลย เพราะต้องรอแม่ออกมา ถ้ามีอะไรอัปเดตไอซ์จะเขียนลงใน IG อยู่แล้ว แต่คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เพราะแม่เอ๋กลับมาก็จะกักตัวอีก 14 วัน รอทุกอย่างเรียบร้อย ค่อยมานั่งคุยกัน ว่าจะเอายังไง อีกทั้งตอนนี้ คนให้กำลังใจเยอะมาก ทำให้เราดีขึ้น เราอยากขอบคุณจริง ๆ"
“ไอซ์ ณพัชรินทร์” ยังระบุอีกว่า สิ่งแรกที่ทำให้ตนเข้มแข็งได้ เนื่องจากกำลังใจจากทุกคนที่ส่งมาให้ ไม่ได้ส่งมาแค่ 1 บรรทัด 2 บรรทัด แต่เขาส่งมาเกือบ 10 บรรทัด เขียนให้กำลังใจ เพราะชอบพ่อค่อม สนับสนุนครอบครัวพวกเรา มันคือความรู้สึกแบบอิ่ม รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ เพราะฉะนั้นตนต้องสู้และเข้มแข็งเร็ว ๆ เพื่อมาดูแลความรู้สึกของคนทั้งหมดของพ่อ ให้รู้ว่าตนดูแลได้ดี
หลังอาหม่ำให้สัมภาษณ์กับทางอมรินทร์ ทีวี ว่า “ให้คำมั่นสัญญาว่า พ่อหม่ำแม่มด ก็ยังไม่ได้ไปไหน มีอะไรโทรหาได้ตลอด” ไอซ์ตอบว่า “คุยกับพ่อหม่ำทุกวัน ตั้งแต่โรงพยาบาล ก็โทรมาหาไอซ์ทุกวัน น้ามดก็จะโทรมาหาทุกวัน แต่ว่าอาหม่ำคุยกับไอซ์ได้ไม่ถึง 1-2 นาที เขาก็เดินหนีแล้ว เพราะเขาร้องไห้”
ทางด้านอาโน๊ต สัญญากับน้าค่อมว่า จะดูแลสภาพจิตใจ “ไอซ์” ไอซ์กล่าวว่า “ไอซ์ยังไม่ได้คุยกับลุงโน๊ต คุยแต่กับน้าหม่ำ ไอซ์คุยกันทุกวัน อาโน๊ตไม่กล้าโทรมาอยู่แล้ว เพราะกลัวร้องไห้เหมือนพ่อหม่ำ แต่ว่าคุยกันได้นิดเดียวก็ให้ภรรยาคุยต่อ เขาไม่อยากให้เราร้องไห้ ทุกคนทำใจไม่ได้ ตอนนี้ยอมรับว่าต้องเข้มแข็งขึ้น เพราะเรามีทั้งแม่และก็น้องอีก หลานอีก ถ้าสมมติเราอ่อนแอลงไปแล้ว เราจะเป็นหลักให้ใครเข้มแข็งต่อจากเรา”
ส่วนทางด้านน้อง ณคุณ หลานซึ่งเป็นลูกของโค๊ก คุณไอซ์ กล่าวว่า “น้องณคุณ หลานรักคุณตา ตอนนี้โอเคแล้ว ก็คือตอนนี้มันเข้า 7 – 8 วันแล้ว เพราะว่าน้องจะได้ย้ายไปอยู่เป็นโรงแรม แม่เขาก็โอเค เพราะต้องเอาเตียงให้คนอื่นด้วย เราก็ต้องย้ายไปอยู่โรงแรม”
สิ่งที่ผ่านมา อยากขอบคุณ “แบงค์ อธิกิตต์” สามี “จริง ๆ ถ้าไม่มีแบงค์ หลักของไอซ์ไม่มีเลย ไอซ์ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าวันหนึ่งจะเกิดกับเรา มันเร็วมาก และทุกครั้งที่พ่อเริ่มทรุด สติเราหลุดทุกครั้ง เราก็จะร้องไห้ทุกครั้ง จะเป็นเขาคนเดียวที่หารายละเอียด สมมติว่ารักษาด้วยวิธี A ไม่ดี มีวิธี B C D ดีไหม แบงค์เขาจะถามทุกมุม ก็ถือว่าเลือกคนไม่ผิด เพราะเขาเป็นคนรักครอบครัว และเราก็เห็นแล้วว่า ครอบครัวเราก็รักเขา”