เปิดใจ หนุ่ม ศรราม โต้กลับ! กุ้งพลอย หลังโดนแฉปมเลี้ยงลูกไม่ดี-ติดเหล้า

4 พ.ค. 64

หลังจาก ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ หรือชื่อใหม่ กุ้งพลอย เปิดศึกแฉอดีตสามี หนุ่ม ศรราม ปมเก่าทำครอบครัวพังอ้างเรื่องเงิน เลี้ยงลูกไม่ดีจนส่งผลให้ลูกไม่มีพัฒนาการ สนุกในทางที่ผิด-ติดเหล้า ล่าสุด ฝั่ง หนุ่ม ศรราม ออกมาโต้กลับแล้ว!!

- ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ฉะเดือดขอทวงลูกคืนจาก ศรราม สู่อ้อมกอดแม่ หลังเห็นมีพัฒนาการช้า

โดย หนุ่ม ศรราม ให้สัมภาษณ์ประเด็นดราม่าดังกล่าวกับ เพจ อีจัน โต้กลับว่า

เรื่องพัฒนาการของวีจินะครับ ที่ผ่านมาผมก็ทำงานแล้วก็คอยสังเกตนะครับ ในเรื่องของเขาว่าทำไมถึงยังพูดไม่เป็นคำ ก็เลยได้ไปพบกับคุณหมอนพวรรณ ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ครับ ซึ่งคุณติ๊กก็ไปด้วยนะ แล้วก็ได้รับคำแนะนำจากคุณหมอมาแล้วว่าให้ฝึกทักษะอย่างไร หรือเพิ่มเติมอย่างไร เพื่อที่จะให้วีจิพูดได้เป็นคำมากขึ้นครับ เราก็กลับมาทำตามในสิ่งที่คุณหมอแนะนำ ซึ่งคุณหมอนพวรรณก็จะนัดอีกทีวันที่ 22 พฤษภาคมครับ คุณหมอก็ได้ให้ทำแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับว่าวีจิมีพัฒนาการทั้งเรื่องของร่างกาย เรื่องภาษากายนะครับ ไม่ว่าจะเป็น กิฟมีไฟว์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการแสดงออกทางภาษากายดีนะครับดีมากๆ เพียงแต่อาจจะต้องเพิ่มพัฒนาการในเรื่องของการพูดครับ”

สำหรับเรื่องไม่ให้เจอลูก จนสาวติ๊กพูดออกมาว่า เหมือนเป็นแม่ขอทาน หนุ่ม บอกว่า 
“ผมต้องขอญาตเรียนแบบนี้ว่า ในเบื้องต้นเนี่ยผมให้คุณติ๊กมาพบลูกเดือนละสองครั้งนะครับ แล้วก็ในการเจอแต่ละครั้งก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นจากฝั่งคุณติ๊ก ไม่ว่าจะเป็นการร้องมูลนิธิ หรือว่าให้ไปเจอทางหน่วยงานภาครัฐต่างๆ แล้วคุณติ๊กก็ไม่พึงพอใจเอง ซึ่งเกิดจากตัวคุณติ๊กเองนะครับ คราวนี้ก็กลับมาคุยกันใหม่ ผมเองก็ได้พิจารณาถึงความเหมาะสมแล้ว ก็อยากให้คุณติ๊ก ได้มีโอกาสเจอลูกได้มาก ขึ้นผมก็ขยับระยะเวลาให้คุณติ๊กได้พบลูก เดือนละ 4 ครั้ง ก็เท่ากับ สัปดาห์ละ 1 ครั้งนะครับ ก็โดยมีการนัดหมายถือว่าให้เจอทุกวันเสาร์ แต่ถ้าเกิดว่าวันเสาร์นั้นติดธุระหรือใครมีอะไรต้องไปทำ ก็จะต้องขออนุญาตเลื่อนไปเจอวันอื่นแต่อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งได้เจอ เรื่องตรงนี้ผมเอง คุณติ๊กเอง ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รับทราบกันหมดทุกอย่างแล้วครับ”

“เรื่องการพบลูกนะครับ ในเบื้องต้นเจอกันที่ร้านอาหารที่เราทานกันเป็นประจำครับ แล้วก็ไปพบตามหน่วยงานที่คุณติ๊กร้องมา เมื่อคุณติ๊กปฏิเสธ เราก็กลับมาเจอกันที่ร้านอาหารเหมือนเดิม ผมเองเห็นว่ามันจะเป็นการรบกวนสถานที่ของเขา เพราะเขาก็อยู่ในระหว่างการปรับปรุงร้าน ผมเองก็มีคอนโดอยู่ จึงได้คิดว่าไปเจอกันที่คอนโดดีกว่า ก็หารือกับที่ปรึกษากฎหมายว่าให้คุณติ๊กมาหาลูกที่คอนโด มันจะได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็มีการไปเจอกันเดือนมีนาคมนะครับ วันที่พาวีจิไปหาหมอด้วยกัน เมื่อไปหาหมอเสร็จแล้วคุณติ๊กก็ขอพาลูกไปเซ็นทรัล ผมก็อนุญาต พอผมอนุญาตเสร็จ คุณติ๊กก็โทรไปยืมสตางค์เพื่อน จนเพื่อนคนนั้นเนี่ยก็โทรมาทวงกับผม แล้วผมก็ต้องให้เขานะครับ

“จากนั้นต่อมาครับ ก็เป็นสัปดาห์ถัดมา ผมก็ให้ที่ปรึกษากฎหมายแจ้งคุณติ๊ก ไปตั้งแต่วันพุธครับผม วันพุธถัดมาก็คือวันที่ 23 หรือ 24 ว่า สัปดาห์ต่อไปเนี่ยเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ เราจะไม่อยู่ เราจะไปเขาใหญ่ก็ขอเลื่อนคุณติ๊กมาเจอลูกวันอังคาร ซึ่งคุณติ๊ก ก็เกิดความไม่พอใจอย่างมาก ก็ส่งข้อความมาหาในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม นะครับ บอกว่า เขาไม่เอาลูกแล้ว เขายกลูกให้ผมดูแล แล้วเขาก็ขอบล็อกทุกคน”

ส่วนเรื่องวันเกิดลูก ที่สาวติ๊กบอกเสียใจมากไม่ได้อยู่กับลูก หนุ่ม ชี้แจงต่อว่า
“ที่บอกว่าวันเกิดลูกเป็นวันสำคัญก็คือวันที่ 8 เมษายน หรือว่าวันเกิดของเขาคือวันที่ 13 เมษายน ทำไมถึงไม่ให้เขาเจอลูกหรืออะไร ผมก็ต้องขออนุญาตเรียนแบบนี้ ในเมื่อเขาไม่เอาลูกแล้วเนี่ย ผมก็ต้องก้มหน้าก้มตาดูแลลูกของผมต่อไป อย่างที่ผมบอกครับ คือผมตั้งใจทำงานดูแลแม่ เลี้ยงลูกให้ดี ในเมื่อคุณติ๊ก มีความประสงค์ที่จะไม่เอาลูกแล้ว แล้วอยู่ๆ จะให้ผมโทรไปเพื่อให้เขามาเจอลูกก็คงจะไม่ใช่ ส่วนที่สองคือว่าในวันที่ 13 เมษายน วันสงกรานต์ครับพี่เลี้ยงของ วีจิ พี่อ้อยก็ลากลับบ้านที่ร้อยเอ็ดครับ อันนี้คือสิ่งที่อยากจะชี้แจงเพราะว่าในเมื่อเขาไม่ต้องการลูกแล้วเนี่ย เราจะไปขอร้องอะไรเพิ่มเติมก็คงไม่ใช่เรื่องนะครับ แต่เรามีหน้าที่ดูแลวีจิ อยู่แล้ว เราก็จะดูแลกันเต็มที่เหมือนเดิมครับ”

ทางเขาพูดเรื่องที่ว่าเรา ติดเหล้า หนุ่ม ชี้แจงว่า
“ผมต้องขออนุญาตเรียนชี้แจงแบบนี้นะครับว่า ผมเป็นพ่อคนแล้วนะครับ อายุขนาดนี้แล้วนะครับผมรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำครับ”

นอกจากนี้ หนุ่ม ได้ทิ้งท้ายเรื่องการเลี้ยงดูลูกว่า
“เราก็คงจะดูแลเขาอย่างดีที่สุดนะครับ เราก็อยากจะบอกว่าวีจิ เขามีที่ปรึกษาเป็นคุณหมอทั้งหมดนะครับ แล้วก็อยากจะบอกว่าที่ทุกคนเป็นห่วงเรื่องพี่เลี้ยง ผมอยากจะบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงวีจิ หรือเป็นพี่เลี้ยงคุณแม่ของผมนะครับ เขาผ่านงานมาไม่ต่ำกว่า 15 ปีนะครับ จากเนอสเซอรี่ ซึ่งเนอสเซอรี่แห่งนี้ของเพื่อนผมที่เรียนเซนต์คาเบรียลกับผมมาตั้งแต่ป.1 นะครับ เราเป็นเพื่อนกันกว่าเกือบๆ จะ 40 ปี แล้วครับ เขาผ่านงานตรงนั้นมา ทำงานแล้วก็มีที่ว่ามีหลักในการทำงานที่ถูกต้องอยู่แล้วนั่นคือผลของพี่เลี่ยงที่หลายคนกังวลนะครับ”

“และในขณะที่วีจิมีพัฒนาการอาจจะเรื่องของการพูดช้าหน่อย ฉะนั้นอะไรที่เป็นกำลังใจแล้วโพสต์มาไม่ว่าจะเป็นในเฟซบุ๊กของผม ยูทูบ อินสตาแกรม ถ้าอะไรเป็นกำลังใจหรือเป็นการพูดจา เป็นการเขียนคอมเมนต์ด้วยความห่วงใย ผมกราบขอบพระคุณมากๆ แต่หากว่าผมอ่านดูแล้วคอมเมนต์ใดๆ ก็ตาม ไม่ได้เกิดประโยชน์กับผม วีจิ หรือครอบครัวของเรา ผมก็จะลบคอมเมนต์นั้น แล้วก็จะบล็อกเพราะผมถือว่าไม่ใช่สิ่งที่มีความสำคัญ และจะทำให้ผมกับลูกไปในทางที่ดีนะครับ ก็ต้องขอขอบพระคุณนะครับ ทุกๆ กำลังใจที่ ส่งเข้ามาให้ ถ้าเกิดว่าเป็นประโยชน์ กราบพระคุณมาก แต่ถ้าเป็นการทำลายกันหรือว่าทำให้เราเสียสุขภาพจิตในขณะที่เราเลี้ยงลูกผมก็ต้องขออนุญาตลบข้อความนั้น แล้วก็ขอบล็อกคอนแทคนั้นไปนะครับขอบพระคุณมากๆครับ”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส