จากกรณีนายเด่นภูมิ หรือ โจอี้ อายุ 39 ปี โมเดลลิ่งหนุ่มหื่นที่หลอกทำอนาจารสาว 18 เน็ตไอดอลเมื่อหลายปีก่อน ออกคุกล่าเหยื่อพริตตี้ เด็กเอนฯ หลอกให้ไปรับงานแล้วใช้มีดจี้ บังคับเสพยาจนเมา ก่อนลงมือข่มขืน โดยเจ้าตัวอ้างตัวเป็นเพศที่สามเพื่อให้ผู้หญิงไว้ใจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โมเดลลิ่งหื่นปลอมเป็นตุ๊ดขยี้กามสาว เหยื่อแฉบังคับเสพยาล่อพริตตี้ติดกับซ้ำฉกเงิน
วันที่ 4 พ.ค. 64 พนักงานสอบสวน และชุดสืบสวน สน.บวรมงคล ได้พาตัว น.ส.ฝน ผู้เสียหาย ไปชี้จุดเกิดเหตุที่โรงแรมม่านรูด เป็นห้องเตียงเดี่ยว ขนาดห้องประมาณ 25 ตารางเมตร ห้องน้ำ 1 ห้อง มีโทรทัศน์และเก้าอี้โซฟา ซึ่ง น.ส.ฝน ได้ชี้จุดที่ผู้ก่อเหตุนำโซฟามากั้นประตู และระบุว่าในวันเกิดเหตุนั้นห้องมีดมาก เปิดไฟสลัว ๆ นายเด่นภูมิได้ชักมีดพกจากกระเป๋ากางเกงออกมาจี้คอ บังคับเอากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ หลังจากนั้นก็บังคับให้เสพยาและข่มขืน หลังจากนั้น ได้ชี้ห้องน้ำซึ่งเป็นจุดที่ น.ส.ฝน ไปนั่งแอบก่อนจะสบโอกาสและวิ่งหนีในช่วงที่มีคนมาเคาะประตู
จากนั้น น.ส.ฝน (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย เดินทางมาที่ สน.บวรมงคล เพื่อเข้าแจ้งความ เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมม่านรูดในซอยจรัญสนิทวงศ์ ตำรวจได้เชื่อตัวเข้าไปสอบปากคำถึง 2 ชั่วโมง เปิดเผยว่า ตนถูกกระทำตั้งแต่วันที่ 8-9 เม.ย. 64 ซึ่งหลังจากนั้นตนก็หนีกลับไปพักฟื้นที่บ้านในต่างจังหวัดทันที เพราะรู้สึกกลัว
แต่วันนี้ตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.บวรมงคล และเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากเรื่องราวทุกอย่างออกข่าวไป ก็ยังมีคนส่งข้อความทางไลน์มาคุกคาม ซึ่งตนเชื่อว่าจะต้องเป็นนายเด่นภูมิปลอมโพรไฟล์มาจ้างงาน โดยทักมาในลักษณะที่จะจ้างไปรับงานเอนเตอร์เทน ซึ่งเป็นไลน์ที่ตนไม่รู้จักมาก่อน และตนมองว่าเป็นเรื่องที่แปลกเพราะโดยปกติหากจะมีการจ้างงานกัน จะต้องเป็นโมเดลลิ่งที่รู้จักกันเท่านั้น
น.ส.ฝน กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกกลัวและกังวลมาก เพราะนายเด่นภูมิเคยขู่ไว้ว่าถ้าตนเอาเรื่องทั้งหมดไปแจ้งความ เขาจะหลอกล่อตนไปทำร้ายอีก อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าตอนนี้นายเด่นภูมิน่าจะเห็นข่าวแล้ว และคงกำลังหลบซ่อนตัวอยู่
น.ส.ขวัญ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหายอีกราย เดินทางมาที่ สน.บางขุนเทียน เพื่อแจ้งความเอาผิดนายเด่นภูมิ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา นายเด่นภูมิได้ปลอมไลน์ส่งข้อความรับคนทำงานเอนฯ เข้ามาในกลุ่ม ระบุว่าเป็นงานชงเหล้า ทำงาน 4-5 ชั่วโมง ค่าจ้าง 3,000 บาท ตนก็ตัดสินใจรับงาน มีโมเดลลิ่งโทรมาพูดคุย ซึ่งคือนายเด่นภูมิที่ปลอมเสียงเป็นกะเทย บอกว่า "แม่มีงานให้หนู" และให้ไปหาที่คอนโดฯย่านเขตภาษีเจริญ ตนก็นั่งรถไปหา โดยระหว่างทางนายเด่นภูมิที่ปลอมเสียงเป็นกะเทยก็โทรเร่งอยู่ตลอด จนตนไปถึงคอนโดฯ เวลาประมาณ 16.00 น. เมื่อไปถึงก็เจอนายเด่นภูมิยืนรออยู่ที่ชั้น 1 ลักษณะแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนส์ขายาวและสวมแมสก์ พาตนขึ้นลิฟต์ไป แต่ตนจำห้องไม่ได้ เมื่อไปถึงห้องตนก็เห็นอุปกรณ์เสพยาไอซ์ตั้งอยู่ นายเด่นภูมิก็จะให้ตนเสพยา แต่ตนปฏิเสธ หลังจากนั้นนายเด่นภูมิก็ถามตนว่า "รู้จักคนชื่อเด่นไหม" ตนตอบกลับไปว่ารู้จักแต่ชื่อว่าคนชื่อเด่นชอบหลอกเด็กมาขังเด็กและไม่จ่ายเงิน เขาก็แสดงตัวว่า "กูนี่แหละไอ้เด่น"
หลังจากนั้น นายเด่นภูมิก็ไปหยิบมีปลายแหลมมาจากลิ้นชัก ถือมีดมาขู่ตนว่า "ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัว ก็ให้ยอมทำตามที่สั่ง" หลังจากนั้นเขาก็บังคับให้ตนถอดเสื้อผ้า และลงมือข่มขืนตน โดยไม่ป้องกัน ตนพยายามขัดขืนและบอกให้เขาสวมถุงยาง แต่เขากลับไม่ยอมและบอกตนว่า "กูสะอาดกว่ามึงอีก"
หลังจากนั้น เขาก็ลุกขึ้นนั่งและเรียกตนไปนั่งข้าง ๆ พร้อมกับเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟังว่า เขาจะเลือกเหยื่อที่มีโพรไฟล์ดี ดูมีเงิน และสวมเครื่องประดับเยอะ ๆ เพื่อที่จะได้ล่อลวงมาและตบทรัพย์ เขาเล่าว่าเคยถ่ายวิดีโอและแบล็กเมลจากพริตตี้ได้เงินถึง 100,000 บาท รวมถึงยังเล่าอีกว่าเขาได้ไลน์ปลอมมา เพราะใช้เบอร์โทรคนอื่นเปิดไลน์ โดยให้ค่าจ้าง 200 บาท โดยที่ไม่บอกเจ้าของเบอร์ว่าจะเอาไลน์ไปทำอะไร นอกจากนี้นายเด่นภูมิยังเปิดเพลงที่เขาร้องอัดเสียงเอาไว้ให้ตนฟัง และนอนฟังกัน 2 คน โดยเสียบหูฟังคนละข้าง ซึ่งตนต้องทนอยู่กับเขานานมาก
หลังจากนั้น เขาก็บังคับให้ตนเป็นนกต่อ พูดโทรศัพท์หลอกพริตตี้มาอีกคน มีผู้หญิงคนหนึ่งจะรับงาน แต่เมื่อผู้หญิงมาถึงคอนโดและเห็นว่าเป็นนายเด่นภูมิ ผู้หญิงคนนั้นก็ขอนายเด่นภูมิว่าอย่าทำร้าย และหลังจากนั้นผู้หญิงก็หนีไป สุดท้าย กระทั่งช่วงเที่ยงคืน เข้าวันที่ 9 ก.พ. ตนก็ยื่นข้อเสนอว่าจะโอนเงินให้นายเด่นภูมิ 1,000 บาท ซึ่งนายเด่นภูมิก็ยอมให้ตนกลับ เอาเงินตนไปแค่ 700 บาท เพราะนายเด่นภูมิสงสารตน และให้เงินค่ารถกับตน 300 บาท อย่างไรก็ตาม จากการที่อยู่กับนายเด่นภูมิหลายชั่วโมง ตนมองว่าเขาเป็นคนที่เก็บกด ขาดความอบอุ่น เพราะเขาเอาแต่บรรยายชีวิตของเขา เหมือนกับไม่เคยได้ระบายมาก่อน
นายเสาวภาคย์ นิสัยชล หรือ เล็ก อายุ 62 ปี ผู้โพสต์ตามล่าตัวนายเด่นภูมิ เปิดเผยว่า กรณีที่ตนโพสต์เฟซบุ๊กตามหาตัวของนายเด่มภูมิ เนื่องจากมีตำรวจขอความร่วมมือว่าให้ช่วยตามตัว เพราะตนรู้จักคนเยอะ และเคยรู้จักกับเจ้าตัว อีกทั้งก่อนหน้านี้ช่วงปี 2562-2563 นายเด่นภูมิก็เคยก่อเหตุในลักษณะนี้ มีผู้เสียหายหลายรายมาขอความช่วยเหลือจากตน และตนต้องให้น้อง ๆ ไปตามตัวมาพูดคุย พาตัวนายเด่นภูมิส่ง สน.นางเลิ้ง ในตอนนั้นนายเด่นภูมิก็ยืนยันว่าจะไม่ก่อเหตุซ้ำอีก แต่ตอนนั้นผู้เสียหายกว่า 10 ราย ไม่แจ้งความดำเนินคดี เพราะมีความอับอายและกลัวจะกระทบหน้าที่การงาน แต่ผู้เสียหายขอตบหน้านายเด่นภูมิคนละ 1 ครั้ง ซึ่งผู้เสียหายทุกคนก็ต่างเดินเรียงแถวเข้าไปตบหน้าเจ้าตัวเพื่อระบายความแค้นใจ
หลังจากนั้นนายเด่นภูมิก็ได้ให้คำมั่นสัญญากับตนว่าจะไม่ทำตัวเป็นภัยสังคมอย่างนี้อีก แต่ครั้งนี้มีผู้เสียหายออกมาแจ้งความชัดเจน จึงได้โพสต์ตามล่าตัว เพื่อให้เพื่อน ๆ และพรรคพวกช่วยกันเป็นหูเป็นตา ก็เหมือนช่วยตำรวจตามหาภัยสังคมรายนี้ด้วย
นายเสาวภาคย์ กล่าวต่อว่า ตนจากฝากบอกนายเด่นภูมิว่า "โจอี้ พี่เล็กรู้เรื่องแล้วนะ ทำความผิดก็ออกมามอบตัวและชดใช้" เพราะ ครั้งก่อนตนก็เคยให้อภัยแล้ว แต่นายเด่นภูมิกลับมาก่อเหตุหนักกว่าเดิม ตนก็ไม่สบายใจเพราะกลัวเยาวชนจะตกเป็นเหยื่อ อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากบอกว่าคนของตนกำลังติดตามตัวนายเด่นภูมิอยู่ อยากให้กลับมามอบตัว เพราะทั้งตำรวจและทีมงานกำลังติดตามตัวอยู่
นายกษิเดช ไพบูลย์ หรือ "เด่น บางพลัด" อายุ 33 ปี ผู้ที่เคยออกตามตัวนายเด่นภูมิ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายเด่นภูมิมานาน ซึ่งจริงแล้วเขามีชื่อเล่นว่า "โจอี้" แต่มักจะอ้างตัวว่าชื่อ "เด่น" ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับตน ทำให้คนชอบเขาใจผิดและมองตนไม่ดี ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงปี 2562 ได้มีผู้หญิงพริตตี้และเน็ตไอดอลมาร้องเรียนกับนายเสาวภาคย์ว่าถูกนายเด่นภูมิ หรือ โจอี้ หลอกไปทำอนาจาร ทำร้ายร่างกาย ในตอนนั้นตนและเน วัดดาว และเพื่อนทีมงานได้ออกตามหาตัว กระทั่งวันที่ 28 ธ.ค. 62 ก็เจอตัวนายเด่นภูมิอยู่ในห้องพักย่านปิ่นเกล้า ตนจึงไปตามที่ห้องพาตัวมาพูดคุยปรับทัศนคติกับผู้เสียหาย นายเด่นภูมิก็สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องหลอกลวงผู้หญิงอีก
กระทั่งช่วงปลายปี 2563 นายเด่นภูมิก็เริ่มก่อพฤติกรรมแบบเดิม หลอกเขาไปข่มขืนและทำอนาจาร ตนก็ช่วยออกไปตามตัว และเจอตัวนายเด่นภูมิยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ย่านบางพลัด ตนจึงจับตัวเขาและพาไป สน.นางเลิ้ง เพื่อให้เจอกับผู้เสียหายกว่า 10 คน ซึ่งครั้งนั้นผู้เสียหายแค่ขอตบหน้านายเด่นภูมิคนละ 1 ครั้ง แต่ไม่เอาเรื่อง และนายเด่นภูมิก็สัญญากับนายเสาวภาคย์และพวกตนว่าจะไม่ก่อเหตุซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 ที่นายเด่นภูมิก่อเหตุ ตนก็ยืนยันว่าจะออกตามล่าตัวนายเด่นภูมิอีก เพราะเขาทำตัวเป็นภัยสังคมและมีผู้เสียหายเยอะมาก
ด้าน "เน วัดดาว" เปิดเผยว่า ที่มาที่ไปในการล่าตัวนายเด่นภูมินั้น มาจากที่มีน้องผู้หญิงพริตตี้รายหนึ่งที่รู้จักขอความช่วยเหลือว่าเจอเหตุการณ์หลอกล่อให้ไปหาในลักษณะว่าจ้างไปนั่งเอนเตอร์เทน แต่สุดท้ายกลับข่มขู่และบังคับขื่นใจ ตลอดจนมีการทำร้ายร่างกายด้วย ตนเองสืบหาจากทีมงานที่รู้จักจนทราบชื่อและที่อยู่ตระเวนล่าตัว ครั้งแรกพบตัวแถวย่านบางพลัด พร้อมมีการสั่งสอน และนำตัวไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทางผู้เสียหายกลับไม่แสดงตัวจึงทำให้ไม่สามารถเอาผิดได้ ต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดิมอีก 3-4 ครั้ง ตนก็ตามล่าเช่นเดิม แต่ทางผู้เสียหายกลับไม่เอาผิดหรือมาแสดงตัว จึงไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ รวมถึงพฤติกรรมของเด่นภูมิตอนนั้นยังไม่สามารถเอาผิดได้ ตามหลักกฎหมายเพราะไม่มีผู้ร้องทุกข์ จึงทำได้แค่ตักเตือน
ตนยอมรับว่าเหยื่อมีมากกว่า 50-80 ราย เพราะจากที่ตนเองได้โทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายมาเช็ก พบคลิปวิดีโอที่ถ่ายขณะที่มีเพศสัมพันธ์มากกว่า 100 คลิป รวมไปถึงเหยื่อบางรายเป็นพริตตี้ที่มีชื่อเสียง บางคนมียอดคนติดตามในเฟซบุ๊กมากกว่า 1 ล้านคน จึงเป็นสาเหตุให้เหยื่อที่ตนช่วยเหลือไม่กล้าออกมาเปิดเผยหรือเอาผิดผู้ก่อเหตุ หวั่นว่าจะเสียหายในด้านชื่อเสียง ตนจึงทำได้เเค่ลบคลิปของน้อง ๆ เหล่านั้นออกไปแล้ว
ส่วนพฤติกรรมของนายเด่นภูมิ นอกเหนือจากล่อลวงไปมีอะไรแล้ว ยังมีการทำร้ายร่างกายเหยื่อบางรายถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ตลอดจนมีการกรรโชกทรัพย์ด้วย ส่วนตัวทราบข่าวว่าเจ้าตัวโดนจับกุมก็รู้สึกโล่งใจ และคิดว่าสิ่งที่ตนได้ทำมาไม่เสียเปล่า แม้ว่าน้อง ๆ เหยื่อเองจะไม่กล้าออกมาเปิดหน้าท้าชน แต่ตนก็ได้ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่แล้ว
ล่าสุด พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน กทม. ออกหมายจับ นายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี ใน 2 ข้อหา คือข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ
ขณะที่นายเด่นภูมิมีประวัติลวงหญิงสาวมากระทำอนาจารและใช้วิธีการอ้างชื่อเป็นโมเดลลิ่งเกี่ยวข้องกับ "เอ ศุชัย" ผู้จัดการนักแสดงชื่อดัง ทีมข่าวสอบถามข้อมูลจากผู้จัดการชื่อดังยืนยันว่า "ไม่รู้จักคนนี้จริง ๆ ไม่เคยคุยเลยด้วยซ้ำ ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย"