จับผัวเมียสุดโหดลวงลุงกระทืบจนโคม่า อ้างแค้นด่าแม่ ลูกเหยื่อไม่เชื่อแฉปมฉ้อโกง (คลิป)

4 พ.ค. 64

เมื่อวันที่ 4 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม สามารถจับกุม น.ส.ศิริวรรณ ลิ้มไขแสง หรือ อ้อม อายุ 31 ปี ชาว จ.พิจิตร ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 191/2564 ลงวันที่ 1 พ.ค.64 ได้แล้ว ในคืนวันที่ 2 พ.ค.64 เวลา 21.30 น. พร้อมนายธีรยุทธ ดวงไทย อายุ 31 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ในฐานความผิด “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส”

892006

ทั้งนี้ตำรวจได้ยึดของกลาง เป็นรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน งร 226 เชียงใหม่ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดักเฝ้ารอถึง 2 วัน ก่อนจับตัวได้และนำตัวทั้งคู่ไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 พ.ค.64 ที่ผ่านมา

331976

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 ครอบครัวของนายฉัตรชัย กันถัด อายุ 55 ปี ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.64 น.ส.ศิริวรรณ และนายธีรยุทธ ได้ขับรถโตโยต้า มารับนายฉัตรชัย ที่บ้านย่านพระราม 2 เพื่อออกไปกินข้าวและพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจขายของออนไลน์ แต่หลังจากนั้น ทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อนายฉัตรชัยได้ กระทั่งวันที่ 27 เม.ย.64 เวลาประมาณ 10.00 น. ทางโรงพยาบาล โทรศัพท์มาแจ้งญาติว่า นายฉัตชัยถูกทำร้ายร่างกาย ภายในซอยพระรามที่ 2 ซอย 35 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ทางครอบครัวจึงแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ซึ่งนายฉัตรชัยยังคงพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู ผ่าตัดช่องท้องไปแล้ว 3 ครั้ง เนื่องจากยังคงมีเลือดไหลในช่องท้อง

198096

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน จึงได้จัดทำรายงานขออนุมัติหมายจับ น.ส.ศิริวรรณ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุได้เดินทางไปกับนายธีรยุทธ เพื่อนชาย เพื่อไปพูดคุยกับนายฉัตรชัย มีการดื่มสุราและพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจ แต่นายฉัตรชัย กลับพูดจาหยาบคายด่าทอพ่อแม่ของนายธีรยุทธ จนเป็นสาเหตุของการก่อเหตุทำร้ายร่างกายดังกล่าว

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า น.ส.ศิริวรรณ มีหมายจับอีกคดี เดือนธ.ค.63 แต่เจรจาไกล่เกลียกับคู่กรณี พร้อมถอนฟ้องเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีคดีฉ้อโกงเมื่อต้นปี 64 โดยทั้ง 2 คดีเป็นพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง

128306

ล่าสุดวันที่ 4 พ.ค.64 ทีข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายังเขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นซอยตัน ความยาวประมาณ 250 เมตร ภายในซอยมีโกดังและโรงงานหลายบริษัทตั้งอยู่ โดยพบว่าที่เกิดเหตุเป็นกองขยะอยู่ชิดริมกำแพง ห่างจากต้นซอยเพียง 50 เมตร

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางอรุณศรี สังข์สกุลณีย์ อายุ 63 ปี รปภ.โรงงานแห่งหนึ่งภายในซอยดังหล่าว เล่าว่า ในคืนวันที่ 26 เม.ย.64 เวลาประมาณ 19.30 น. มีชาวบ้านภายในซอยสังเกตเห็นและแจ้งกับตนว่า มีผู้บาดเจ็บนอนอยู่บนกองขยะบริเวณต้นซอย ตนจึงเดินไปดูอยู่ห่าง ๆ ประมาณ 4 เมตร สังเกตเห็นนอนพลิกตัวไปมา ไม่ได้ส่งเสียร้อง แต่ไม่ทันสังเกตว่ามีบาดแผลหรือรอยฟกช้ำหรือไม่ เนื่องจากเวลานั้นค่อยข้างที่จะมืดแล้ว อีกทั้งยังมีคนเตือนว่าอย่าเข้าไปใกล้ เพราะต้องระวังเรื่องโควิด-19

742175

ทั้งนี้ ตนได้พูดคุยกับ รปภ.อีกคนของโรงงาน รปภ.อีกคนจำผิดว่าผู้บาดเจ็บคือคนเมาเร่รอนในย่านนี้ ตนจึงไม่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ตนได้เดินทางกลับบ้าน ตนก็ไม่พบกับผู้บาดเจ็บแล้ว ตนรู้สึกตนใจที่ทราบภายหลังว่าผู้บาดเจ็บถูกทำร้ายร่างกายที่กองขยะ เสียใจหากตนรู้ตั้งแต่แรก ตนคงจะเข้าไปช่วยเหลือแล้ว 

อย่างไรก็ตาม ตนคาดว่าสาเหตุที่ผู้ก่อเหตุเลือกซอยแห่งนี้เป็นสถานที่ก่อเหตุ เป็นเพราะซอยตันและเปลี่ยวในเวลากลางคืน แม้จะมีไฟส่องสว่างแต่ไม่มีคนอยู่ เพราะมีแต่โรงงานและโกดังตั้งอยู่ภายในซอย ซึ่งในอดีตก็เคยมีคนวิ่งไล่ทะเลาะกัน แล้วถูกยิงเสียชีวิตภายในซอยแห่งนี้มาแล้ว 

439526

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางกุลการ กรณิศอัญชสา อายุ 50 ปี น้องสาวผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ครอบครัวไม่เคยรู้จักผู้ก่อเหตุ และการกระทำของผู้ก่อเหตุส่อเจตนาไม่ดี จึงอยากให้ถูกแจ้งข้อหาหนักมากกว่านี้

386479

โดยในวันที่ 26 เม.ย.64 เวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนได้เดินทางมายังบ้านของตน น.ส.ศิริวรรณ ได้เดินเข้าเดินออกบ้านของตนเหมือนบ้านตัวเอง ซึ่งตนก็รู้สึกไม่พอใจ เนื่องจากไม่รู้จักกับอีกฝ่าย อีกทั้งยังเป็นช่วงโควิด-19 จากนั้นก็ได้พูดคุยกับผู้บาดเจ็บ แต่ตนไม่ทราบว่าคุยอะไรกัน นายธีรยุทธก็ได้ลงจากรถพร้อมพูดว่า “พี่ ๆ ไปเถอะ ผมหิวข้าว” แล้วพากันขับรถออกไป

ส่วนผู้บาดเจ็บ เคยเป็นเจ้าของโรงงานผลิตแอร์ แต่กลายเป็นบุคคลล้มละลายเมื่อ 10 ปีก่อน จึงกลายเป็นคนติดสุรา ดื่มเหล้าขาวทุกวัน และมาขออาศัยอยู่กับตน จากนั้นในเวลา 17.00 น. แม่ของตนโทรศัพท์หาผู้บาดเจ็บไม่ติด ตนจึงปลอบแม่ไปว่า “เขาพาไปกินข้าว เดี๋ยวเขาก็พากลับมาส่ง” แต่ปรากฏว่าตลอดทั้งคืนผู้บาดเจ็บก็ไม่กลับมา ในเวลา 03.00 น. ของวันที่ 27 เม.ย.64 แม่ของตนก็ได้ปลุกตน ขอร้องให้โทรศัพท์หาผู้บาดเจ็บ บอกว่า “ลองโทรหามันหน่อย ใจไม่ดี” แต่ก็ไม่สามารถติดต่อผู้บาดเจ็บได้

542586

กระทั่งรุ่งเช้า ทางโรงพยาบาลก็ได้ติดต่อไปหาลูกสาวผู้บาดเจ็บ พร้อมบอกว่า “ขณะนี้ผู้ป่วยเพ้อถึงน้องสาว เรียกน้องสาว ๆ ๆ ขอให้รับมาด่วน เพราะผู้ป่วยมีเลือดออกในช่องท้อง ญาติต้องเซ็นยินยอมให้เข้ารับการผ่าตัดด่วน” ขณะนี้ผู้บาดเจ็บยังคงมีแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย เลือดคั่งในสมอง และมีเลือดออกในช่องท้องปริมาณมาก ยังคงต้องเปิดแผลผ่าตัดที่ท้องไว้ เพื่อสังเกตอาการ อาการถือว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง ต้องประเมินวันต่อวัน มีโอกาสเสียชีวิตสูง ซึ่งตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดการว่า ผู้บาดเจ็บน่าจะถูกทำร้ายมาก่อนที่จะถูกทำร้ายในซอย

639964

ทั้งนี้ จากคำกล่าวอ้างของ น.ส.ศิริวรรณและนายธีรยุทธ ที่บอกว่าผู้บาดเจ็บด่าทอบุพการี ถือเป็นคำกล่าวอ้างที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรก็ได้ แต่ถึงอย่างไรแม้ผู้บาดเจ็บจะติดสุรา แล้วชอบพูดจาโผงผาง อีกฝ่ายก็ไม่มีสิทธิ์จะทำร้ายผู้บาดเจ็บ ผู้ก่อเหตุรู้ที่อยู่ของผู้บาดเจ็บ แล้วทำไมไม่พากลับมาส่งบ้าน “คุณไปด้วยกัน ถ้าคุณหวังดี เพื่อนจะเมาแค่ไหน ก็ต้องพามาส่งบ้าน นี่คุณไม่ได้หวังดี คุณหวังจะฆ่าเขา คุณไม่มีเจตนาที่ดี ไม่มีใครเขาลงจากรถมาต่อยแล้วเอาตีนเหยียบคนอื่นหรอก” ตนไม่ค่อยใส่ใจพี่ชายของตนเท่าไร แต่ตนจะเปรียบเทียบว่า “ฉันเลี้ยงหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง แต่ใครก็ไม่มีสิทธิ์เอาหมาฉันไปฆ่าหรือเอาน้ำร้อนมาสาด” อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวในช่วงบ่ายวันนี้ โดยอีกฝ่ายได้โทรศัพท์มาหาตน เพื่อเจรจาต่อรอง แต่ตนย้อนกลับไปว่า “ขอพูดคุยในชั้นศาล เพราะคุณมีเจตนาไม่ดีตั้งแต่แรก”

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปหา นายธีรยุทธ ดวงไทย ผู้ก่อเหตุ แต่ได้รับการปฏิเสธ และไม่ให้ข้อมูลใด ๆ อ้างเพียงว่า “ไม่สะดวก”

341695

ทีมข่าวยังได้รับคลิปวิดีโอขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม เดินทางเข้าไปแสดงหมายจับผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ซึ่งนายธีรยุทธ พูดว่า “เมาเละเทะ ตั้งแต่ในร้าน” พร้อมถามว่า “จะเข้าห้องขังเลยไหม” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เชิญทั้งคู่เดินทางไปยัง สน.ท่าข้าม

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม