จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อย vplus" โพสต์ภาพพร้อมบรรยายข้อความระบุว่า ภรรยา"ผู้สูญหาย"ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งสามีไปดื่มเหล้าที่บ้านหลังนั้น จึงไปตามถึงบ้าน แต่เจ้าของบ้านในขณะนั้นยังไม่ยอมออกมา สุดท้ายเจ้าของบ้านบอกว่าไม่ทราบว่าสามีไปไหนเพราะขณะนั้นตัวเองหลับอยู่ แต่ภรรยาผู้สูญหายสังเกตเห็นมีรอยเลือดเป็นทาง มีร่องรอยการล้างเลือดตามพื้นถนน มีรอยเลือดติดบนใบหญ้าตามทาง แต่ไม่พบตัวสามี ตอนนี้ก็ยังไม่เจอว่าเป็นยังไง ถึงจะไม่มีชีวิตอยู่ อย่างน้อยขอเจอตัวเพื่อทำพิธีก็ยังดี จากการตรวจสอบ ผู้สูญหายสวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือ 10 บาทด้วยนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ส่อถูกเก็บ! หนุ่มใหญ่หายตัวจากวงเหล้า เมียล่องเรือหาร่าง ดันเจอสาวใหญ่นิ้วขาด
- หนุ่มหายปริศนารอยเลือดโผล่เป็นทาง เมียหวั่นถูกอุ้มฆ่า คาใจเพื่อนวงเหล้ามีแผล
วันที่ 5 พ.ค. 64 เวลา 11.00 น. ที่ สภ.ไชยา พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฏร์ธานี มีการประชุมก่อนเดินทางลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการสืบสวนทางคดี หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม ได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาล จ.ไชยา
ซึ่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. หลังจากร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้มีนายโสภณ เรืองดุก อายุ 60 ปี พี่ชายต่างมารดา ได้มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้กับนายโกสน น้องชายที่สูญหาย และลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน8 ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม
นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 53 ปี แม่นายตั้ม เผยว่า ในวันนี้ตนขอยืนยันคำเดิมว่าลูกชายของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมือยิงนายโกสนแน่นอน เนื่องจากลูกชายของตนเป็นคนดี อีกทั้งรักในตัวนายโกสน เสมือนเป็นพี่ชายแท้ ๆ เพราะตนเองก็เห็นนายโกสนมาตั้งแต่เล็ก ๆ เห็นทั้งคู่รักกันเหมือนพี่น้อง มั่นใจว่าลูกชายของตนไม่สามารถก่อเหตุดังกล่าวได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เรียกตัวลูกชายไปสอบปากคำแล้วหลายครั้ง ขณะนี้ก็ต้องรอทางเจ้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวออกหมายจับในกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี หลังจากที่ตำรวจเรียกลูกชายไปสอบปากคำตั้งแต่เมื่อวานนี้ วันนี้ลูกชายก็เพิ่งจะกลับมาจากโรงพักเมื่อช่วงเช้า เจ้าหน้าที่กันตัวลูกชายไว้เป็นพยาน
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมั่นใจว่าลูกชายเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะหากลูกชายเป็นผู้กระทำผิด ตนก็จะไม่ขอช่วยและปล่อยให้ตำรวจดำเนินคดีกับลูกชายของตนได้ทันที
ส่วนกรณีที่ภรรยาของนายโกศล ให้ข้อมูลว่าลูกชายตนถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ปืนจี้หัว ตนยืนยันว่าเป็นความจริง ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุมากันหลายคน พร้อมอาวุธปืนกดหัวลูกของตนลงกับโต๊ะ ใช้ปืนจี้หัวไว้ ก่อนลูกจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ซึ่งลูกก็เล่าให้ตนฟังว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายโกสนบ้าง ก่อนที่นายโกสนจะหายไป
นอกจากนี้ ตนเชื่อว่าบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องคือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ต.ตะกรบ และลูกชายของตนกับหลานเคยไปมีปัญหาผิดใจกับเจ้าตัวขณะออกประมง โดยในวันเกิดเหตุคงจะนัดเคลียร์กัน แต่ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรแน่ชัด เพราะว่าปัญหาน่าจะเป็นของ ลูกชายตน แต่ทำไมจะต้องทำร้ายนายโกสนถึงขั้นเสียชีวิต
เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าค้นบ้านต้องสงสัยจำนวน 3 หลัง บ้านจุดเกิดเหตุของบ้านนายบำรุง บ้านบุคคลที่ชาวบ้านอ้างว่า เป็นผู้มีอิทธิพล และผู้ต้องวงสัย โดยทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานได้เก็บพยานหลักฐานที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับทางคดี กลับมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
นางใหญ่ (นามสมมติ) อายุ 55 ปี แม่ของนายนัด เผยว่า ส่วนตัวของตนก็ยังยืนยันคำเดิมว่าลูกชายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะลูกชายไม่แข็งแรง ขณะนี้ลูกชายก็ยังไม่ได้กลับมาบ้าน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสอบปากคำอยู่ที่โรงพัก
แต่จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ก็บอกกับตนว่าไม่ต้องกังวล แค่เรียกไปสอบปากคำ ลูกชายไม่เกี่ยวอะไร ในส่วนนี้ตนก็อยากให้ทางตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเต็มที่ เพราะมั่นใจว่าลูกชายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้แน่นอน
เวลาประมาณ 11.00 น. ทางครอบครัว ลูกน้องของนายโกสน และชาวบ้านกว่า 30 คน ได้เดินทางมาที่บ้านกำนัน ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี นายโสภณ เรืองดุก อายุ 60 ปี พี่ชายนายโกสน เผยว่า ในวันนี้ตนจะไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่จะเดินทางมาดูคดีที่ จ.สุราษฎ์ธานี เพื่อขอความเป็นธรรม และให้ช่วยค้นหาติดตามร่างของนายโกสนที่เชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเวลาผ่านมาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่พบร่าง
ตนในฐานะพี่ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับน้องที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ อยากได้กำลังของทางเจ้าหน้าที่มาช่วยทำการค้นหา เพราะหากชาวบ้านออกทำการค้นหาเอง เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งในวันนี้ก็มีชาวบ้านกว่า 30 คนที่มาช่วยค้นหา และมารวมตัวกันที่บ้านกำนัน โดยพิกัดที่จะค้นหาคือบริเวณพื้นที่ป่าภายใน ต.ตะกรบ เพราะมีความคาดหวังว่าจะเจอร่างของน้องชายของตนโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเต็มที่ หากมีโอกาสได้พูดกับทางกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุ ก็อยากจะบอกว่า "ให้หยุดทำพฤติกรรมก่อเหตุแบบนี้" ส่วนน้องชายที่เสียชีวิต หากมีโอกาสได้พูดเป็นครั้งสุดท้ายอยากจะบอกว่า "ขอให้น้องชายไม่ต้องเป็นห่วงอะไร เดี๋ยวคนในครอบครัว ตนจะเป็นคนดูแลแทนเอง"
นางจินดาหรา วสินทรัพย์ อายุ 37 ปี ภรรยาของผู้สูญหาย กล่าว่า ในวันนี้ถึงแม้ว่าตนจะต้องเดินทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อทำธุระแต่ก็ยังมีลูกน้อง คนในครอบครัว ช่วยกันออกตามหาร่างของสามีเหมือนเดิม แบ่งเป็น 2 ชุดการค้นหา
ชุดที่ 1 หาดพรหมเรียง ชุดที่ 2 ป่าบริเวณโดยรอบพื้นที่ ต.ตะกรบ ซึ่งจากการได้รับข้อมูลจากทางหมอดูที่ทางญาติไปดูมานั้นทราบว่าสามีของตนเสียชีวิตแล้ว ร่างของสามีขณะนี้อยู่ระหว่างกลางต้นไม้ 2 ต้น ทางครอบครัวจึงอยากจะลองตามต่อ ตามความเชื่อดู แต่ก็ไม่ทราบว่าจะเจอร่างของสามีหรือไม่ คิดว่ายังดีกว่าอยู่เฉย ๆ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าตนถูกผู้มีอิทพลโทรศัพท์มาข่มขู่ ตนไม่ได้โดนโทรมาขู่คุกคาม แต่มีคนโทรมาหาบอกให้ตนให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าใครเป็นคนยิง ซึ่งตนคงทำไม่ได้ เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ได้เห็นกับตา จึงไม่กล้าที่จะปรักปรำใคร ส่วนกรณีความคืบหน้าของตำรวจรู้เบาะแสรู้ตัวผู้ก่อเหตุ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลแล้วว่าคนที่ก่อเหตุเป็นใคร และใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ในส่วนนี้ตนไม่ขอระบุว่าเป็นใคร เพราะอยู่ในขั้นตอนคดีความ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการรอหมายจับผู้ก่อเหตุ
ส่วนกรณีนายตั้ม ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ได้ให้ข้อมูลกับตนว่าขณะเกิดเหตุ ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ปืนจี้หัว ตนยืนยันว่าจริง นายตั้มเล่าให้ตนฟังว่าก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยไปมีปัญหากับลูกน้องเรือลำอื่นที่ออกไปหาของทะเลเหมือนกัน แต่ก็ได้เคลียร์กันไปแล้ว และคืนเกิดเหตุก็ได้มานั่งกินเบียร์กันตามปกติ โดยมี สามี นายตั้ม นายนัด นั่งอยู่ด้วยกัน ก่อนที่เวลา 22.00 น. ทั้งหมดได้ชวนกันไปที่จุดเกิดเหตุนั่งดื่มที่ศาลา มีผู้ก่อเหตุได้เข้ามาและเกิดการชุลมุน นายตั้มถูกอาวุธปืนจ่อหัว และคนร้ายพูดว่า "มึงเก่งนักหรือ" ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น และสามีของตนก็หายตัวไปอย่างปริศนา
บริเวณภายในพิ้นที่ บ้านโพรงไมย ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎ์ธานี จุดค้นหาพื้นดินพิ้นที่ป่าที่ญาติของนายโกสน และชาวบ้าน ออกทำการค้นหากันตั้งแต่ช่วง 11.00 - 17.00 น. ก่อนทำการยุติ นายศรัณย์ เรืองดุก ลูกพี่ลูกน้องที่รวมออกค้นหา กล่าวว่า วันนี้ครอบครัว ชาวบ้านกว่า 20-30 คน ออกทำการค้นหาตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเย็น แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดทางทะเล และทางดินพื้นที่ป่า
ในส่วนของตนเป็นชุดพื้นที่ป่า
ในวันนี้ตนค้นให้ในพื้นที่บริเวณหมู่ 2 บ้านโพรงไม ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎ์ธานี เป็นจุดใกล้ที่เกิดเหตุ และเป็นพื้นที่ป่า มีบ่อดิน บ่อน้ำ คาดว่าเหมาะแก่การนำศพมาทิ้งไว้ ระยะการค้นหาเป็นรัศมีวงกลมกว่า 2 กิโลเมตร ตามคำบอกของหมอดูที่ญาติได้บอกต่อกันมาว่าศพน่าตะจะอยู่บริเวณข้างต้นไม้และบ่อน้ำ ทุกคนมีความหวังออกมาลงเดินสำรวจค้นหากัน เพราะอยากจะเจอร่างของนายโกสนโดยเร็ว ซึ่งใช้ความเชื่อว่าระยะเวลาผ่านมา 3 วัน หากเสียชีวิตและนำมาทิ้งไว้บริเวณนี้ก็อาจจะมีกลิ่นศพบ้าง แต่ก็ยังหาไม่พบ
ส่วนความเคลื่อนไหวเฟซบุ๊กของภรรยาผู้สูญหาย มีการโพสต์ภาพถึงสามีระบุว่าคิดถึง และมีการลงภาพนายโกน สามีกับครอบครัวตลอดทั้งวัน