โหดกว่าที่คิด! มือสังหาร “สปาย-ฟอร์ช” เปิดรถรัวยิงจ่อหัว พยานเห็นฆ่าเสร็จของเหยื่อหาย (คลิป)

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอร์ช อายุ 21 ปี ที่บริเวณลานจอดฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา

วันที่ 1 ส.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณลานจอดรถ มีชาวบ้านนำดินและใบไม้มากลบรอยเลือดไว้ แต่ยังคงมีแมลงวันบินตอมบริเวณคราบเลือด โดยนางกิ่ง (นามสมมติ) แม่ค้าขายอาหาร เปิดเผยว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทึ่เขาชีจรรย์เป็นที่เคารพนับถือกับคนในละแวกนี้ ซึ่งส่วนตัวก็ไปขอพรจากท่านให้ค้าขายดี สำหรับเหตุการณ์ยิงกันนั้น ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นที่นี่ โดยตนไม่ทันสังเกตเห็นกลุ่มของน้องผู้ตาย ทราบเรื่องตอนที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตอนนั้นก็ค่อนข้างตกใจกลัว ไม่กล้าเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ จึงไม่เห็นว่าคนก่อเหตุเป็นใคร เพราะรถนักท่องเที่ยวจอดอยู่เยอะ ทั้งนี้ ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดติดกัน แต่ตอนแรกตนไม่แน่ใจว่าใช่เสียงปืนหรือไม่ เพราะเสียงค่อนข้างเบา

ภายหลังเกิดเหตุ ชาวบ้านก็ยังไม่เคยเห็นว่าจะมีวิญญาณของผู้ตายยังวนเวียนอยู่ เพราะพ่อแม่ผู้ตายได้มาอันเชิญดวงวิญญาณกลับไปแล้ว อีกทั้งช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ร้านค้าก็จะปิดหมด ส่วนตัวจึงไม่ค่อยรู้สึกกลัว ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าความศักดิ์สิทธิ์ของเขาชีจรรย์ จะช่วยตามจับคนร้ายในคดีนี้ได้โดยเร็ว อีกทั้งเชื่อในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอย่างเต็มที่ นางกิ่ง กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกเสียใจแทนครอบครัวผู้เสียชีวิต และเข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อแม่ ตนก็ขอให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว แต่ยอมรับว่าตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าก็เริ่มหวาดระแวง กลัวผู้ก่อเหตุจะกลับมาทำร้ายคนในละแวกนี้ด้วย เพราะอยู่ในเหตุการณ์ และตำรวจยังจับตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษไม่ได้

ด้าน นายเอ (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุช่วงประมาณ 16.00 น. รถ CRV ป้ายแดงที่ผู้ก่อเหตุได้ขับเข้ามาจอดใกล้กับรถของน้องสปาย ขณะนั้นเห็นน้องสปายกำลังจะเดินขึ้นรถ แต่คนร้าย 2 คน เข้ามาประกบ แล้วหนึ่งในนั้นใช้อาวุธปืนสีดำ กระบอกความยาวประมาณฝ่ามือ กระหน่ำรัวยิงใส่น้องสปายหลายนัด โดยเสียงปืนมีเสียงคล้ายกับประทัด เสียงไม่ดังมาก จากนั้นคนร้ายก็เปิดประตูรถของผู้ตาย พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงใส่น้องฟอร์ช จากนั้นทั้ง 2 คนสลบไป โดยที่ผู้ยิงไม่มีการสอบถามหรือพูดคุยอะไรก่อนจะก่อเหตุ หลังก่อเหตุก็รีบขับรถออกไปทันที เมื่อตนเข้าไปดู ก็เห็นว่าบริเวณรอบข้างของผู้บาดเจ็บ พบว่ากล้องถ่ายภาพอยู่ แต่ทราบภายหลังว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไป ซึ่งตนไม่ทันสังเกตว่าคนร้ายได้หยิบไปหรือไม่ ส่วนสภาพศพพบร่องรอยการยิงส่วนใหญ่อยู่ที่บริเวณศีรษะ หลังจากนั้น ก็มีนักท่องเที่ยวเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งทราบว่าเป็นพยาบาล เข้ามาช่วยปฐมพยาบาลด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ชีพจรของน้องสปายเต้นอ่อนแรง มีเลือดออกมาที่ปาก จมูก ใบหู และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ยอมรับว่าตอนนั้นตนรู้สึกตกใจและทำอะไรไม่ถูก เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเขาชีจรรย์ไม่เคยเกิดเหตุเช่นนี้ ส่งผลให้ตอนนี้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามาเที่ยวอีกด้วย ทั้งนี้ ตนไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวว่าจะมีวิญญาณของผู้ตายวนเวียนอยู่ เพราะญาติมาเชิญดวงวิญญาณไปแล้ว และตนก็ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาชีจรรย์ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ด้วย นอกจากนี้ ตนจำหน้าคนร้ายไม่ได้ เพราะระยะห่างจากจุดเกิดเหตุ มีรถนักท่องเที่ยวบังอยู่