กรณีนายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี โมเดลลิ่งหนุ่มหื่นที่หลอกทำอนาจารสาว 18 เน็ตไอดอลเมื่อหลายปีก่อน หลอกให้ไปรับงานแล้วใช้มีดจี้ บังคับแก้ผ้า เสพยาจนเมา ก่อนลงมือข่มขืนตลอดทั้งคืน กระทั่งสน.บางขุนเทียน และ สน.บวรมงคล ได้ออกหมายจับนายเด่นภูมิในข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเรา" และ "บังคับข่มขืนใจผู้อื่น"
ล่าสุดวันที่ 9 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อไปพูดคุยกับผู้เสียหายอีกราย ที่ถูกนายเด่นภูมิข่มขืนที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ เมื่อช่วงเดือนเม.ย.64 ที่ผ่านมา และเตรียมเข้าแจ้งความที่ สน.บวรมงคล ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.64)
น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเป็นนักศึกษาอยู่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง จ.ชลบุรี ก่อนหน้านี้ได้พยายามหารายได้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ และหาเงินจ่ายค่าเทอม จึงตัดสินใจรับงานเอนเตอร์เทนเป็นครั้งแรก และเข้ากลุ่มไลน์รับงาน
ในช่วงคืนวันที่ 6 เม.ย.64 นายเด่นภูมิ ได้ปลอมโพรไฟล์ไลน์และทักมาเสนองานเอนเตอร์เทนลูกค้า เป็นนักธุรกิจชาวมาเลเซีย ที่โรงแรมย่านจรัญสนิทวงศ์ โดยทำงาน 4-6 ชั่วโมง และให้ค่าจ้าง 20,000 บาท ซึ่งนายเด่นภูมิ ได้โทรศัพท์มาและปลอมเสียงเป็นกะเทย โดยจะออกค่าเหมารถทั้งขาไปและขากลับระหว่างพัทยา-กรุงเทพ ให้อีกด้วย ตนจึงตัดสินใจรับงาน โดยนั่งแกร็บคาร์จากพัทยา ตั้งแต่เวลา 03.00 น. มาถึงโรงแรมม่านรูด ย่านจรัญสนิทวงศ์ ในช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 7 เม.ย.64 ที่ผ่านมา
แต่เมื่อไปถึงและโทรศัพท์กลับไปหานายเด่นภูมิ ที่ปลอมตัวเป็นโมเดลลิ่ง เขาก็สั่งให้ตนไปจ่ายค่าโรงแรมและเปิดห้องเอาไว้ ซึ่งตนก็เข้าไปพักอยู่ในห้อง 438 หลังจากนั้นก็มีคนมาเคาะประตูหน้าห้อง ซึ่งเมื่อไปเปิดก็พบว่าเป็นนายเด่นภูมิ และได้เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับใช้มีดปลายแหลม ยาวประมาณ 6 นิ้ว จี้คอและบังคับให้ตนทำตามคำสั่ง โดยสั่งให้ตนถอดเสื้อผ้า พร้อมกับยืนพูดจาบ่นเหมือนคนเก็บกด
หลังจากนั้นก็ลากโซฟาไปดันประตูเอาไว้ และบอกกับตนว่า "ช่วงนี้ช่วงเทศกาล ไม่มีใครช่วยมึงได้ ระวังตายฟรีนะ กูหมั่นไส้เด็กพัทยามานานแล้ว เพราะเคยหลอกกู" หลังจากนั้นนายเด่นภูมิ ได้ค้นกระเป๋าของตนและได้ยึดโทรศัพท์มือถือ และเงินสดจำนวน 3,000 บาท ของตนไป
นอกจากนี้ นายเด่นภูมิ ก็ลงมือข่มขืนตนโดยที่ไม่สวมถุงยางอนามัย โดยระหว่างข่มขืนนายเด่นภูมิ ก็บอกว่าตัวเองเป็นโรคจิต บางคำพูดจะทำให้เขามีอารมณ์ทางเพศ ซึ่งเขาก็ถามตนว่าเคยช่วยตัวเองหรือไม่ แต่ตนตอบว่าไม่เคย ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่ถูกใจเขา เขาจึงตบหน้าและบีบคอตน ซึ่งการข่มขืนครั้งแรกนายเด่นภูมิยังไม่สำเร็จความใคร่ เขาจึงหยุดพักและหันไปเสพยาไอซ์ พร้อมกับใช้มีดจี้บังคับให้ตนเสพยาไอซ์จนเมา หลังจากนั้นก็ลงมือข่มขืนตนจนสำเร็จความใคร่ และลงมือข่มขืนซ้ำ ๆ หลายครั้งทั้งวันทั้งคืนจนเลือดไหลออกจากอวัยวะเพศ ซึ่งระหว่างเสพยาและร่วมเพศ นายเด่นภูมิ ก็ถ่ายรูปและถ่ายคลิปวิดีโอไว้ด้วย
ทั้งนี้ช่วงที่อยู่กับนายเด่นภูมิ สังเกตว่าเขาติดพนันออนไลน์อย่างหนัก เงินที่ได้ไปเขาก็เอาไปเล่นพนันออนไลน์ เมื่อเงินหมดก็จะหาเหยื่อที่เป็นพริตตี้ โดยจะดูโพรไฟล์ หากใครที่ดูมีเงิน ใส่ทอง นายเด่นภูมิก็จะหมายตาไว้ กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 8 เม.ย.64 นายเด่นภูมิ ได้พยายามให้ตนเป็นนกต่อ บังคับให้ตนวิดีโอคอลหาพริตตี้คนอื่น แต่ระหว่างที่ติดต่อพริตตี้รายอื่นนั้น ตนได้แสดงท่าทีที่มีพิรุธเพื่อทำให้เหยื่อรู้ตัว ทำให้ไม่มีใครกล้ารับงาน นายเด่นภูมิโมโหและตบตีตน ซึ่งตนก็ร้องไห้และขอให้เขาปล่อยตัวกลับบ้าน เขาจึงใช้ด้ามมีดพลาสติกยัดเข้าไปในอวัยวะเพศของตนจนเลือดออก และขู่จะฆ่าตนหากไม่สามารถเป็นนกต่อและหลอกพริตตี้คนอื่นมาได้
กลางดึกของวันที่ 8 เม.ย. 64 นายเด่นภูมิ ก็ใช้โพรไฟล์ไลน์ปลอมติดต่อไปยัง น.ส.ฝน โดยให้ตนคุยโทรศัพท์เป็นนกต่อ ซึ่งน.ส.ฝน ก็หลงกลและมาถึงโรงแรมในช่วง 02.00 น. ของวันที่ 9 เม.ย.64 และลงมือใช้มีดบังคับให้ น.ส.ฝน เสพยาไอซ์และลงมือข่มขืน น.ส.ฝน ในระหว่างที่นายเด่นภูมิย้ำยี น.ส.ฝน ตนก็อยู่ในห้องด้วย ซึ่งนายเด่นภูมิ สั่งให้ตนห่มผ้าสลับกับเอาตนไปขังในห้องน้ำ
กระทั่งช่วงสายของวันที่ 9 เม.ย. 64 น.ส.ฝน ได้ยอมเป็นนกต่อ และหลอกล่อเหยื่ออีกคนมาให้นายเด่นภูมิ ในเวลา 11.00 น. ขณะเดียวกัน นายเด่นภูมิได้สั่งให้ตนและน.ส.ฝน ไปแอบอยู่ในห้องน้ำ ซึ่ง น.ส.ฝน ได้ออกอุบายและทำให้ได้โทรศัพท์มือถือมาจากนายเด่นภูมิ โดย น.ส.ฝน ได้ส่งข้อความให้คนขับแกร็บไปบอกพนักงานมาเคาะประตู ซึ่งเมื่อมีพนักงานมาเคาะห้อง ตนและน.ส.ฝน ได้วิ่งหนีตายไม่คิดชีวิต และเรียกแท็กซี่กันคนละคัน แยกย้ายกันหลบหนี
น.ส.น้อย กล่าวต่อว่า หลังจากตนหนีเอาชีวิตรอดมาได้ ก็ไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ เพราะนายเด่นภูมิ ขู่จะฆ่าตน ซึ่งตอนนี้ตนก็กลัวจะติดโรคจากนายเด่นภูมิ อย่างไรก็ตาม หลังจากนายเด่นภูมิตกเป็นข่าวในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน ได้เพียง 1 วัน ตนก็โทรศัพท์ไปที่ สน.บางขุนเทียน เพื่อจะแจ้งความ แต่กลับถูกตำรวจปฏิเสธโดยบอกว่าตนไม่มีหลักฐาน และไล่ให้ไปแจ้งความในที่พื้นที่เกิดเหตุ คือ สน.บวรมงคล ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.64) ตนจะเดินทางไปแจ้งความที่ สน.บวรมงคล เพื่อเอาผิดกับนายเด่นภูมิ
ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม ร้อยเวรเจ้าของคดี สน.บวรมงคล กรุงเทพฯ ให้ข้อมูลว่า ล่าสุดชุดสืบสวนยังอยู่ระหว่างติดตามตัวนายเด่นภูมิ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ทั้งพื้นที่ สน.บวรมงคล และพื้นที่ สน.บางขุนเทียน อย่างไรก็ตาม ได้นัด น.ส.น้อย มาแจ้งความที่ สน.บวรมงคล เวลา 13.00 น.