กรณีศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ ที่เป็นศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นใจกลาง 5 แยกลาดพร้าว ออกประกาศหยุดให้บริการชั่วคราว หลังจากโควิด-19 ระลอกใหม่ ระบาดอย่างหนัก เมื่อวันที่ 9 พ.ค.64 ที่ผ่านมา
โดยใจความตอนหนึ่ง ระบุว่า ยูเนี่ยน มอลล์ และผู้ประกอบการร่วมใจ "พักก่อน" ลดวิกฤตโควิด-19 เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาจะมีบางช่วงที่ดูเหมือนสถานการณ์กลับมาดีขึ้น คล้ายว่าภาครัฐสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่คลัสเตอร์การระบาดระลอกใหม่ก็ผุดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำอีก ศูนย์การค้าฯ จึงออกนโยบายเร่งด่วนเพื่อผู้ประกอบการได้ "พักการให้บริการชั่วคราว" ตั้งแต่วันที่ 13-27 พ.ค.64 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้จะยังเปิดให้บริการเฉพาะร้านอาหารในรูปแบบสั่งกลับบ้านเท่านั้น
ล่าสุดวันที่ 11 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่สำรวจร้านค้า ร้านอาหารในศูนย์การค้าดังกล่าว จากการสำรวจพื้นที่ชั้น F1 อย่างร้านขายเครื่องสำอาง น.ส.ลำพูล หาญนาแซง อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ตนได้เตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้วเพราะมีประสบการณ์จากการระบาดระลอกแรก ครั้งนี้การปิด 14 วันเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งก็จะมีการขายออนไลน์ เพื่อหาเลี้ยงลูกน้อง 3 คน และคนในครอบครัวอีก 5 คน ผลตอบแทนก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะมีการซื้อโฆษณา เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งลูกค้าประจำก็ยังคงอยู่
การปิดแค่ 14 วัน ตนมองว่าเป็นระยะสั้นที่ถือว่าเชฟตัวเอง เซฟเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ทางห้างฯ ก็ไม่ได้คิดค่าเช่า อีกทั้งในช่วงนี้ปริมาณของลูกค้าน้อยลง หากจะฝืนขายต่อไปก็คงจะต้องติดลบ เพราะยังมีค่าเช่าร้าน ค่าจ้างลูกน้อง และค่าเดินทางมาขายที่ร้านด้วย ถือว่าปิด 14 วันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้บ้าง แต่ยังมีภาระอื่น ๆ เช่น บ้าน รถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายอาหารอื่น ๆ แต่ละเดือนก็หลักแสน
สำหรับร้านได้เข้าร่วมโครงการของรัฐทุกโครงการ ในช่วงนั้นถือว่าช่วยร้านได้เยอะมาก ร่วมทั้งส่วนตัวได้รับการช่วยเหลือจากโครงการคนละครึ่งด้วย แต่ตอนนี้มองว่าทุกคนก็แย่กันหมด คิดว่าหากปิดแล้วทุกอย่างดีขึ้นก็ค่อยว่ากันใหม่ นอกจากนี้ตนมองว่าการปิดไปก่อน 14 วัน ถือว่าได้พักผ่อนและได้เชฟตัวเอง ตอนนี้ก็ได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนไว้แล้ว ก็หวังว่าหากได้รับการฉีดวัคซีนคงจะช่วยป้องกันโรคได้มากขึ้น
ขณะที่ น.ส.ภัณฑิลา แน่นอุดร อายุ 40 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้า เปิดเผยว่า การปิด 14 วัน ครั้งนี้มีแผนรองรับคือขายออนไลน์ แต่ยอดก็ยังไม่พอค่าใช้จ่าย เบื้องต้นจะพยายามไลฟ์สดในราคาที่ถูกกว่าหน้าร้าน ส่งฟรี แต่หากยังแย่ลูกค้าไม่สนใจก็จะขายของกิน ซึ่งมองไว้ 2 ชนิด คือ เค้กและอาหารทะเล ซึ่งก็จะจัดทำเปิดร้านขายที่บ้านแต่เป็นแบบเดลิเวอรี่เพราะในช่วงนี้ก็ไม่สามารถให้ลูกค้านั่งทานที่ร้านได้
ทั้งนี้หลัก ๆ ตนมองว่า 14 วันเป็นระยะเวลาที่สั้น แต่การปิดตัวกว่าจะเปิดก็เกือบจะถึงสิ้นเดือน ซึ่งก็ต้องพยายามหารายได้เสริม เพื่อจ่ายค่าบ้าน ค่ารถ ส่วนค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในบ้าน ตนคาดว่าการขายออนไลน์ที่วางแผนไว้น่าจะพอมีเงินมาจ่ายส่วนนี้ เบื้องต้นจึงได้เจรจาขอหยุดหนี้ ทั้งต้นและดอกเบี้ยกับธนาคารแห่งหนึ่ง และกำลังเจรจากับอีกธนาคาร เพราะตนมองว่าตอนนี้แย่มาก ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าร้านของตนจะเข้าร่วมโครงการรัฐบาล ที่ผ่านมาถือว่าช่วยได้มาก ตนมีลูกน้อง 1 คน แต่เนื่องจากลูกน้องอาศัยอยู่ในย่านนี้ จึงตกลงกันว่าให้ลูกน้องพักไปก่อน 14 วัน โดยตนจะช่วยค่าห้องครึ่งหนึ่ง ส่วนค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวส่วนใหญ่เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ