นับเป็นอีกหนึ่งนักแสดงตลกที่ต้องบอกว่า ชีวิตช่วงหนึ่งเคยผกผันถึงขั้นไม่มีงานในวงการ รายได้หด อย่าง "หยอง ลูกหยี" นักแสดงตลกชื่อดัง เพราะเคยออกมาแสดงจุดยืนทางการเมือง ขึ้นเวทีปราศรัยบนเวที กปปส.
ล่าสุดวันที่ 11 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสเดินทางไปพูดคุยถึงเรื่องราวในอดีตกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังผันตัวไปยุ่งกับการเมือง จนทำให้งานหดหายและต้องเฟดตัวออกจากวงการ พร้อมกลับมาอยู่บ้านเกิดที่ จ.ลพบุรี เพื่อทำเกษตร
"หยอง ลูกหยี" กล่าวยอมรับว่า ในอดีตที่ตนเข้าไปยุ่งเรื่องการเมืองนั้น ส่งผลกระทบต่องานในวงการค่อนข้างมาก เรียกว่างานแสดง งานละคร หรืองานต่าง ๆ หายไปเลย จากที่เคยมีรายได้ปีละ 7-8 ล้านบาท เมื่อเจอเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รายได้ช่วงนั้นลดเหลือแค่ 1 ล้านบาทต่อปี เรียกว่าลดลงไปเกินครึ่ง ขณะที่ผู้ใหญ่ในวงการ ทั้งผู้จัดหรือเจ้าของแบรนด์ ได้เรียกเข้าไปคุยเพื่อที่จะปลดตนออกจากงานละครหรืองานจ้าง เนื่องจากเหตุผลที่ตนไปแสดงทัศนคติทางการเมืองที่ไม่ตรงกับกลุ่มลูกค้า ทำให้ตนต้องทำใจยอมรับ เพราะเข้าใจว่าบางรายการหรือบางช่องไม่ได้ฝักใฝ่การเมือง
"ผมยอมรับว่าการขึ้นเวทีปราศรัย กปปส. ไม่ได้ใฝ่การเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมไม่ได้อยู่ข้าง สุเทพ เทือกสุบรรณ หรือข้างใครเลย แค่ต้องการใช้เวทีนี้บอกว่าผมพูดในสิ่งที่ถูกต้อง เเละจุดประสงค์หลัก ๆ คือผมแค่ปกป้องสถาบัน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นส่วนตัวก็พร้อมยอมรับว่าเป็นการกระทำของตัวเอง ไม่ขอโทษใคร" หยอง ลูกหยี กล่าว
นอกจากนี้ ผลกระทบนอกเหนือจากงานในวงการแล้ว ตนยอมรับว่าเพื่อน ๆ ในวงการบางคนเลิกคบ แต่ก็โชคดีที่ผ่านไปสักพักหลายคนก็เข้าใจ และยอมรับในสิ่งที่ตนเป็น ตนมองเหตุการณ์ในอดีตว่าเป็นบทเรียนหนึ่งในชีวิต ถามว่าถึงขั้นโทษตัวเองหรือไม่ที่ทำลงไปตอนนั้น ก็ไม่ได้โทษตัวเอง มองว่าเป็นเพียงแค่สิ่งที่ตนต้องการพูดว่าการเป็นดารานักแสดง ก็สามารถแสดงทัศนคติทางการเมืองได้เหมือนต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ส่วนตัวได้ตัดสินใจกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด จ.ลพบุรี เพื่อกลับมาทำไร่ทำสวนในแบบเกษตรพอเพียง บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ โดยส่วนใหญ่จะเน้นปลูกพืชผักที่สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ ตลอดจนเก็บเกี่ยวไว้ขายได้ อาทิ มันสำปะหลัง ข้าวโพด มะขามเทศ แก้วมังกร รวมทั้งยังขุดบ่อเลี้ยงปลาด้วย ขณะที่รายได้จากการทำไร่ทำสวนนั้น ต้องบอกว่าไม่ได้เน้นกำไร เน้นพออยู่พอกิน หลัก ๆ จะมีรายได้เข้ามาช่วง 4-6 เดือนจะมีเข้ามา 1 ครั้ง เนื่องจากเป็นการรอเก็บเกี่ยวผลผลิต ชีวิตอนนี้ยอมรับว่ามีความสุข แม้ต้องปรับเปลี่ยนการใช้เงินและสไตล์การใช้ชีวิต จากเดิมที่เคยมีเงินเข้ามาค่อนข้างมาก แต่ตอนนี้กลับต้องใช้จ่ายประหยัด เรียกว่าอยู่มา 6 ปีชีวิตค่อนข้างลงตัวแล้ว