แท็กซี่อดีตเด็กช่าง พ่นสีใส่แนวกั้นต่างระดับ สนามบินสุวรรณภูมิ อ้างเครียดไม่มีเงิน

แท็กซี่อดีตเด็กช่าง พ่นชื่อสถาบันที่เคยเรียนใส่แนวกั้นถนนต่างระดับ สนามบินสุวรรณภูมิ อ้างทำไปเพราะเครียดไม่มีเงิน

เมื่อ 17.30 น. วันที่ 11 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฎิบัติการพิเศษทอท.คุมตัว นายณรงค์หรือ กบ วงษ์ศรี อายุ 50 ปีคนขับรถแท็กซี่สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ทห7677 กทม. ซึ่งก่อเหตุพ่นสีข้อความที่แนวกั้นกำแพงปูน บนยกระดับทางออกอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มาทำการใช้สีขาวลบข้อความที่ตนเองพ่นไว้ตามความประสงค์ของผู้ต้องหารายนี้ หลังจากสำนึกผิดต่อการกระทำลงไป

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อสายของ วันที่ 24 เมษายน 2564 ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่การท่าว่ามีมือดีมาพ่นข้อความสีใส่กำแพงกั้นริมถนนยกระดับ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นข้อความว่า กบ กนก ศูนย์ปฎิบัติการพิเศษจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังพบหลักฐานสำคัญคือมีรถแท็กซี่คันหนึ่งสีเหลือง ขับมาจอดจากนั้นชายคนขับได้ลงมาจากรถแล้วใช้สีที่เตรียมมาพ่นบริเวณดังกล่าวก่อนจะขับรถหลบหนีไป

ทำให้ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการพิเศษ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษของสุวรรณภูมิประสานฝ่ายสืบสวนสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและฝ่ายสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวเร่งสืบหาเบาะแสของผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นการทำให้เสียทรัพย์แล้วยังสร้างภาพลบให้กับประเทศไทยเพราะสนามบินสุวรรณภูมิโดยเฉพาะจุดดังกล่าวถือเป็นทางออกเข้าสู่ประตูประเทศไทย เมื่อนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติมาเจอข้อความดังกล่าวในลักษณะมือบอนพ่นสีนั้นจะส่งผลเสียในภาพรวมของประเทศได้

ฝ่ายสืบสวนจึงแกะรอยตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางหลบหนีของรถแท็กซี่คันนี้ แต่เนื่องจากกล้องไม่สามารถจับป้ายทะเบียนได้ชัดเจน จึงทำให้ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกย้อนหลัง จนกระทั่งทราบต้นทางของรถแท็กซี่คันนี้ที่รับผู้โดยสารมายังสนามบินสุวรรณภูมิจึงประสานตรวจอสอบกล้องวงจรปิด จนกระทั่งทราบหมายเลขทะเบียนและตัวคนขับจึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการในข้อหาทำให้เสียหายทำลายทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์หรือมีไว้เพื่อสาธารณะ

จากนั้นฝ่ายสืบสวนจึงตามไปจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ที่ห้องพักย่านลาดพร้าว กทม. โดยเจ้าตัวจำนนด้วยหลักฐานจึงยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่าเคยถูกว่ากล่าวตักเตือนในความผิดชักชวนผู้โดยสารใช้บริการรถสาธารณะในเขตหวงห้ามของทางสนามบินสุวรรณภูมิมาแล้วถึง 50 ครั้งแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้เข็ดหลาบ

ด้านผู้ต้องหารายนี้ให้สัมภาษณ์ ยอมรับผิดต่อการ กระทำของตนเอง พร้อมออกมากล่าวขอโทษสังคมและสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ลงมือก่อเหตุไปโดยอ้างว่าวันดังกล่าวนั้นมาจากความเครียดที่ไม่มีผู้โดยสารนั่งแท็กซี่ออกจากสนามบิน ทำให้เงินไม่พอที่จะจ่ายค่าเช่า จึงลงไปพ่นสีระบายอารมณ์

ส่วนสีที่พ่นนั้นผู้ต้องหาอ้างว่าซื้อมานานแล้วไว้พ่นโครงรถจักรยาน แต่ยังไม่ได้ใช้จึงนำมาพ่นดังกล่าว ส่วนข้อความที่พ่นไปเป็นชื่อของตนเองและสถาบันที่ตนเองเคยเรียนในอดีต เพราะตนเองรักสถาบันนี้มาก ที่ผ่านมาหากขับรถไปเจอข้อความที่พ่นสีทำนองโจมตีสถาบันของตนก็จะลงไปพ่นทับหรือพ่นประกาศศักดาว่าตนเองก็เป็นคนรักสถาบันการศึกษาแห่งนี้