ผู้ว่าฯปทุม - สสจ. หักเงินเดือนคนละครึ่ง ซื้อ ประกันแพ้วัคซีนโควิด แจกประชาชน

เฉียบ! ผู้ว่าปทุมฯ จับมือ สสจ. หักเงินเดือนคนละครึ่ง ซื้อ ประกันแพ้วัคซีนโควิด แจกประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูงสุด

ที่เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี โพสต์ภาพที่ระบุข้อความว่า ประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 คุ้มครองสูงสุด 1,000,000 บาท นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จับมือนายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี หักเงินเดือนคนละครึ่งเดือน ซื้อประกันคุ้มครองสร้างความมั่นใจคน อายุ 60 ปีขึ้นไปและเป็น 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าเนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเรามีจำนวน ประมาณ 300,000 คน แต่มีคนลงทะเบียนเพื่อฉีดวัคซีนจำนวนประมาณ 30,000 คน ผ่านหมอพร้อม จึงปรับกลยุทธ์ให้ อสม. รพ. สต. รับลงทะเบียนได้เลย เมื่อทำแบบนี้แล้วก็ยังมีหลายท่านที่ยังกลัวการฉีดวัคซีน ดังนั้นท่านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้เสนอ ซื้อประกันให้ดีหรือไม่

จึงตกลงกันว่าออกกันคนละครึ่ง โดยหักเงินเดือนของตัวเอง 2 คน คนละครึ่งเดือน มาซื้อประกันให้พี่น้องประชาชน โดยคนที่จะเข้าข่ายคือคนที่เสี่ยงที่สุด ประกอบด้วยคุณสมบัติ 3 อย่างคือ

1.ผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป 2.เป็น 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 3.มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อแสดงว่ามีฐานะยากจน ซึ่งประกันจะคุ้มครองอย่างน้อย 2 เรื่อง คือ 1.เมื่อเจ็บป่วยจะคุ้มครองรายได้วันละ 1,000 บาท 2.หากฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิตจะคุ้มครองถึง1,000,000 บาท วิธีการสามารถติดต่อที่สายด่วนชาวปทุมธานี 02-5815658,065-9505772

ด้าน นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าการลงทะเบียนฉีดวัคซีนของกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปและกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังได้ดำเนินการมาตามการสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมาถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 มีจำนวนผู้ลงทะเบียนเกือบ 40,000 คนแล้ว

เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีมีจำนวนประชากรมากจึงต้องรณรงค์ให้คนมาฉีดวัคซีนให้เพิ่มขึ้นต่อไป ผมและท่านผู้ว่าฯ ให้ให้ อสม.เคาะประตูบ้านเชิญชวนให้คนมาฉีดวัคซีน รวมถึงบริจาคเงินเดือนคนละครึ่งเพื่อซื้อประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 คุ้มครองสูงสุด 1,000,000บาท

ส่วนตามที่มีข่าวตลาดแห่งหนึ่ง ได้มีการคัดกรองเชิงรุกเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก หลังจากที่คณะกรรมการควบคุมโรคฯ ได้ประชุมได้สั่งการให้ปิดโซนตลาดจำนวน 2 พื้นที่ ไม่ได้ปิดตลาดทั้งหมด นอกจากนี้ทางสาธารณสุขได้เตรียมวัคซีนฉีดให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดแห่งนี้จำนวน 2,000 คน ในวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2564 เพื่ออำนวยความสะดวกไม่ต้องไปที่โรงพยาบาล