จากกรณีพบศพ น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถูกฆาตกรรมโหด ภายในโรงแรมหรู ย่านลาดพร้าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ออกหมายจับ นายอัศยา ชัยภา หรือ โก้ อายุ 33 ปี หรือ คนร้าย ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และเตรียมออกหมายเรียกนายอนุวัฒน์ ชัยภา อายุ 32 ปี น้องชายคนร้าย เข้าพบพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 6 ส.ค. 61 ขณะเดียวกันได้มีผู้หวังดี ไม่ประสงค์ออกนาม ตั้งเงินรางวัลนำจับคนร้าย 330,000 บาท
วันที่ 5 ส.ค. 61 ทีมข่าวลงพื้นที่วัดบางบัวถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เนื่องจากวันนี้เป็นวันฌาปนกิจ น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี ผู้ตาย ซึ่งหลังจากนำศพขึ้นตั้งบนเมรุแล้ว มีกลุ่มชาวบ้าน ประมาณ 10 คน ถือป้ายไว้อาลัยผู้ตาย เพราะก่อนหน้านี้ผู้ตายได้พูดคุยกับชาวบ้าน เพื่อเริ่มโครงการสร้างบ้าน ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์น่าสลดใจก่อน จึงไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
นางนีรนุช นาคประสิทธิ์ อายุ 54 ปี ประธานชุมชนภาวนา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ขณะลงเรือไปดูงาน คุณเชอร์รี่ได้มาแนะนำนายอัศยา หรือ โก้ให้รู้จัก ตอนแรกตนไม่คิดว่ามีอะไร น่าจะเป็นเพื่อน หรือหุ้นส่วนกัน นายอัศยาเป็นคนเงียบๆ พูดน้อย ดูเป็นคนธรรมดา เพราะใจเราไม่คิดว่าเขาคือคนร้าย หรือเขาจะก่อเหตุ และจะติดตามคุณเชอร์รี่มาดูงานบางครั้งเท่านั้น
นางนีรนุช ยังบอกอีกว่าจริงๆ แล้วตนก็รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคนร้ายทำไว้รุนแรงมาก ทั้งที่คุณเชอร์รี่ตัวเล็กนิดเดียว แค่ผลักก็ล้มแล้ว ทำไมถึงทำกันขนาดนี้ ในใจตนพยามบอกกับคุณเชอร์รี่ว่า "บ้านพี่ก็ยังไม่เสร็จเลย ยังไม่ทันได้ขึ้นบ้าน แต่เชอรี่มาเจอเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว มันก็นึกสภาพไม่ออก ว่ามันทำกันขนาดนี้ได้อย่างไร แค่ผู้หญิงตัวนิดเดียว จะตบตีกันก็ได้ ไม่น่าจะเอาไม้เบสบอลฟาดกัน เพื่อหวังชีวิตขนาดนี้"
นางนีรนุช ยังบอกอีกว่า ตนอยากจะบอกกับคุณเชอร์รี่ว่าขอให้ไปสบาย ไม่ต้องห่วง เพราะยังมีครอบครัวรับช่วงต่อ และก็จะขอเป็นกำลังใจ จะร่วมผลักดันให้โครงการนี้สำเร็จ ตนอยากฝากบอกคนที่ทำร้ายคุณเชอร์รี่ว่าขอให้มามอบตัว เพราะไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากกว่านี้แล้ว ต่อให้คุณหนีไปที่ไหน ความผิดมันก็ติดตัวคุณไปตลอด
ด้าน
คนสนิทกับน.ส.ธิติมา ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายสนิทสนมกับนายอัศยา หรือคนร้ายพอสมควร โดยมอบตำแหน่งฝ่ายการเงินให้คนร้ายรับผิดชอบ ก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะกันมาเรื่อยๆ เนื่องจากมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน คนร้ายมักจะข่มขู่ผู้ตาย เพื่อขอเงินเมื่อผู้ตายไม่ให้ ก็จะถูกทำร้ายร่างกายทุกครั้ง โดยคนร้ายติดการพนันฟุตบอลและการพนันฝั่งเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ตั้งแต่ผู้ตายเรียนจบปริญญาโท ก็ไม่เคยมีแฟน เพราะผู้ตายเน้นประกอบธุรกิจมากกว่า แต่พอมาเจอคนร้าย จึงหลวมตัวเชื่ออย่างสนิทใจ