วันนี้ (15 พ.ค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงการคลายล็อกมาตรการควบคุมโควิด- 19 เพื่อผ่อนคลายผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม และให้มีความสอบคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดย "ปรับสี" จัดกลุ่มโซนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดถึงพื้นที่ควบคุม จาก 5 ปัจจัย อาทิจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง กลุ่มเสี่ยง ติดชายแดน การได้รับวัคซีน เป็นต้น โดยพื้นที่ใหม่เป็นดังนี้
โควิดวันนี้ (15 พ.ค.) ป่วยเพิ่ม 3,095 ราย ตายเพิ่ม 17 คน โคม่า 415 ราย
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สีแดงเข้ม จาก 6 จังหวัด เหลือ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ
ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 20 คน การบริโภคในร้านอาหาร นั่งในร้านได้ ไม่เกิน 25 % โต๊ะ 4 คน นั่งได้ 1 คน เปิดได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. สั่งกลับบ้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. ยังงดการจำหน่ายและดื่มสุราภายในร้าน ร้านค้าสะดวกซื้อ เปิดบริการ 04.00-23.00 น. และยังงดใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน สนามกีฬากลางแจ้งเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. แข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชม ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ตามปกติ ไม่เกิน 3 ทุ่ม
พื้นที่ควบคุมสูงสุด สีแดง จาก 45 จังหวัดเหลือ 17 จังหวัด
ห้ามจัดกิจกรรม รวมคนมากกว่า 50 คน บริโภคในร้านได้ ไม่เกิน 23.00 น. งดการจำหน่ายและดื่มสุราภายในร้าน สามารถใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนได้โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สนามที่เล่นกีฬาเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชมและผู้เล่น
พื้นที่ควบคุม สีส้ม จาก 26 จังหวัดเป็น 56 จังหวัด
ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน บริโภคในร้านได้ตามปกติ งดการจำหน่ายและดื่มสุราภายในร้าน สามารถใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ตามมาตรการที่กำหนด สนามที่เล่นกีฬาเปิดได้ปกติ แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชมและผู้เล่น
ในส่วนของการบังคับใช้นั้น ต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เห็นชอบ มีผลบังคับใช้เร็วที่สุด 00.00 น. คืนนี้ (15 พ.ค.) หากไม่ทันจะบังคับใช้ในคืนวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.)
คลัสเตอร์แคมป์คนงานแจ้งวัฒนะ พบติดเชื้อแล้ว 196 ราย สั่งห้ามก่อสร้าง 7 วัน
ปูพรมตรวจโควิด เรือนจำคลองเปรม พบผู้ต้องขังติดเชื้อ 506 ราย จนท.อีก 2 ราย