สื่อก็ไม่เว้น! อิสราเอล ทิ้งระเบิดถล่มฮามาส ตึกสำนักข่าวดังพังครืน
อิสราเอล ยิงจรวดถล่มอาคารสูง 12 ชั้น ในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นอาคารที่ตั้งสำนักข่าวเอพีของสหรัฐและสื่ออีกหลายสำนักเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.64)
คอนเทนต์แนะนำ
รายงานข่าวระบุว่า ทางการอิสราเอลประกาศเตือนว่าจะยิงจรวดโจมตีอาคารที่ตั้งของกลุ่มฮามาสในเมืองกาซาซิตี้ ส่งผลให้เจ้าของอาคาร ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักข่าวเอพี และอัลจาซีร่า รวมทั้งอาคารอื่นๆ พากันอพยพออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตาม มีนักข่าวชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ 1 คน ขณะที่เศษซากอาคารพังถล่มกระจายทั่วพื้นที่
อิสราเอล ยกระดับโจมตี ฉนวนกาซา ชาวปาเลสไตน์ดับทะลุ 100 ราย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักข่าวเอพี แสดงความไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อเหตุโจมตีครั้งนี้ และเผยว่า มีนักข่าวของสำนักข่าวเอพี และนักข่าวอิสระหลายคน อยู่ภายในอาคาร แต่อพยพออกมาได้ทันเวลา
แถลงการณ์จากผู้บริหารสำนักข่าวเอพี เผยว่า สำนักข่าวเอพีรู้สึกหวั่นใจที่กองทัพอิสราเอลพุ่งเป้าโจมตีไปที่อาคารที่ตั้งสำนักข่าวเอพี และสำนักข่างอื่นๆ ในแนวนกาซา ซึ่งจะส่งผลต่อการรายงานข่าวได้น้อยลงหลังจากนี้ เนื่องจากทรัพยากรในการรายงานข่าวต่างๆ ได้รับความเสียหาย
ขณะที่สำนักข่าว อัลจาซีรา เผยแพร่แถลงการณ์ประณามเหตุโจมตีครั้งนี้ โดยการใช้คำว่า "การสังหารผู้ส่งสาร" และเรียกร้องให้ประชาคมโลก ร่วมประนามเหตุรุนแรงครั้งนี้ และพุ่งเป้าทำร้ายนักข่าว จึงเรียกร้องให้ประชาคมโลกกดันให้อิสราเอลออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการเจตนาโจมตีนักข่าวและสำนักข่าวที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพอิสราเอล ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าทางการอิสราเอลต้องการปิดปากสื่อ ไม่ให้รายงานเหตุการณ์ในฉนวนกาซา โดยย้ำว่า สื่อไม่ใช่เป้าโจมตี แต่อาคารที่ถูกโจมตี ยังเป็นที่ตั้งของสำนักข่าวกรองของกองทัพฮามาสด้วย โดยอธิบายว่า ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะต้องกลุ่มฮามาสต้องการให้นำสักข่าวต่างๆ เป็นกันชนจากการโจมตี
ในช่วงที่ผ่านมา กองกำลังฮามาส ยิงจรวดโจมตีอิสราเอลแล้วกว่า 2000 ลูก ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของปาเลสไตน์ เผยว่า มีชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 139 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก 39 ราย ขณะที่ทางการอิสราเอลรายงานว่าฝั่งของตัวเองก็มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 ราย ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 ราย
ส่อบานปลาย! อิสราเอล - ฮามาส ปะทะเดือด ดับแล้ว 40 คน ยูเอ็นหวั่นเป็นสงครามเต็มรูปแบบ
น่าอิจฉา! อิสราเอล สร้างภูมิคุ้มกันหมู่สำเร็จ ใช้ชีวิตปกติ ไม่ต้องสวมหน้ากากกลางแจ้งแล้ว
ภาพจาก AFP
Advertisement
