กมลา แฮร์ริส ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต ลงพื้นที่หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายที่เมืองอีสต์แลนซิง รัฐมิชิแกนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 พฤศจิกายน) โดยในบรรดาผู้สนับสนุนที่มาฟัง มีชาวอาหรับอเมริกันจำนวนมาก และแฮร์ริสเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงเหยื่อสงครามในตะวันออกกลาง และเธอย้ำว่า ถ้าเธอชนะเลือกตั้ง เธอจะใช้อำนาจที่มีทั้งหมดยุติสงครามในกาซา
แฮร์ริสระบุว่า ปีนี้เป็นปีที่ยากมาก ทำให้เกิดความเสียหายทั้งผู้เสียชีวิตและสิ่งปลูกสร้างต่างๆในกาซา และผู้เสียชีวิตรวมถึงไร้ที่อยู่อาศัยในเลบานอน และในฐานะประธานาธิบดี เธอจะทำทุกสิ่งที่ทำได้ในอำนาจของตนเอง เพื่อยุติสงครามในกาซา เพื่อนำตัวประกันกลับบ้าน ยุติความทุกข์ทรมานในกาซา รับรองว่าอิสราเอลจะมั่นคง รับรองว่าชาวปาเลสไตน์จะสามารถยืนหยัดสิทธิของพวกเขาในศักดิ์ศรี เสรีภาพ ความมั่นคงและการกำหนดอนาคตด้วยตนเอง
ก่อนหน้านี้ แฮร์ริสถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบางส่วนที่มองว่า เธอ ในฐานะรองประธานาธิบดีสหรัฐฯยังทำงานไม่มากพอเพื่อช่วยยุติสงครามในกาซา และตัดลดความช่วยเหลือให้อิสราเอล ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งของเธอ ได้ลงพื้นที่ชุมชนชาวอาหรับอเมริกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เขาประกาศว่าจะยุติความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แต่ก็ไม่ได้ระบุถึงวิธีการว่าจะทำอย่างไร
ทั้งนี้ โพลหลายสำนักชี้ว่า ผลคะแนนของทั้งสองคนสูสีกันอย่างมาก โดยรองประธานาธิบดีแฮร์ริส อายุ 60 ปี ได้รับคะแนนสนับสนุนที่มากขึ้นจากกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นผู้หญิง ขณะที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 78 ปี เริ่มได้คะแนนความนิยมจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเชื้อสาย Hispanic หรือคนที่ใช้ภาษาสเปน-โปรตุเกส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มผู้ชาย
ที่มา Reuters