เวียดนามนิวส์ รายงานว่า องค์การบริหารรถไฟนครโฮจิมินห์ (MAUR) ได้เปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายที่ 1 เส้นทางเบนถั่ญ-เซื่อยเตียน (Ben Thanh-Suoi Tien) เป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้บรรยากาศที่สถานีเบนถั่ญมีความคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีชาวเวียดนามหลายร้อยคนมาต่อแถวขึ้นรถไฟฟ้ากันอย่างเนืองแน่น พร้อมกับถ่ายภาพเซลฟีเก็บบรรยากาศแห่งประวัติศาสตร์
รถไฟฟ้าสายใหม่แห่งนี้ จะให้เปิดให้บริการแก่ชาวเวียดนามและนักท่องเที่ยวโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายไปจนถึงกลางเดือนมกราคมปีหน้า หลังจากนั้น ตั๋วจะมีราคา 7,000 - 20,000 ดอง หรือประมาณ 9.41 - 40.30 บาท ตามระยะทาง สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการเดินทางฟรี ส่วนนักเรียนและนักท่องเที่ยวที่ใช้แอปพลิเคชันชำระเงินจะได้รับส่วนลด
รถไฟฟ้าจะให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 05.00-22.00 น. มีต้นทางที่ตลาดเบนถั่ญ เป็นจุดที่มีความพลุกพล่านใจกลางนครโฮจิมินห์ ทอดยาวไปถึงสถานีปลายทางนอกเมือง ที่สวนสนุกเซื่อยเตียน โดยมีจุดจอดทั้งหมด 14 สถานี ส่วนใหญ่จะมีสถานีอยู่บนถนน ในจำนวนนี้มีสถานีใต้ดินทั้งหมด 3 สถานี รัฐบาลเวียดนามหวังว่าระบบรถไฟฟ้านจะช่วยลดปริมาณการจราจรในเมือง ซึ่งมีประชากรอยู่มากถึง 9 ล้านคน พร้อมประกาศเตรียมจะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าอีก 8 สาย แต่ยังไม่ได้ประกาศวันเปิดให้บริการในสายอื่น ๆ อย่างเป็นทางการ
หัวหน้าองค์การบริหารรถไฟนครโฮจิมินห์ เปิดเผยว่า แผนโครงการสร้างรถไฟฟ้าในนครโฮจิมิห์ได้รับการอนุมัติตั้งแต่ 17 ปีที่แล้ว และเริ่มแผนการก่อสร้างตั้งแต่ 12 ปีที่แล้ว ด้วยปัญหาและอุปสรรคหลายประการ การเปิดให้บริการจึงล่าช้ากว่ากำหนดไปหลายปี อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวเส้นทางรถไฟฟ้าในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะภายในโฮจิมินห์ ซิตี้
อย่างไรก็ตาม เหตุผลสำคัญที่ทำให้การสร้างรถไฟฟ้าใช้เวลานานหลายปี คือการขาดแคลนงบประมาณในการก่อสร้าง โดยย้อนกลับไป ในปี 2007 โครงการรถไฟฟ้าแห่งนี้ได้รับการอนุมัติครั้งแรกด้วยการลงทุนรวมกว่า 17,000 ล้านดอง หรือเพียง 23 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปี 2011 ได้มีการปรับยอดเพิ่มอีก 30,000 ล้านดอง กลายเป็นงบประมาณรวม 47,000 ล้านดอง หรือกว่า 63 ล้านบาท เป็นผลจากแผนการขยายเส้นทางไปยังสถานีขนส่งสายตะวันออกแห่งใหม่ และการปรับปรุงราคาค่าก่อสร้างและค่าเคลียร์พื้นที่
นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น ๆ อีกรอบด้าน ขั้นตอนการขอเวนคืนพื้นที่เส้นทางรถไฟเกิดความล่าช้าในช่วงปี 2012 - 2015 โดยกลุ่มนักลงทุนบางส่วนไม่ได้ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดภายในเวลาที่กำหน นั่นก็คือบริษัท วินห์พัท เทรดดิง แอนด์ เซอร์วิส ซึ่งมีที่ดินเกือบ 20,000 ตร.ม. ในเขตบิ่ญทัง เป็นเหตุให้นครโฮจิมินห์ต้องเผชิญกับค่าปรับมากกว่า 2,500 ล้านดองต่อวัน หรือวันละ 3.3 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าชดเชยให้ผู้รับเหมา ต่อมาคณะกรรมการบริหารรถไฟชานเมืองต้องเจรจากับผู้รับเหมาก่อสร้าง Sumitomo – Cienco 6 เพื่อลดค่าปรับ
ความล่าช้าจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงการปรับเปลี่ยนแผนอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้การก่อสร้างเข้ากับหน้างาน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดความล่าช้า เช่น ในปี 2018 โครงการดังกล่าวต้องหยุดชะงักเนื่องจากมีปัญหาในการเคลียร์พื้นที่และต้องปรับเปลี่ยนการออกแบบทางเทคนิคของสถานีรถไฟใต้ดินเบนถั่ญ พื่อบูรณาการกับเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินสายอื่น ๆ จนต้องขยายเวลาการก่อสร้างสถานีไปจนถึงปี 2020
ในช่วงเวลานี้เอง โครงการยังคงติดขัดในการอนุมัติการปรับมูลค่าการลงทุนทั้งหมดและการขาดเงินทุนส่วนกลาง ส่งผลให้รถไฟฟ้าสาย 1 ตกอยู่ในภาวะขาดแคลนเงินทุนอย่างรุนแรง คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ต้องเบิกงบประมาณล่วงหน้า 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 4,000 ล้านดอง หรือ 5.3 ล้านบาท เพื่อคงความคืบหน้าในการก่อสร้าง
ใน 4 ปีสุดท้ายก่อนรถไฟจะเปิดให้บริการ ก็เกิดการประกาศเลื่อนให้บริการมากถึง 4 ครั้ง สาเหตุมาจากหลากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น การระบาดของ Covid-19 ปัญหาด้านสัญญาและขั้นตอนการอนุญาต จนกระทั่งได้รับการขยายเวลาการก่อสร้างขั้นสุดท้าย จนสามารถเปิดให้บริการในวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมานี้