หากใครที่เป็นสายคาเฟ่ สายอาร์ต น่าจะต้องรู้จัก ‘ถนนทรงวาด’ เป็นอย่างดี เพราะตอนนี้ถนนเส้นนี้กลายเป็นถนนสุดฮิปของกลุ่มวัยรุ่น GEN Z
แต่รู้หรือไม่ หากย้อนกลับไปเมื่อราว 100 ปี ก่อน สมัยที่คนจีนโพ้นทะเลโล้สำเภามายังประเทศไทย ‘ถนนทรงวาด’ คือย่าน CBD ที่เป็นแหล่งรวมค้าขายพืชผลทางการเกษตร และนั่นทำให้ ‘ถนนทรงวาด’ กลายเป็นถนนจุดกำเนิดของเหล่าบรรดาเจ้าสัวของไทย ไม่ว่าจะเป็น เจ้าสัวซีพี, เจ้าสัวไทยเบฟ, เจ้าสัวเครือสหพัฒน์ หรือแม้แต่ ธนาคารกรุงเทพสาขาแรก ล้วนแล้วแต่มีจุดกำเนิดอยู่ที่นี่ ถนนทรงวาด
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปจากถนน ที่เป็นแหล่งค้าขายพืชผลทางการเกษตร ก็ได้ถูกเปลี่ยนมือ เปลี่ยนเจ้าของ แต่เสน่ห์ของถนนทรงวาดกลับไม่ได้จางหายตามกาลเวลา เพราะกลายเป็นย่านที่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยพลังของกลุ่ม Made in SongWat
บทความนี้ SPOTLIGHT จึงอยากชวนทุกคนมารู้จักกับถนน ‘ทรงวาด‘ ถนนจุดกำเนิดเจ้าสัวไทยอดีต CBD เก่าเมืองกรุง สู่ถนนสุดฮิตของวัยรุ่น GEN Z โดยได้มีการพูดคุยสุด exclusive กับ คุณอุ๊ย-เกียรติวัฒน์ ศรีจันทร์วันเพ็ญ ประธานกลุ่ม Made in Song Wat บุคคลที่ชุบชีวิต เติมสีสันให้ถนนทรงวาดกลายมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง
หากจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของถนนทรงวาด เรื่องนี้ต้องเล่าย้อนไปกลับเมื่อช่วง 119 ปีก่อน ในสมัยที่เยาราช และสำเพ็ง มีความรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด ไม่ว่าจะเป็นย่านค้าขาย หนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในพระนคร และเป็นย่านที่อยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้มีเรือสินค้าเข้ามาจอดเทียบท่า ค้าขายกับชาวต่างชาติ
และด้วยความเจริญเข้ามา ส่งผลให้ 2 ย่านนี้มีชุมชนอยู่เป็นจำนวนมากจนเกิดความแออัด และเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย หรือไฟไหม้ บ้านที่เป็นเรือนไม้ที่ปลูกติดกันเป็นแถวยาว ก็เกิดไฟไหม้ลุกลาม ทำให้ในหลวงรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มองหาพื้นที่แห่งใหม่ในการขยับขยายพื้นที่การค้าและชุมชน ‘จึงได้เอาปากกาทรงวาด’ เส้นของแนวถนนสายใหม่บนแผนที่ให้เลียบไปตามริมน้ำ ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ในปี พ.ศ.2449 และทรงนามถนนเส้นนี้ว่า “ถนนทรงวาด”
และด้วยความที่ถนนเส้นนี้อยู่ใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในอนาคตหากเกิดเหตุอัคคีภัย ก็จะทำให้ขนน้ำมาดับไฟได้ง่ายขึ้น
ส่วนการออกแบบของตึก ในหลวงรัชกาลที่ 5 ท่านได้ส่งคนไปดูงานที่ภูเก็ต สิงคโปร์ และปีนัง ทำให้แบบบ้านและแบบตึกจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโน –โปรตุกีส อย่างเช่น ตึกผลไม้ (ชั้น 2 ตึกจะมีการแกะสลักพืชผลทางการเกษตร), กระจกสี Stained Glass (มองด้านนอกจะเห็นเป็นสีดำ แต่พอมองด้านในจะเห็นกระจกเป็นสีสัน) ซึ่งนี่กลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของถนนทรงวาดที่หากคุณมาท่องเที่ยวนี้ต้องห้ามพลาด
รู้หรือไม่ ถนนทรงวาด ถือได้ว่าเป็นจุดที่ปลุกปั้นเหล่าบรรดาเจ้าสัวไทย – เชื้อสายจีน ไม่ว่าจะเป็น
โดยได้เริ่มจากร้านค้า ขายเมล็ดพันธุ์ ในชื่อ กิจการเจียไต๋ เมื่อ พ.ศ. 2464 โดยคุณธนินท์ เจียรวนนท์ ได้เล่าเรื่องอดีตไว้ตอนหนึ่งในหนังสือ “ความสำเร็จดีใจได้วันเดียว” ว่า ตัวเขากำเนิดขึ้นบนชั้น 3 ของอาคารเก่าย่านถนนทรงวาด
ก็ได้ใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่ในย่านทรงวาดเช่นกันโดยครอบครัวของคุณเจริญก็เคยทำธุรกิจอยู่ในย่านถนนทรงวาด
เริ่มธุรกิจจากร้านขายของเบ็ดเตล็ต ชื่อ “เฮียบเซ่งเชียง” บนถนนทรงวาด ด้วยเงินทุนเพียง 10,000 บาท มาจนถึงวันนี้ที่เครือสหพัฒน์ ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 แห่งวงการสินค้าอุปโภคและบริโภคในประเทศไทย ขยายอาณาจักรในเครือมากกว่า 200 บริษัท มีทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งหากนับแต่บริษัทที่นามสกุลมหาชน พบว่า มีมูลค่ารวมกว่า 200,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
และความน่าสนใจคือ 3 เจ้าสัวยักษ์ไทยของไทย ล้วนแล้วแต่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน นั้นก็คือโรงเรียนเผยอิง โรงเรียนที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานชาวจีนได้เรียนภาษา และขนบธรรมไทยของไทยและจีน นอกจากนี้ ถนนทรงวาด ยังเป็นจุดกำเนิดของ เสื้อยืดตรา ห่านคู่ และธนาคารกรุงเทพสาขาแรกอีกด้วย
และด้วยความที่ถนนทรงวาด กลายเป็นพื้นที่ให้แก่คนทุกกลุ่มทุกเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นไทย – จีน – ตะวันตก ถนนเส้นนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นย่านของพหุวัฒนธรรม และมีความหลากหลายทั้งศาลเจ้าจีน, มัสยิดแขก และวัดไทย
คุณอุ๊ย ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า ธุรกิจบนถนนทรงวาด ถูกเปลี่ยนผ่านมาหลายยุคหลายสมัย เช่นเดียวกันกับธุรกิจใหม่ๆที่เข้ามามีบทบาทสําคัญบนถนนเส้นนี้
สินค้าอุปโภคบริโภค ที่เป็นพืชผลทางการเกษตรในยุคนั้น เนื่องจากสมัยก่อนถนนทรงวาด เป็นศูนย์กลางการค้าขายสินค้า
คุณอุ๊ย ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า ในช่วงนั้นถนนทรงวาดรถติดมาก เพราะมีรถบรรทุกที่ขนเมล็ดพืชผลทางการเกษตร จอดอยู่ 2 ข้าง นั้นจึงเป็นที่มาว่าทำไมกรุงเทพฯ นั้นช่วงนั้นรถติดมาก ทำให้รัฐบาลในช่วงนั้น ได้มีการออกฎหมาย ‘ห้ามรถใหญ่เข้ากรุงเทพฯ ชั้นใน’
จากข้อกฎหมายนั้นปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทำให้ธุรกิจของถนนทรงวาดได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกผัน ร้านค้าแทบนั้นต้องเกิดการตัดสินใจครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เลิกกิจการเมื่อรวยแล้ว หรือ ต้องเปลี่ยนกิจการไปเลย อย่างโกดังขนถ่ายสินค้า
ทำให้เมื่อ 30 ปีที่แล้วหลังการเปลี่ยนยุคธุรกิจ ทำให้ย่านทรงวาดเกิดการซบเซา แต่ความซบเซานี้ไม่ได้เกิดที่ย่านสำเพ็ง คุณอุ๊ย ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า สมัยนั้นค่าเช่าที่สำเพ็งแพงมาก ทำให้ผู้ประกอบการได้มองหาพื้นที่อื่นรอบๆสำเพ็งที่ราคาเช่าถูกกว่า สุดท้าย ‘ทรงวาด’ กลายเป็นพื้นที่ใหม่สำหรับผู้ประกอบการสินค้าเบ็ดเตล็ดของเล่นพลาสติก
จากการเปลี่ยนธุรกิจ และมือผู้ประกอบการบนถนนทรงวาด สุดท้ายถนนทรงวาด กลายเป็นย่านแห่งพลังที่เต็มไปด้วยสีสันของผู้ประกอบการหน้าใหม่สุดชิค ที่ได้เข้ามาทำธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Air BNB, คาเฟ่, art gallery นั้นก็คือกลุ่ม Made in SongWat
ย่านทรงวาดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนหากผู้ประกอบการไม่ปรับตัว ย่านที่เคยเจริญ ก็อาจไม่เจริญเท่าแต่ก่อน ผู้ประกอบการหน้าเก่า หากไม่ปรับตัวก็คงไม่พ้นต้องปิดกิจการ แต่ถนนทรงวาด กลับกลายเป็นพื้นที่ของทั้งคนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่ ได้ทำธุรกิจในแบบฉบับของตน และที่สำคัญคือเติบโตไปพร้อมกันแบบไม่มีใครจางหายไปไหน ซึ่งแนวความคิดนี้มาจาก กลุ่ม Made in SongWat ผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ได้ชุบชีวิตถนนทรงวาดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
คุณอุ๊ย ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า กลุ่ม Made in SongWat เริ่มต้นเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตนได้มาเปิด art gallery ในย่านทรงวาดในชื่อ Play Art House พอเปิดมาได้ไม่นานก็เป็นช่วงที่โควิดเริ่มคลี่คลาย แต่ชีวิตของคนแถวนี้กลับไม่ได้คลี่คลายตาม ทุกคนก็ยังเดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากโควิดกันอยู่
ทำให้คุณอุ๊ย ได้ตัดสินใจจัดตลาดนัดเล็กๆในชื่อว่า Play Around ใน art gallery ของตน โดยได้มีการเชิญผู้ประกอบการในย่านทรงวาดมาเปิดท้ายขายของกัน เช่นเดียวกันกับเชิญศิลปินหน้าใหม่มาอวดผลงานศิลปะภายในงาน
พอจบงานกลายมาเป็นว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั้งจากกลุ่มผู้บริโภคและผู้ประกอบการ จึงได้มีแนวคิดว่าทำไมเราไม่รวมกลุ่มกันแบบนี้อีก ? คุณอุ๊ย ยังได้เล่าต่อว่า คอนเซปต์แรกคือ Old Meets New เก่ากับใหม่มาเจอกัน โตไปด้วยกัน ผู้ประกอบการทุกคนในย่านทรงวาดทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่จะต้องเติบโตไปพร้อมกัน
จากวันแรกที่กลุ่ม Made in SongWat มีสมาชิกเพียงแค่ 10 ร้านค้า ก้าวสู่ปีที่ 2 ด้วย สมาชิก 30 ร้านค้า มาถึงตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 60 ร้านค้า
ถนนทรงวาด กลายมาเป็นที่พูดถึงในช่วงปีที่ผ่านมา ด้วยพลังของสื่อโซเชียลมีเดีย อย่าง TikTok เหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ต่างเข้ามารีวิว ทำคอนเทนต์บนถนนเส้นนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากตึกบนถนนเส้นนี้มีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมเก่าที่สายถ่ายรูปชอบ ร้านอาหารสุดอร่อย แหล่งรวมคาเฟ่สุดชิค
คุณตี๋ พนักงานร้านกาแฟ Song Wat Coffee roasters ได้เปิดใจกับทีม SPOTLIGHT ว่า ร้านโรงคั่วกาแฟทรงวาด ได้เปิดกิจการเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาตอนที่ถนนทรงวาดได้รับความนิยมมากขึ้น ร้านของตนก็ได้รับอานิสงค์ ขายดีเพิ่มขึ้นจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ผลัดกันมาเที่ยวในย่านนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวตนคาดว่ากระแสถนนทรงวาดจะบูมขึ้นอีก
อานิสงค์ของนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวที่ย่านทรงวาด ไม่ได้ส่งผลดีแค่กับร้านผู้ประกอบการหน้าใหม่ๆ แต่กลับส่งผลให้แก่ธุรกิจหน้าเก่า ที่ยังคงขายอยู่ เช่น ร้านห้างหุ้นส่วยชัยทวี ที่ขายพืชผลทางการเกษตรอย่างเมล็ดถั่ว โดยคุณสุวิทย์ ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า สำหรับธุรกิจเก่า แน่นอนว่าเราจะต้องปรับตัวท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง จากแต่ก่อนที่ขายของเป็นกิโลๆ ตอนนี้ก็ขายเป็นขีด หรือทำpacking ให้น่ารัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาสามารถซื้อกลับกลายมาเป็นของฝากได้
และด้วยความฮิตของถนนทรงวาด และความเจริญที่เข้ามา ส่งผลให้ตอนนี้ ราคาค่าเช่าย่านทรงวาด ดีดตัวขึ้นมากว่า 3 เท่า จากแต่ก่อน 1 คูหา สามารถหาเช่าได้ในราคา หมื่นกว่าบาท มาสู่ปัจจุบันที่ราคาค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 40,000 บาท
คุณอุ๊ย ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า กลุ่ม Made in SongWat ได้มีการคุยกันถึงแผนในอนาคตของถนนทรงวาด โดยได้อธิบายและได้เปรียบเทียบว่า ตนเปรียบถนนเส้นนี้เหมือนการเลี้ยงลูก ถ้าอยากเลี้ยงดูให้เขาเติบโตขึ้น เด็กคนนี้จะเติบโตมาเป็นอะไร ?
โดยกลุ่ม Made in SongWat มีความฝันอยากพัฒนาย่านนี้ให้กลายเป็นหนึ่งใน Tourist Destination ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย นี่คือสถานที่ ที่คุณควรมาเพื่อเข้ามาอัพเดทเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ แหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นี่คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมายังประเทศไทย
จากเรื่องราวของถนนทรงวาด นี่คือตัวอย่างของ ในตัวอย่างในการพัฒนาย่านให้กลับมามีชีวิตเเละคึกคักอีกครั้ง กลายเป็นพื้นที่ที่คนท้องถิ่นได้บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตให้แก่ผู้ที่มาเยือน เเต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ที่ได้เข้ามาเติมสีสัน ผสมผสานอยู่ด้วยกันลงตัว เหมือน Old Meets New จากพลังของคนรุ่นใหม่ กลุ่ม Made in ทรงวาด