ภูฏาน ประเทศในเขตหิมาลัยที่แทรกกลางอยู่ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจอย่างอินเดียและจีน ทำรายได้หลายล้านดอลลาร์จากการลงทุนด้านคริปโทเคอร์เรนซีในช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้ กลายเป็นประเทศเล็กๆ ที่เป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และยังเป็นประเทศที่ครอบครองบิตคอยน์ (สกุลเงินคริปโทแรก) มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก
“เราเป็นชาติที่ใช้พลังงานน้ำ 100% ทุกเหรียญดิจิทัลที่ขุดในภูฏานใช้พลังงานน้ำทั้งหมด ทดแทนการฝังเหรียญที่ใช้พลังงานฟอสซิล” อุจชวล ดีป ดาฮาล CEO ของ Druk Holdings and Investments: DHI กล่าว DHI เป็นบริษัทที่ดำเนินการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีรายหลักในภูฏาน
ภูฏานใช้น้ำในแม่น้ำที่มีเกินพอ จากน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยที่ละลายตลอดเวลา มาผลิตพลังงานไฟฟ้าคิดเป็น 99% ของไฟฟ้าที่ผลิตได้ในภูฏาน และน้ำนับเป็นหนึ่งในทรัพยากรสำคัญที่สุดของประเทศ โดยพลังงานน้ำมีสัดส่วนกว่า 20% ของระบบเศรษฐกิจประเทศ และยังเป็นประเทศที่มีพลังงานน้ำเก็บสะสมมากที่สุดในโลก
ภูฏานเริ่มขุดคริปโทในปี 2018 ด้วยมุมมองที่ว่า การลงทุนกับคริปโทมีมูลค่าคล้ายทองและอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมการขุดคริปโทในภูฏานนั้นนำโดย Druk Holdings and Investments ภาคส่วนการลงทุนของรัฐบาลภูฏาน
ภายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภูฏานลงทุนเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐกับบิตคอยน์ เป็นการลงทุนกับบิตคอยน์อย่างที่ไม่เคยมีประเทศไหนทำมาก่อน
แม้จะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการขุดคริปโทส่วนใหญ่ที่ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่พลังงานน้ำในภูฏานนั้นขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย เพราะพลังงานน้ำใช้ประโยชน์จากการละลายของหิมะและน้ำแข็ง จึงผลิตได้เยอะกว่าในฤดูร้อน และน้อยกว่าในฤดูหนาว
“หากว่ากันตามทฤษฎี คุณอาจผลิตบิตคอยน์ช่วงฤดูร้อน เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านพลังงานในฤดูหนาว” ดาฮาลกล่าว
ความสำเร็จในโลกคริปโทของภูฏานสะท้อนความทะเยอทะยานในการเอาชนะอุปสรรคทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่เหลือเฟือให้เป็นประโยชน์
“สถานการณ์ในภูฏานแย่มาก ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะมีทางไหนดีไปกว่าการขุดคริปโท” อดิทยา โควดารา ศิวมูรติ นักวิจัยสมทบประจำมูลนิธิวิจัยเพื่อการสังเกตการณ์ (Observer Research Foundation) กล่าว
“นี่เป็นการลงทุนที่แยบยลมากสำหรับเรา” อุจชวล ดีป ดาฮาล CEO ของ DHI กล่าว “เราอยากแน่ใจว่ากระจายความเสี่ยงการลงทุนของเราให้มากกว่าตลาดดั้งเดิม และอุตสาหกรรมดั้งเดิม”
การขุดคริปโทเข้ามาในภูฏานช่วงที่ประเทศกำลังผจญพิษเศรษฐกิจหนัก ช่วงปี 2019 ภูฏานสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยว แหล่งรายได้อันดับสองของประเทศ ไปมากจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมกับอัตราการว่างงานของคนรุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่การย้ายถิ่นฐานไปทำงานต่า
ประเทศ ขณะนั้นภูฏานที่มีประชากรเพียง 750,000 คน มีประชากรถึง 10% อพยพออกนอกประเทศ ประเทศจึงมองหาแนวทางใหม่ที่จะมาช่วยเศรษฐกิจประเทศ
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวภูฏานยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่เคยเป็นก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีนักท่องเที่ยวต่อปีเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ประเทศรองรับได้ คือเพียง 150,000 คนจาก 300,000 คน นอกจากนี้ปี 2024 อัตราการว่างงานในภูฏานยังสูงขึ้นถึง 19% จาก 13.6% ในปี 2023
ที่ผ่านมาคริปโทเคอร์เรนซีที่ภูฏานผลิตสามารถช่วยเศรษฐกิจขึ้นมาได้ ก่อนหน้าข้าราชการภูฏานลาออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2019 จากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกืจ กระทั่งปี 2023 ที่รัฐบาลขายสกุลเงินคริปโทมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และใช้เงินส่วนนี้จ่ายเงินเดือนข้าราชการของรัฐมากขึ้นถึงสองเท่า ทำให้การลาออกลดลงหลายเท่าตัว
“บิตคอยน์ไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าให้พลังงานไฟฟ้า แต่ยังเพิ่มการเข้าถึงสภาพคล่องของสกุลเงินต่างประเทศอีกด้วย” ดาฮาลกล่าว ขณะนี้ภูฏานครอบครองคริปโทในสกุลเงินบิตคอยน์หลายชนิด อาทิ Bitcoin, LinqAI, EThereum และอื่นๆ เป็นมูลค่ามากถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 30% ของ GDP ประเทศ
การขุดคริปโทเคอร์ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีกำลังในการคำนวณสูง และใช้พลังงานไฟฟ้าในกระบวนการขุดสูงมาก ตัวอย่างสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่เป็นที่นิยมมากที่สุดอย่างบิตคอยน์ (Bitcoib) ที่ในปี 2020-2021 การขุดบิตคอยน์ใช้พลังงานไปกว่า 173.42 เทราวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งหมายความว่าหากบิตคอยน์เป็นประเทศ จะเป็นประเทศที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 27 ของโลก
นอกจากนี้บิตคอยน์ยังใช้ปริมาณน้ำในกระบวนการมากจนสามารถเติมสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกได้เต็มถึง 660,000 สระ หรือเพียงพอสำหรับความต้องการการใช้น้ำให้คนนพื้นที่แอฟริกาใต้สะฮาราถึง 300 ล้านคน
นักวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติรายงานว่า การขุดบิตคอยน์นั้นพึ่งพิงพลังงานฟอสซิลเป็นส่วนมาก โดยใช้พลังงานจากถ่านหินอยู่ที่ 45% ตามมาด้วยก๊าซธรรมชาติ 21% พลังงานน้ำ (Hydropower) พลังงานหมุนเวียนที่สำคัญที่สุดในกระบวนการขุดบิตคอยน์มีสัดส่วน 16% พลังงานนิวเคลียร์ 9% พลังงานลม 5% และพลังงานแสงอาทิตย์ 2%