บุกบ้านเศรษฐีหมื่นล้านตุ๋นแม่ค้าโกงแม้กระทั่งญาติ สาวสูญ 39 ล้านรับหมดตัวเพราะโลภ (คลิป)

19 พ.ค. 64

วันที่ 18 พ.ค. 64 แม่ค้าขายของชำวัย 48 ปี ชาวต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หอบหลักฐานกว่า 200 ชุด พร้อมภาพถ่าย คลิปเสียง สลิปโอนเงิน แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด หลังถูกคนรู้จักหลอกให้โอนเงินหลายครั้ง ระหว่างปี 2558-2560 สูญเงินรวมกว่า 39 ล้านบาท อ้างนำไปวิ่งเต้นถอนอายัดเงิน 10,000 ล้านบาทจากธนาคารแห่งชาติ แลกกับค่าตอบแทน 5,000 ล้านบาท สุดท้ายรู้ตัวว่าถูกหลอก เนื่องจากมีหมายจับของตำรวจหลายท้องที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก วงเงินไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

433406

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สาวเสียรู้แก๊งตุ๋นโอน 39 ล้านปลดล็อกแลกห้าพันล้าน ทนายชี้มีสิทธิสูญเกลี้ยง

 

501201

วันที่ 19 พ.ค. 64 นางอาภา ผู้เสียหาย เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด ตลอดทั้งวัน พร้อมเล่าว่า ตนรู้จักกับสองสามีภรรยา ชาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผ่านการพูดคุยธุรกิจการขายที่ดินช่วงต้นปี 2558 จากนั้นสองสามีภรรยาก็ได้โทรมาบอกกับตนว่าสองสามีภรรยาชาว จ.มหาสารคาม ต้องการเงินด่วนจำนวน 180,000 บาท เพื่อนำไปวิ่งเต้นถอนอายัดเงินจำนวนมาก ประมาณ 10,000 ล้านบาท จากธนาคารแห่งชาติ ยื่นข้อเสนอให้ตนว่าจะให้ค่าตอบแทนกับตนจำนวน 2,500 ล้านบาท

278840

จากนั้นก็ได้ติดต่อขอยืมเงินตนเรื่อยมา อ้างจะเอาเงินไปวิ่งเต้นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. และธนาคารแห่งชาตินำเงินออกมาให้ได้ พร้อมยืมข้อเสนอจะเพิ่มค่าตอบแทนให้จากเดิม 2,500 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท ซึ่งตนจึงหลงเชื่อ และโอนเงินไปให้หลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายปลายปี 2560 ขณะนี้ ตนเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากตนได้นำโฉนดที่ดินทั้งของตนเองและของญาติพี่น้อง ไปจำนองและกู้เงินธนาคาร พร้อมทั้งหยิบยืมเงินจากญาติ ๆ มากให้รวมจำนวนเงินกว่า 39,000,000 บาท ขณะนี้ตนสูญเสียที่ดินไปกว่า 100 ไร่ มูลค่าประมาณ 14 ล้าน และต้องหาเงินมาคืนญาติกว่า 8 ล้านบาท

ตนไม่เคยเอะใจว่าจำนวนเงินตอบแทนจำนวน 5,000 ล้านบาทนั้นมากเกินไป ตนผิดที่ไม่ฟังคำเตือนของครอบครัว "พี่คิดว่าจิตใจคนเราคงไม่คิดจะโกงใคร พี่เลยเชื่อ พี่ไม่เอะใจ เพราะว่าถ้าช่วย เขาก็จะตอบแทน เขามีวิธีพูดบ่ายเบี่ยงและเพิ่มค่าตอบแทนให้" ขณะนี้ตนรวบรวมผู้เสียหายได้ประมาณ 12 คน ความจริงมีผู้เสียหายมากกว่านี้ คาดว่ามูลค่าความเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนตนไม่โทษใคร เพราะทั้งหมดเกิดจากความโลภของตน

546229

ทีมข่าวได้เดินทางมายัง ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นที่อยู่ของสองสามีภรรยาผู้ก่อเหตุ อาศัยอยู่ภายในบ้านเช่า เป็นบ้านเดียวปูนชั้นเดียว ขนาดพื้นที่ 65 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ค่าเช่าเดือนละ 4,500 บาท

111896

นางสวรรค์ (นามสมมติ) พี่สาวของฝ่ายชาย บอกว่า ตนเองคือเหยื่อรายแรกของน้องสะใภ้ ซึ่งนามสกุลที่ใช้แล้วนำไปหลอกลวงคนอื่น แท้จริงคือนามสกุลของฝั่งต้นตระกูลของตน ที่เขาๆไปบอกกับชาวบ้านว่าเดินทางไปภาคใต้ แท้จริงแล้วไม่ใช่ เพราะน้องชายกับน้องสะใภ้มักจะเดินทางไปกบดานในภาคอีสาน เพื่อรอให้คดีเงียบหรือรอให้ผู้เสียหายเลิกตาม

แต่เดิมน้องชายตน และภรรยาเคยทำงานที่เดียวกันในกรุงเทพฯ ต่างฝ่ายต่างทำงานด้านการเงินจึงได้รู้จักกัน และอยู่กินกันมาตั้งแต่ปี 2517 จากนั้นในปี 2555 ฝ่ายหญิงก็ได้เริ่มหลวกลวงคนอื่น เริ่มจากตนเป็นรายแรก หลอกเหมือนกับที่กลอกเหยื่อรายปัจจุบัน ซึ่งอ้างว่าแฟนเก่ามีเงินมาก แต่เงินถูกอายัดจึงขอยืมเงินตน 150,000 บาท แล้วจะแบ่งเงินให้ตน 10-20 ล้านบาท ตนจึงนำที่ดินไปจำนอง จากนั้นก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา รู้ตัวอีกทีตนก็ได้นำของไปจำนองนำของไปขาย เสียเงินให้ประมาณ 500,000 บาท ซึ่งตนทวงเงินมาตลอดตั้งแต่ปี 2555-2563 แต่ไม่เคยได้เงินคืน จากนั้นก็มีผู้เสียหายผุดขึ้นมาอีกหลายคน บางคนได้รับเงินคืนบางส่วนเพื่อทำให้ตายใจ แล้วขอยืมเงินเพิ่มบางส่วนก็ไม่ได้คืน

ตนเคยเตือนแล้ว แต่น้องชายไม่ฟัง เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายเดินทางมาหาที่บ้านบ่อยครั้ง ทำให้ทั้งคู่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ซึ่งตนขอประกาศตรงนี้ว่า หากถูกจับเมื่อไร ตนจะเดินทางไปโรงพักทันที แต่ตนเชื่อว่าเขาไม่มีเงินจ่ายคืนผู้เสียหาย เพราะนำเงินไปเสพสุขหมดแล้ว "ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ ขอตัดขาดจากทั้งสองคน"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม