บังฟิตซวย! คนสนิทเปิดปากถูกใช้ฝังศพสุชาติ ลูกน้องอ้างถูกลวงซื้อน้ำกรดย่อยศพ (คลิป)

20 พ.ค. 64

จากกรณี สังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วน หรือ "เสี่ยสุชาติ" อายุ 53 ปี หนุ่มใหญ่ที่หายตัวปริศนาไปตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 64 ต่อมาลูกสาว และญาติประกาศตามหาตัวผ่านโซเชียล และเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ลำทับ จ.กระบี่

891208

สุดท้ายพบถูกฆ่าฝังดินในพื้นที่สวนยาง หมู่ 1 บ้านหนองแบก ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ ขณะที่รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ที่ขับมาในวันหายตัว ก็ถูกเผาแล้วฝังไว้ในสวนปาล์มน้ำมัน ใกล้กับบ้านของนายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร อายุ 31 ปี จนนำไปสู่การออกหมายจับ 4 รายแล้วนั้น

784057

ล่าสุด วันที่ 19 พ.ค. 64 นายสุมิตร รักโอ๋ กำนันตำบลหนองทะเล อ.อ่าวนาง จ.กระบี่ ได้เป็นตัวแทนพานายนครินทร์ พรหมราช หรือ บังพ่อ คนงานเลี้ยงวัวให้กับบังฟิต มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ เนื่องจากบังพ่อได้รับสารภาพว่าเป็น 1 ในคนที่ไปซื้อน้ำส้มยางพาราที่ตลาดมาให้บังฟิต แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุนั้น

122652

ซึ่งบังพ่อเป็นเด็กเลี้ยงวัวที่ตรงกับแชตปริศนาจากพลเมืองดี ที่ส่งข้อมูลว่ามีเด็กเลี้ยงวัวร่วมอยู่ในเหตุการณ์การเสียชีวิตของเสี่ยสุชาติด้วยนั้น

552594

นายสุมิตร รักโอ๋ กำนันตำบลหนองทะเล เปิดเผยว่า ช่วงเช้าของวันนี้มีลูกบ้านชื่อบังพ่อมาขอความช่วยเหลือกับตน ให้ตนพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยบังพ่อได้เล่าสาเหตุที่อยากมอบตัวให้ตนฟังว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 พ.ค. 64 บังพ่อได้เลี้ยงวัวให้กับบังฟิต อยู่ในสวนบริเวณบ้านบังฟิต จากนั้นบังหนี หรือนายทวน น้องชายของบังฟิต ได้ขับรถกระบะสีขาวมารับบังพ่อ เพื่อไปตลาดหนองทะเล และซื้อน้ำส้มยางพาราจากร้านค้า บังพ่อเป็นคนที่ลงจากรถกระบะไปซื้อน้ำส้มยางพารามาจำนวน 24 ขวด

922078

จากนั้น ก็ขนลังน้ำส้มใส่รถกระบะ จากนั้นก็ขึ้นรถกระบะและบังหนีได้ขับรถกระบะมาส่งบังพ่อที่คอกวัวบ้านบังฟิต บังพ่อก็อ้างกับตนว่า จากนั้นเขาได้ไปเลี้ยงวัวต่อ และไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ และไม่รู้ว่าบังหนีเอาน้ำส้มทั้งหมดไปไว้ที่ไหน ส่วนเมื่อวานนี้ตำรวจได้ไปตามตัวบังพ่อที่บ้าน แต่ไม่เจอตัว เนื่องจากบังพ่อไปตัดผมอยู่ด้านนอกหมู่บ้าน วันนี้บังพ่อจึงติดต่อตนมา เพราะเขารู้สึกกลัว และตนก็ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวนาง เพื่อให้มารับตัวบังพ่อไปสอบสวนต่อไป

cg-2

สำหรับบังพ่อ เป็นลูกจ้างเลี้ยงวัวของบังฟิต และกิบหลีมากว่า 10 ปี ตนไม่ทราบว่าบังพ่อจะรู้เหตุการณ์ไปมากกว่านี้หรือไม่ โดยญาติของบังฟิต กิบหลี และบังหนี ได้มาหาตนเมื่อวันที่ 7 พ.ค. บอกกับตนว่าบังฟิตได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางญาติ จนถึงกระทั่งวันนี้ ก็ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าบังฟิตและพี่น้องจะเข้ามามอบตัว ส่วนตัวแล้วตนอยากฝากถึงบังฟิตและพี่น้องเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อยากให้มาต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย หนีไปก็ไม่มีที่พึ่ง อยากให้บังฟิต กิบหลี และบังหนี คิดถึงพ่อแม่ และให้รีบมามอบตัว

สมัยตนเป็นวัยรุ่น ตนสนิทกับ 3 พี่น้องผู้ต้องหา ยอมรับว่าเท่าที่ตนสัมผัส ทั้ง 3 คนนี้เขาเป็นคนดี ไม่ก้าวร้าว แต่พูดจาเสียงดัง ตอนนี้ชาวบ้านละแวกบ้านบังฟิตก็ไม่สามารถออกไปทำหากินได้ เพราะอยู่ด้วยความผวาเนื่องจากยังจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งนี้ ตนก็ไม่รู้ข้อมูลว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะหลบหนีไปที่เขาลูกไฟหรือไม่ ตนก็พอรู้มาว่า 3 พี่น้องผู้ต้องหาเคยไปยิงนกที่เขาลูกไฟมาอยู่บ้าง คิดว่าเขารู้เส้นทางเป็นอย่างดี กรณีที่บังฟิต กิบหลี และบังหนียังหลบหนีได้เพราะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่นั้น ตนไม่ทราบข้อมูลว่าพวกเขารู้จักกับใครบ้าง

523203

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านของบังพ่อ นางปาน (นามสมมติ) ภรรยาของบังพ่อ อยู่ห่างจากบ้านของบังฟิตประมาณ 2 กิโลเมตร เล่าว่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาสามีอยู่ที่บ้าน แต่ไม่เจอตัวสามี เพราะสามีไปตัดผม กระทั่งช่วงเช้าของวันนี้ สามีได้บอกกับตนว่าต้องการจะมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และสามีก็เล่าให้ตนฟังว่า วันเกิดเหตุ 3 พ.ค. 64 สามีได้เลี้ยงวัวให้กับบังฟิต จากนั้นบังหนีได้ขับรถกระบะมาชวนสามีไปตลาดหนองทะเล และไปซื้อน้ำส้มหยอดยางพารามา 2 ลัง จำนวน 24 ขวด สามีก็ยืนยันกับตนว่าหลังจากซื้อน้ำส้มเสร็จ เขาได้เลี้ยงวัวต่อ และไม่รู้เห็นกับการก่อเหตุ

ทั้งนี้ ตนไม่เข้าข้างสามี และก็ยังไม่เชื่อว่าสามีจะร่วมก่อเหตุ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสามีให้ปากคำ ตนไม่สามารถตอบได้ เหตุดารณ์ที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่าตนตกใจมาก ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. สามีไม่เคยพูดถึงบังฟิต หรือไม่เคยเห็นพิรุธสามีแต่อย่างใด สำหรับสามีตนเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร เป็นเสาหลักของครอบครัว สามีทำงานเลี้ยงวัวกับบังฟิตประมาณ 10 ปี ส่วนครอบครัวบังฟิต ตนเองก็ไม่เคยพูดคุยกับเขา หรือเจอหน้าเขา อีกอย่างตนมีลูกสาววัย 10 ขวบที่ต้องดูแลอีกด้วย

930457

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กระบี่ ได้เข้ายึดรถแบ็กโฮต้องสงสัย ที่ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ต.หนองทะเล หลังพบหลักฐานมีความเกี่ยวเชื่อมโยงกับคดี ซึ่งมีพยานให้ข้อมูลว่าเป็นรถอีกคันที่ไปขุดหลุมฝังศพนายสุชาติในวันเกิดเหตุ พร้อมนำตัวคนขับ ชื่อนายแคง อายุ 30 ปี มาสอบปากคำ นอกจากนี้พิสูจน์หลักฐานก็จะทำการเก็บตัวอย่างรอยดินที่ติดตามตีนตะขาบ และที่ตักดินมาเปรียบเทียบกับดินที่จุดฝังศพนายสุชาติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนายแคง ตั้งแต่เวลา 14.00-16.00 น. และตำรวจได้กันตัวคนขับรถแบ็กโฮรายนี้เป็นพยาน

961658

ขณะที่บังพ่อ ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพยาน 2 คน ไปชี้จุดเพื่อหาหลักฐานที่จุดเกิดเหตุ พยานคนแรกคือบังพ่อคนเลี้ยงวัว พยานคนที่ 2 คือนายแคง คนขับรถแบ็กโฮ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวพยานทั้ง 2 คนออกจาก สภ.อ่าวนาง เพื่อไปชี้จุดเกิดเหตุของพยานแต่ละคน

โดยบังพ่อ พยานคนที่ 1 และเป็นคนเลี้ยงวัวให้กับบังฟิต รวมถึงเป็นคนที่เข้าไปซื้อน้ำส้มหยอดยางพารา จำนวน 2 ลัง พร้อมกับบังหนีในวันเกิดเหตุ เมื่อมาถึงร้านของบังฟิต บังพ่อได้ไปชี้จุดเพื่อหาหลักฐานในจุดที่ 1 ที่บริเวณขนำของบังฟิต อยู่ด้านหลังร้านบังฟิต และห่างจากร้านบังฟิต ประมาณ 300 เมตร โดยมีสวนยางพาราขั้นกลางระหว่างร้านและขนำ

772620

จากนั้นเวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายแคง คนขับรถแบ็กโฮไปชี้จุดเกิดเหตุที่มีการขุดดินฝังกลบรถยนต์ของนายสุชาติ ตำรวจได้จำลองให้นายแคงนำชี้จุดตั้งแต่ขับรถที่ใช้เข็นรถแบ็กโฮเข้ามายังสวนปาล์ม

820622

จากนั้นนายแคง ได้ขับรถไปชี้จุดบริเวณหลุมที่เจอรถนายสุชาติ เมื่อไปถึงบริเวณหลุมดังกล่าว นายแคงได้จำลองการขุดดินฝังกลบในวันเกิดเหตุ ช่วงค่ำของวันที่ 3 พ.ค. ซึ่งจะมีบังฟิตและพวกประมาณ 5 คนยืนอยู่ด้วย และทำการขุดถึงเช้าของวันที่ 4 พ.ค. นายแคงให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์ช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ค. จะมีแค่บังฟิตและพวกรวม 3 คนเท่านั้น

934360

จากนั้น บังพ่อไปชี้จุดฝังศพ จุดนี้บังพ่อให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุหลังจากซื้อน้ำส้มกรดมาแล้ว บังหนีได้ใช้ให้ตน กับผู้ชายอีก 2 คน ใช้จอบขุดดิน บังฟิตยืนดูเหตุการณ์ที่หลังรถกระบะคันสีขาว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั้วโมงในการขุด หลังขุดเสร็จก็ไปเลี้ยงวัวต่อ และตอนขุดดินจึงไม่เห็นศพ โดยจุดนี้บังพ่อได้จำลองการใช้จอบขุดดิน ให้เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมหลักฐานอีกด้วย

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส