เมียเสี่ยโกศลลุยเดี่ยวบุกจุดเผานั่งยาง ผงะกระดูกโผล่ หมอไม่ฟันธงชิ้นส่วนมนุษย์แนะญาติพิสูจน์ (คลิป)

จากกรณีภรรยาของนายโกศล ผู้สูญหาย ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่สามีไปดื่มเหล้าที่บ้านหลังดังกล่าว จึงไปตามถึงบ้าน แต่เจ้าของบ้านยังไม่ยอมออกมา สุดท้ายบอกว่าไม่ทราบว่าสามีไปไหนเพราะขณะนั้นกำลังนอนหลับ แต่ภรรยาผู้สูญหายสังเกตเห็นมีรอยเลือดเป็นทาง มีร่องรอยการล้างเลือดตามพื้นถนน มีรอยเลือดติดบนใบหญ้า แต่ไม่พบตัวสามี ซึ่งในวันดังกล่าวสามีได้สวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือหนัก 10 บาทออกไปด้วย ต่อมาตำรวจออกหมายจับ 8 รายแล้วนั้น

ญาตินายโกศลออกค้นหาร่างในทะเล ตามเบาะแสที่ชาวบ้านถ่ายภาพติดลักษณะคล้ายผ้าใบผูกติดกับเสาปูน ออกเรือประมงตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 64 เวลา 08.00 น. และกลับเข้าถึงฝั่งวันที่ 20 พ.ค. 64 เมื่อเวลา 16.00 น. แต่ไม่พบหลักฐานใด ๆ

วันที่ 21 พ.ค. 64 ครอบครัวเสี่ยโกศล ได้แบ่งปฏิบัติการค้นหาเบาะแสเป็น 2 รูปแบบ ทางบกไปค้นหาบริเวณแหลมซุย นางจินดาหรา ภรรยาเสี่ยโกศล และญาติกลุ่มของผู้หญิงรวม 6 คนร่วมค้นหา ทางทะเลไปค้นหาที่เกาะเสร็จ ห่างจากฝั่ง 5 กิโลเมตร อยู่ในเขตพื้นที่ตำบลพุมเรียง มีชาวบ้านและญาติกลุ่มของผู้ชาย 8 คนออกเรือ 1 ลำค้นหา

นางจินดาหรา วสินทรัพย์ ภรรยาของเสี่ยโกศล พร้อมกับญาติกลุ่มผู้หญิง ได้มุ่งหน้าออกตามหาตามเบาะแสที่ร่างทรงบอกกับภรรยาเสี่ยโกศลว่า ให้ไปค้นหาบริเวณป่าชายเลน หรือบริเวณแหลมซุย เมื่อทุกคนมีการสำรวจโดยรอบ พบกองเผาถ่านที่มียางรถยนต์ถูกเผา 2 กอง เป็นพื้นที่โล่งใกล้ริมทะเลฝั่งอ่าวไทย กองแรกมีรอยยางรถยนต์ถูกเผาเหลือเพียงแค่ลวดของยางรถ มีเศษไม้ถูกเผาดำเป็นตอตะโกมีเศษลักษณะสีขาวคล้ายกระดูกจึงได้มีการเก็บออกมา

ส่วนหนึ่งนำไปให้สัปเหร่อในหมู่บ้านช่วยวิเคราะห์ว่าเป็นกระดูกของมนุษย์หรือกระดูกของสัตว์ อีกส่วนหนึ่งได้นำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำไปตรวจสอบ ส่วนใกล้กันห่างออกไปประมาณ 10 เมตร มีกองเผานั่งยางอีก 1 กอง พบว่ามีการเผายางรถยนต์ไหม้ยังไม่หมดเหลืออีกครึ่งหนึ่ง ลักษณะของกองเผานั่งยางก็จะมีเศษกองไม้ถูกเผาเป็นถ่านดำเป็นตอตะโก ซึ่งทั้ง 2 กอง จะมียางรถยนต์ที่นำมาวางทิ้งเอาไว้ ใกล้ ๆ กองละ 2 เส้น รวมทั้งสิ้นที่ยังไม่ถูกเผาเป็น 4 เส้น

วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยเพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับกระดูกที่มีการเก็บขึ้นมาจากกองเผานั่งยาง โดยเบื้องต้นครอบครัวได้นำไปมอบให้กับสัปเหร่อในหมู่บ้านตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าเป็นกระดูกปลาขนาดใหญ่ เช่น ปลาวาฬ หรือปลากระเบน โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับทะเล อาจมีการนำซากปลาที่ตายขึ้นมาเผารวมกันก็เป็นไปได้ แต่กระดูกดังกล่าวไม่ใช่กระดูกของมนุษย์

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ให้ข้อมูลว่า จากการพบกระดูกชิ้นเล็กหลายชิ้น มีสีคล้ำ ซึ่งจะดูว่าเป็นกระดูกของมนุษย์หรือสัตว์นั้นค่อนข้างยาก ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง ต้องใช้เทคโนโลยีในการตรวจพิสูจน์ ถ้าหากกระดูกที่เกิดจากกระบวนการเน่าปกติ ช่วงแรกกระดูกจะมีสีขาว เวลาผ่านไปสีจะคล้ำขึ้น ซึ่งสามารถบอกระยะเวลาการเสียชีวิตได้

สำหรับวิธีการพิสูจน์ที่จะบอกได้ว่าเป็นกระดูกของมนุษย์หรือสัตว์ได้ คือการดูจากลักษณะของกระดูก ดูด้วยกล้องจุลทัศน์ จากความหนาแน่นของกระดูก และปริมาณแร่ธาตุในกระดูก หรือการตรวจ DNA แต่กระดูกที่เผาชิ้นเล็กอาจจะดูได้ค่อนข้างยากกว่ากระดูกที่มีชิ้นใหญ่

นางเขียว (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ ในฐานะคนเลี้ยงวัว อยู่บริเวณใกล้กับกองเผานั่งยาง เปิดเผยว่า กองเผานั่งยางดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์หรือคดีของเสี่ยโกศลถูกอุ้มฆ่า เพราะตนเองอยู่ในเหตุการณ์และเลี้ยงวัวอยู่บริเวณพื้นที่แห่งนี้ อยู่ในวันที่มีการเผาที่กองนั่งยางดังกล่าว มีชาวบ้านเข้ามาทำการปรับหน้าดินและถางเพื่อจะเตรียมเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ใช้ในการเกษตรหรือประโยชน์อื่น ๆ โดยใช้รถแบ็กโฮในการปรับหน้าดิน โค่นต้นไม้ที่เป็นหญ้ารกออก จากนั้นได้นำไปกองรวมกัน นำยางรถยนต์เป็นเชื้อเพลิงในการเผา นำยางรถยนต์ไปยัดเอาไว้ตรงกลางกอง กองละ 2-3 เส้นเป็นเชื้อเพลิง

ส่วนตัวในฐานะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี และในการเผาครั้งนั้นก็เป็นช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ไม่ได้มีการนำร่างของเสี่ยโกศลมาเผาที่บริเวณดังกล่าวแน่นอน และคนที่มีการปรับหน้าดินหรือจุดไฟเผา ก็ไม่ใช่เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของนายสุรัตน์ หรือเป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด