จับครบแก๊งบังฟิต! ปิดคดีอุ้มฆ่าเสี่ยสุชาติ เมียผวากระบะปริศนาโผล่ พ่อขอโทษเหยื่อแทนลูก (คลิป)

กรณีคดีสังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วน ที่ จ.กระบี่ ซึ่งก่อนนี้ตำรวจตามจับแก๊งร่วมก่อเหตุไว้แล้ว 2 ราย คือ นายวิรัตน์ ศรีหมาด หรือตั้ม และนายอาลิพ ช่างเรือ หรือ บังลิพ ต่อมานายสุริยา เริงสมุทร หรือ บังฟิต ติดต่อขอมอบตัวที่ สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ก่อนตำรวจนำตัวขึ้นเครื่องบิน มาถึง จ.กระบี่ นำตัวไปฝากคุมขังไว้ ล่าสุดมีการยึดอาวุธปืนหลักฐานไว้แล้วด้วยนั้น

วันที่ 24 พ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ติดตามความคืบหน้าของคดีของเสี่ยสุชาติที่ สภ.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เวลา 13.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เบิกตัวบังฟิตออกจากห้องขัง ไปยังห้องสอบสวนเพื่อให้รับทราบข้อกล่าวหา

นายสุรชัย เริงสมุทร หรือ กิบหลี, นายสุริยันต์ เริงสมุทร หรือ บังหนี เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ มีรถกระบะคันสีขาวมาส่งตัวทั้ง 2 คนที่หน้าโรงพัก แล้วขับออกไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวกิบหลี และบังหนีไปสอบสวนที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.อ่าวนาง ซึ่งทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล

นายสุมิตร รักโอ๋ กำนันตำบลหนองทะเล กล่าวว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 17.00 น. ญาติของกิบหลี และบังหนี ได้ติดต่อมาหาตนว่า กิบหลีและบังหนีขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเวลา 13.00 น. ของวันนี้ จากนั้นตนจึงได้ประสาน พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ เพื่อให้ทราบเรื่องดังกล่าว

กระทั่งเวลา 13.00 น. วันนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มามอบตัวตามเวลาที่นัดหมาย ทำให้ตนสบายใจมากยิ่งขึ้นที่ผู้ต้องหาทุกคนเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะบังฟิต ผู้ต้องหาที่มอบตัวก่อนหน้านี้ รวมถึงบังหนี และกิบหลี ก็เปรียบเสมือนลูกชายของตน ตนรู้อุ่นใจแทนครอบครัวของบังฟิต อุ่นใจแทนชาวบ้าน ที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว ชาวบ้านในตำบลหนองทะเลก็รู้สึกดีใจ คดีจะได้คลี่คลาย และชาวบ้านจะได้ทำมาหากินได้ตามปกติที่

โดยบังฟิตได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้ง 9 ข้อกล่าวหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและมีใช่กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการหรือเหตุแห่งการตาย, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประกระการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันเป็นช่องโจร และร่วมกันมีอาวุธปืนสงคราม

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวบังฟิตไปนั่งรอที่เก้าอี้ก่อนจะมีการฝากขัง ระหว่างที่บังฟิตนั่งอยู่นั้น ทีมข่าวสังเกตาบังฟิตมีสีหน้าที่นิ่งเฉย ส่วนที่ข้อมือด้านขวาของบังฟิต ไม่มีสายสิญจน์ผูกติดข้อมือแล้ว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวบังฟิตเดินไปขึ้นรถ EOD เพื่อคุมตัวบังฟิตไปที่เรือนจำ จ.กระบี่ ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามบังฟิตว่ามีอะไรอยากจะขอโทษครอบครัวคนตายหรือไม่ บังฟิตไม่ตอบคำถาม พูดสั้น ๆ ว่า "ผมขอให้การในชั้นศาลครับ"

เวลา 14.00 น. นายสุจิน เริงสมุทร พ่อของบังฟิต เดินทางมาที่ สภ.อ่าวนาง หลังจากที่บังหนีและกิบหลี ลูกชายทั้ง 2 คนเข้ามอบตัวกับตำรวจตั้งแต่เวลา 13.00 น. เปิดเผยว่า วันนี้ที่บังหนีและกิบหลีลูกชายทั้ง 2 คนของตนมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองก็รู้สึกสบายใจขึ้น ถ้าวันนี้ตนมีโอกาสได้เจอกับบังหนีและกิบหลี ตนก็อยากจะบอกลูกชายว่า "ไปอยู่ในเรือนจำก็ขอให้ร่างกายแข็งแรงนะ ตนเป็นห่วงลูกชายของตนทั้ง 3 คน"

ตอนนี้ตนก็ทานข้าวได้มากกว่าเดิม จากที่ทานข้าวไม่ได้มาหลายวันแล้ว ถ้าลูกชายตนก่อเหตุจริงก็อยากขอโทษครอบครัวคนตายแทนลูกชาย ส่วนเรื่องที่บังฟิตมีสายสิญจน์ที่ข้อมือ คิดว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ คิดว่าเป็นผู้อาวุโสในหมู่บ้านผูกสายสิญจน์ให้ และตอนนี้ตนก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนร้านค้าของบังฟิตจะกลับมาเปิดให้บริการเหมือนเดิม

เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นายสุจิน เริงสมุทร และภรรยา พ่อและแม่ของบังฟิต กิบหลี และบังหนี ขึ้นมาที่ห้องประชุมชั้น 3 ของ สภ.อ่าวนาง เพื่อให้เจอหน้ากับลูกชาย 2 คน โดยเจ้าหน้าที่ให้นายสุจินและภรรยาเจอกับหน้าลูกชายครั้งละคน คนละ 5 นาที เมื่อนายสุจิน และภรรยา เข้าไปในห้องประชุมชั้น 3 ได้เจอหน้ากิบหลีเป็นคนแรก โดยกิบหลีสวมเสื้อสีแดง กางเกงกีฬาสีเทา ซึ่งระหว่างที่พ่อแม่และลูกชายได้เจอหน้ากัน มีการทักทายพูดคุยกัน ส่วนแม่ของกิบหลีระหว่างอยู่ในห้องประชุม ได้ใช้มือด้านขวามาจับที่ต้นขาซ้ายของลูกชาย กิบหลีมีใบหน้าแววตาที่เศร้า

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุมตัวนายสุริยันต์ เริงสมุทร หรือ บังหนี มาในห้องประชุม เพื่อเจอหน้าพ่อแม่ บังหนีสวมเสื้อสีเทา กางเกงขายาวสีดำ ขณะที่บังหนีเจอหน้าพ่อและแม่ ผู้เป็นแม่ได้ใช้มือด้านขวามาจับที่ขาด้านซ้ายของบังหนีเช่นเดียวกัน ทั้ง 3 คนก็ได้มีการพูดคุยทักทายกัน มีจังหวะหนึ่งที่นายสุจิน ผู้เป็นพ่อได้ใช้มือมาโอบกอดที่คอของบังหนี 1 ครั้ง หลังจากเจอหน้ากันแล้ว เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวบังหนีไว้ในห้องขัง

เมื่อบังหนีเข้าห้องขัง นายสุจิน ผู้เป็นพ่อได้ยืนดูลูกชายที่หน้าห้องขัง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาบอกกับนายสุจินว่าขอทำตามหน้าที่ จากนั้นนายสุจินได้กล่าวหลังเจอหน้าลูกชายทั้ง 2 ว่า "ตนรู้สึกสบายใจขึ้นที่ได้เห็นหน้าลูกชาย ตอนเจอหน้าลูกชายทั้ง 2 ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก"

นางสาวน้ำค้าง ภรรยาของเสี่ยสุชาติ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ตนและญาติยื่นเรื่องขอคัดค้านการประกันตัวบังฟิต เพราะตนกลัวเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว ถ้าหากบังฟิตเขาได้รับการประกันตัว กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบอาวุธสงครามของบังฟิตและพวก ที่ซ่อนไว้ในเขาลูกไฟนั้น ตนก็ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะคิดว่าพวกเขาคงมีอาวุธสงครามพกไว้อยู่แล้ว

ทั้งนี้ ตนเองคิดว่าสามีคงถูกบังฟิตพร้อมพวกทำพิธีสะกดวิญญาณ หลังจากเสร็จคดีของสามีแล้ว ตนอาจจะไปเชิญหมอผีจากทางเขมรมาทำพิธีถอดถอนวิญญาณให้สามี เพื่อที่สามีจะได้ไปสู่สุคติ ตนอยากฝากถึงผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ ให้ออกมามอบตัว จะผิดจะถูกก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมาย

โดยช่วง 2 วันมานี้ก็มีคนในครอบครัวเห็นรถกระบะมาขับวนเวียนแถวบ้านตน ยืนยันว่ารถคันดังกล่าวนั้นไม่ใช่รถญาติของตน ซึ่งทำให้ตนเป็นห่วงความปลอดภัยของคนในครอบครัวมาก ส่วนตัวแล้วตนคิดว่าผู้ต้องหาน่าจะไม่ได้รับการประกันตัว เพราะตนถือว่าเป็นคดีที่อุกอาจ ที่บังฟิตให้การกับตำรวจว่าสามีตนจะไปขอยืมเงินกับเขาจำนวน 150,000 บาทนั้น เขาจะพูดอย่างไรก็ได้ ทุกอย่างตนขอไปสู้ต่อในกระบวนการทางกฎหมาย