ปิดคดีศพมัดมือเท้า ที่แท้ฝีมือญาติฆ่าหลานทาสยา ลุง - อารัดคอถ่วงน้ำยืนดูศพจม (คลิป)

กรณีพนักงานสอบสวนสภ.ทะเลน้อย รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตถูกพันธนาการ ใต้สะพานเฉลิมพระเกียรติข้ามทะเลน้อย หมู่ 2 บ้านคลองกลาง ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวหยุดชมควายน้ำ

ลึกลงไปจากสะพานถึงพื้นดินประมาณ 8 เมตร พบศพชายทราบชื่อภายหลังคือนายวรวิทย์ ช่วยมาก อายุ 32 ปี สภาพศพถูกมัดด้วยเชือกบริเวณข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง ทัดทับด้วยผ้าขาว บริเวณข้อมือทั้ง 2 ข้างถูกมัดด้วยเชือกไขว้หลัง ส่วนที่ลำคอถูกผูกด้วยผ้าขาวม้า คอหักหมุนได้รอบ จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล

วันที่ 25 พ.ค. 64 เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ร่วมกันแถลงข่าว

มีการจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วยนายวีระเดช ช่วยมาก หรือ กุ้ง ซึ่งเป็นอาผู้ตาย, นายสมคิด ช่วยมาก หรือ โคม ซึ่งเป็นลุงผู้ตาย, นายสมเกียรติ วระพันธ์ หรือก้อย ญาติผู้ตาย, นายวรากรณ์ รอดเนียม หรือ เอ็ม ญาติผู้ตาย พร้อมหลักฐานรถเก๋ง อัลเมร่า สีดำ ที่ใช้ในการก่อเหตุ

เวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง คุมตัวนายวีระเดช ช่วยมาก หรือกุ้ง ซึ่งเป็นอาผู้ตาย และนายสมคิด ช่วยมาก หรือ โคม ซึ่งเป็นลุงผู้ตาย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณสะพานเฉลิมพระเกียรติข้ามทะเลน้อย

ซึ่งจุดนี้ นายสมคิด ลุงผู้ตาย ได้ขับรถเก๋งสีดำนำนายนายวรวิทย์ ซึ่งขณะนั้นยังไม่เสียชีวิต แต่ถูกมัดมือมัดเท้าให้นอนราบที่เบาะด้านหลัง โดยมีนายวีระเดช อาผู้ตายนั่งเบาะหลังซ้ายมือ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุนายสมคิดจอดรถ และลงมาดูน้ำในคลอง ส่วนนายวีระเดช ใช้ผ้าขาวม้ารัดคอผู้ตายจนแน่นิ่ง มั่นใจว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะช่วยกันยกร่างนายวรวิทย์ลงมาจากรถ แล้วโยนทิ้งคลองในพื้นที่ทะเลน้อย จากนั้น นายสมคิดเดินขึ้นรถทันที ส่วนนายวีระเดช ยืนดูอยู่ประมาณ 5 นาที จนแน่ใจว่าร่างจมลงไปจึงเดินขึ้นรถนั่งเบาะข้างคนขับ ก่อนที่นายสมคิดจะขับรถกลับบ้าน

สำหรับมูลเหตุเกิดจากผู้ตายนำขวดแก้วไปขว้างหน้าบ้านยายพา ซึ่งเป็นพี่สาวของย่าผู้ตาย จากนั้นช่วงเย็นนายเอ็ม ลูกยายพา ได้มีปากเสียงกับผู้ตายเรื่องดังกล่าวแล้วชกต่อยกัน จากนั้นนายก้อย ลูกเขยยายพา และนายกุ้ง อาผู้ตาย ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ได้เข้าไปช่วยนายเอ็ม ส่วนนายสมคิด ซึ่งเป็นลุงผู้ตายอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่ไม่ได้ร่วมชกต่อย

โดยนายสมคิดขับรถออกจากที่เกิดเหตุไปข้างนอก จากนั้นประมาณ 30 นาที ทั้ง 3 คนช่วยกันมัดมือมัดเท้าผู้ตาย ก่อนโทรศัพท์ตามนายสมคิด บอกว่า "ไม่ไหวแล้ว ให้ช่วยนำร่างผู้ตายไปทิ้ง" ก่อนที่นายสมคิดจะขับรถเก๋งสีดำมาที่บ้าน กลุ่มผู้ต้องหาช่วยกันยกผู้ตายขึ้นรถบริเวณเบาะหลัง วางนอนยาวตามเบาะไป นายสมคิดเป็นคนขับรถ มีนายกุ้งนั่งในรถบริเวณเบาะหลังฝั่งซ้ายมือไปด้วย

โดยผู้ต้องหาอ้างว่าขณะที่ออกจากบ้าน นายวรวิทย์ยังไม่เสียชีวิต และมีเสียงร้องเล็กน้อย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุนายกุ้ง ผู้เป็นอา จึงใช้ผ้าขาวม้ารัดคอจนผู้ตายแน่นิ่ง คาดว่าเสียชีวิต แล้วจึงช่วยกันกับนายสมคิดโยนร่างผู้ตายลงไปในคลองทะเลน้อย

นายกุ้ง ผู้ต้องหารับสารภาพว่ารัดที่บริเวณคอเพียงผู้เดียว แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และยังไม่ชัดเจนว่าผู้ต้องหาตายที่จุดเกิดเหตุ หรือจุดทิ้งศพ จึงต้องรอผลตรวจทางนิติเวช

โดยนายสมคิด ระบุว่า ตนไม่ได้ตั้งใจนำร่างหลานชายมาทิ้งที่ทะเลน้อย แต่ขับรถมาเรื่อย ๆ แล้วคิดว่าน่าจะทิ้งตรงนี้ จึงลงจากรถแล้วดูลาดเลา เห็นว่าไม่มีรถขับผ่าน จึงตัดสินใจลงมือ

นายวีระเดช กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกเครียด ส่วนสาเหตุที่ลงมือเพราะทนไม่ไหวที่ผู้ตายมีนิสัยอันธพาล ชอบหาเรื่อง อาละวาดทำร้ายคนในครอบครัว วันเกิดเหตุผู้ตายอาละวาดขึ้นเสียงพูดมึง-กู กับนางพา ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของตน โดยนางพาเป็นโรคหัวใจด้วย และการก่อเหตุดังกล่าวไม่ได้เกิดครั้งแรก ตนรู้สึกทนไม่ไหวจึงก่อเหตุดังกล่าว

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาไปที่บ้านจุดเกิดเหตุ พบกับนางพา ญาติของผู้เสียชีวิตและญาติของผู้ต้องหา ซึ่งญาติให้กำลังผู้ต้องหาและไม่โกรธ หลังจากก่อเหตุถดังกล่าวขึ้น

ทั้งนี้ ผู้ตายเคยมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด 3-4 คดี และมีนิสัยเกเรกับญาติพี่น้อง จากการสืบสวนพบว่ามีร่องรอยการต่อสู้ที่บริเวณบ้าน จึงสามารถสืบสวนจนจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เป็นญาติพี่น้อง

นางสนิท ช่วยมาก ย่าของผู้ชีวิต ระบุว่า คนตายเป็นคนที่ชอบระรานคนอื่น เวลาที่เมายาเสพติดก็ทำร้ายคนแก่ ตนจึงอยากขอความเป็นธรรมให้คนก่อเหตุ เพราะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเอง จากโทษหนักก็ขอให้เป็นธรรม เพราะทุกคนที่ก่อเหตุทำไปก็เพื่อปกป้องญาติพี่น้องในบ้าน ไม่ให้มีอันตราย หากผู้ก่อเหตุไม่ช่วย คนตายก็จะทำร้ายทุกนในบ้านทั้งคนและสิ่งของในบ้านก็ถูกทำลายบ่อยครั้ง

ซึ่งก่อนจะมีการพบศพ มีชาวบ้านไปหาปลาในคลองดังกล่าว ใช้เรือเป็นพาหนะ แล้วพบเห็นร่างมนุษย์ติดแหจึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ จนนำไปสู่การตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด

นางพา พรมแก้ว แม่ผู้ต้องหา ระบุว่า ตัวเองรู้สึกไม่สบายใจ ประกอบกับเป็นโรคหัวใจ จึงไม่อยากเล่าเหตุการณ์ซ้ำ ๆ ตอนนี้คดีถือว่าจบแล้ว ตนก็ได้เข้าไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ส่วนเหตุการณ์ที่นายวรวิทย์ขว้างปาข้าวของใส่บ้านตนก่อนเกิดเหตุนั้น ตนไม่ขอให้ข้อมูลใด ๆ ทั้งนี้ญาติกำลังไปยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน แต่ไม่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะให้ประกันหรือไม่

เบื้องต้น แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพทางร่างกาย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบัง การเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย

พ.ต.อ.กอบโชค เล็กตระกูล ผกก.สภ. ทะเลน้อย ระบุว่า เบื้องต้นได้ทำการฝากขังผู้ต้องหาผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ตามมาตรการช่วงโควิด-19 ซึ่งญาติได้ยื่นประกันในชั้นศาลผ่านระบบวิดีโอคอลทั้ง 4 คน โดยได้ประกันเพียงรายเดียวคือ นายสมคิด ช่วยมาก หรือ โคม ลุงของผู้ต้องหา ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปส่งเรือนจำเพื่อฝากขังต่อไป