โมเดอร์นา เผยวัคซีนได้ผล 100% ในวัยรุ่น 12-17 ปี ลุ้นอนุมัติใช้ในสหรัฐฯ ก.ค.นี้

วันที่ 25 พ.ค.64 สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงาน บริษัทโมเดอร์นา ระบุว่าวัคซีน ​โมเดอร์นา มีประสิทธิภาพ 100% จากการศึกษาในวัยรุ่นช่วงอายุระหว่าง 12-17 ปี ซึ่งจะทำให้เป็นวัคซีนที่สองต่อจากวัคซีนไฟเซอร์ ที่มีการศึกษาพบว่าประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้ในกลุ่มคนอายุน้อย

ผลวิจัยพบ ไฟเซอร์ - โมเดอร์นา ต่อต้าน โควิดสายพันธุ์อินเดีย ได้

โมเดอร์นา เผย จะยื่นทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐในต้นเดือนมิถุนายนนี้ รวมทั้งหน่วยงานกำกับดูแลกิจการระดับสากลอื่นๆ เพื่อให้ได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้งานฉุกเฉินต่อไป หากได้รับการอนุมัติก็มีแนวโน้มที่จะขยายจำนวนการฉีดวัคซีนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายได้มากขึ้น พร้อมสำหรับปีการศึกษาหน้า ขณะที่ไฟเซอร์และไบโอเอนเทน ได้รับการอนุมัติฉีดวัคซีนให้กับวัยรุ่นอายุ 12-15 ปีแล้วในเดือนนี้

“เรามีผลที่สนับสนุนว่า mRNA-1273 มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ของเราในการช่วยยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19” สเตฟาน แบนเซล ซีอีโอของโมเดอร์นากล่าว

โมเดอร์นา ระบุว่า จากการศึกษาในเฟส 2/3 ซึ่งรวมวัยรุ่นมากกว่า 3,700 คน ไม่พบกรณีการติดเชื้อโควิดในกลุ่มผู้เข้าร่วมทดลองที่ได้รับวัคซีน ครบ 2 โดส ซึ่งบริษัทไม่พบข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ โดยพบผลข้างเคียงทั่วไปที่มักพบในการทดลองในวัยผู้ใหญ่ก่อนหน้านี้ เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และหนาวสั่น

ข้อมูลดังกล่าว มีขึ้นเพียงสามสัปดาห์หลังจากที่ บริษัทเปิดเผยในรายงานผลประกอบการว่าข้อมูลในช่วงต้นแสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 96% ในการป้องกันโควิดในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12- 17 ปีข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงจากผู้ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส

ทางบริษัทจึงใช้คำจำกัดความของไวรัสโควิด-19 ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ในการคำนวณตัวเลขดังกล่าว ต้องมีอาการเพียงอย่างเดียวและการตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก

หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ คาดว่าจะอนุญาตคำร้องของโมเดอร์นาเพื่อใช้ในวัยรุ่น ภายในเวลาประมาณหนึ่งเดือน ซึ่งทันกิจกรรมภาคฤดูร้อนและชั้นเรียนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หากโมเดอร์นายื่นข้อมูลได้ภายในต้นเดือนมิถุนายน ขณะที่ไฟเซอร์ ได้ยื่นเพิ่มเติมสำหรับในกลุ่มวัยรุ่นเมื่อ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้รับอนุญาตจาก FDA เมื่อวันที่ 10 พ.ค.

ทั้งนี้การฉีดวัคซีนในเด็ก ถูกมองว่ามีความสำคัญต่อการยหยุดยั้งการระบาด เนื่องจากภูมิคุ้มกันหมู่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากประชากรไม่ได้รับวัคซีนในจำนวนที่มากพอ หรือ 70-85% ของประชากร ซึ่งประชากรวัยเด็กคิดเป็นประมาณ 20% ของประชากรทั้งหมดในสหรัฐฯ นอกจากนี้การฉีดวัคซีนในเด็ก จะทำให้การเรียนแบบตัวต่อตัว การจัดกิจกรรมเรียนรู้ต่างๆ การเล่นกีฬา ศิลปะ สามารถกลับมาดำเนินการได้เร็วขึ้น

วัคซีนโมเดอร์นา ต.ค. ถึงได้ รพ.เอกชน แนะประชาชนฉีดวัคซีนรัฐไปก่อน

โจ ไบเดน แจก วัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์นา และอีก 2 ยี่ห้อดัง รวม 80 ล้านโดส ช่วยนานาชาติสู้โควิด