กรณีพนักงานสอบสวน สภ.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต อยู่ริมถนนสายบ้านควนรา-วิภาวดี ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต คือนายประเสริฐ ชูทรัพย์ อายุ 60 ปี สภาพนอนหงายอยู่ริมถนน แต่งกายด้วยเสื้อยืดคอปกสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสามส่วน สีเทา คาดเข็มขัดหนังสีดำ ไม่สวมรองเท้า สูงประมาณ 160 ซม. ผิวขาวลักษณะผมบางหน้าผากเถิก ที่ใบหน้ามีแผลฉกรรจ์ และศีรษะแตก เลือดไหลนองพื้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขปมใครฆ่าประเสริฐ? เจอฉุดสาว 9 คนไข่แล้วทิ้ง ญาติแฉตีหัวอริโยงสภาพศพ
- ฆ่าสยองหนุ่ม 9 เมียยิงหัวแทงซ้ำ รถปริศนาหิ้วศพทิ้ง ลูกช็อกเบอร์มือถือโผล่หลังพ่อตาย
วันที่ 28 พ.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบ้านควนรา-วิภาวดี รอบข้างเป็นสวนยางและสวนปาล์ม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ห่างออกมาประมาณ 600 เมตร ในช่วงเวลา 22.30-22.50 น. คืนวันที่ 25 พ.ค. 64 คาดว่าเป็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุ พบว่ามีรถขับผ่านประมาณ 4 คัน
คันแรกเวลา 22.36 น. ลักษณะคล้ายรถกระบะขับผ่านจุดเกิดเหตุผ่านกล้องวงจรปิด โดยเป็นการขับแบบช้า ๆ คันที่ 2 เวลา 22.40 น. รถเก๋งสีเข้มขับผ่านกล้อง มุ่งหน้าไปทางจุดเกิดเหตุ โดยขับด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเวลา 22.41 น. มีรถจักรยานยนต์ขับสวนรถเก๋งคันที่ 2 ออกมาจากจุดเกิดเหตุ ขับผ่านกล้องวงจรปิดไป และเวลา 22.44 น. มีรถเก๋งสีขาวขับผ่านจุดเกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว
ทีมข่าวเดินทางไปร้านตัดผมชาย ในตลาดท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นร้านที่นายประเสริฐเคยทำงาน สอบถามนายจักรพงศ์ ยุไร อายุ 53 ปี เจ้าของร้านตัดผม เล่าว่า ก่อนหน้านี้นายประเสริฐเคยเป็นช่างตัดผมอยู่ที่ร้านของตนประมาณ 8-9 เดือน จากนั้นเริ่มมีอาการป่วย มือเท้าชา ไม่สามารถทำงานได้ จึงขอออกไปพักรักษาตัวเมื่อประมาณ 6-7 เดือนที่แล้ว โดยนายประเสริฐบอกตนว่าหากอาการดีขึ้นจะกลับมาทำงานต่อ ขอให้ตนอย่าเพิ่งรับสมัครช่างคนใหม่ ซึ่งตนก็รอ แต่เขาก็เงียบหายไป กระทั่งมารู้ข่าวว่านายประเสริฐถูกพบเป็นศพ
ช่วงที่อยู่ร้านตนนายประเสริฐมาทำงานทุกวัน ด้วยความขยันขันแข็ง ช่วงแรกหลังเลิกเงินได้ไปอาศัยอยู่กับญาติ หลังจากนั้นตนได้พาไปเช่าบ้านอยู่ใกล้กับบ้านตน นายประเสริฐไม่เคยมีปัญหากับใคร ปกติหลังเลิกงานก็จะกินเหล้ากับตน แต่ไม่เคยแสดงพฤติกรรมไม่ดี ส่วนที่นายประเสริฐชอบเมาแล้วหาเรื่องนั้น ตนเคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่เคยเจอกับตัวเอง ส่วนข่าวที่บอกว่านายประเสริฐเคยก่อเหตุฟันผู้อื่น เพราะไม่พอใจเรื่องการพ่วงไฟนั้น ตนไม่รู้เรื่อง คิดว่าน่าจะเกิดเหตุมาจากที่อื่น เพราะนายประเสริฐเคยทำงานมาหลายที่
ทั้งนี้ นายประเสริฐเคยเล่าว่ามีภรรยา 9 คน และลูกอีก 9 คน แต่เจ้าตัวไม่กล้าไปอยู่กับลูกเพราะอายที่ไม่เคยเลี้ยงดู จึงขออยู่คนเดียวดีกว่า
ทีมข่าวเดินทางมายังสำนักสงฆ์หนองบัวเจริญธรรม อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ญาติจัดพิธีศพเป็นวันที่ 2 นางสาวจันทร์จิรา (สงวนนามสกุล) ลูกสาวจากภรรยาคนที่ 9 ของผู้ตาย ระบุว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบปากคำ เป็นการสอบถามรายละเอียดว่าพ่อออกจากบ้านไปวันไหน และเคยทะเลาะกับใครบ้าง ซึ่งตนก็ให้การไปตามความเป็นจริง ก่อนหน้านี้ที่พ่อมาอยู่กับตนเป็นเวลา 2 เดือน วันแรกที่เห็นพ่อตนดีใจมากวิ่งเข้าไปกอดพ่อ พร้อมบอกว่าต่อไปนี้ขอให้พ่อกลับมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งพ่อก็ตกลงว่าจะอยู่กับตน
ระหว่างนั้นพ่อก็พูดและหยอกล้อกับตนทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ตนตื่นนอน พ่อเดินเข้ามากอดแล้วพูดว่า "ลูกสาวพ่อตื่นเช้าจัง" พร้อมบอกว่า "พ่อมีความสุขที่มาอยู่กับลูก พ่อรักลูกมากนะ ลูกเป็นคนเดียวที่พ่อมีโอกาสได้อยู่ด้วยนานที่สุดเป็นเวลาถึง 2 ปี ต่อไปนี้จะอยู่กับลูกตลอดไป" ซึ่งตนก็แปลกใจ เพราะพ่อไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน จากนั้นพ่อก็บอกว่าจะยกที่ดินให้ตน เนื่องจากตนเป็นคนดูแลพ่อ ตนกับพ่อก็เริ่มเข้าไปเตรียมปรับหน้าดิน แต่รถขุดมีปัญหาจึงต้องหยุดไปก่อน
กระทั่งวันสุดท้ายคือ 22 พ.ค. ที่พ่อดื่มเหล้าหนัก ก่อนขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน แล้วไม่กลับมาอีกเลย ตอนนี้ตนยังไม่รู้ว่าพ่อถูกฆ่าเพราะประเด็นใด แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าพ่อของตนเจ้าชู้ ทิ้งลูกทิ้งเมียนั้น ตนมองว่าเหตุการณ์ในอดีตไม่สามารถแก้ไขได้ อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ขอให้ผ่านไป ตนรักพ่อเสมอ แม้ว่าพ่อจะไม่ค่อยได้ดูแล และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
นางธันยพร สังข์คร อายุ 36 ปี ลูกสาวนายประเสริฐ กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าแม่ของตนเป็นภรรยาคนที่เท่าไรของนายประเสริฐ เพราะแม่ไม่เคยพูดให้ฟัง เนื่องจากตั้งแต่เกิดมาตนไม่เคยเจอหน้าพ่อ รู้แค่พ่อชื่อประเสริฐ นามสกุลชูทรัพย์ ตามใบสูติบัตร เมื่อโตขึ้นก็พยายามสอบถามญาติ ๆ ว่าพ่อตนอยู่ไหน ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะอยากเจอพ่อสักครั้ง แต่ญาติบอกว่าไม่รู้ ซึ่งตนก็พยายามถามจากคนที่นามสกุลเดียวกันแต่ก็ไม่เจอ
กระทั่งวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา แม่ซึ่งบวชชีอยู่ที่อำเภอกิ่งวิภา โทรศัพท์มาบอกตนว่า "พ่อเสียแล้วนะ" แม่บอกว่าแค่อยากบอกให้รู้ ตนจึงบอกแม่ว่าขอไปงานศพพ่อเพื่อเคารพศพ ในวันนี้ได้ไปร่วมงานศพพ่อ เห็นพ่อครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในสภาพที่เสียชีวิตแล้ว ตนรู้สึกเสียใจมาก ที่ผ่านมาไม่เคยโกรธที่พ่อไม่ได้เลี้ยงดู นอกจากนี้ยังได้เจอญาติฝั่งพ่อ และพี่น้องต่างแม่ รู้สึกดีใจมาก เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีพี่น้องคนอื่นที่นามสกุลเดียวกัน
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ด่าพ่อนั้น ตนไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่สำหรับตนคือรักพ่อ ทั้งนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโหดเหี้ยมและรุนแรงมาก
นอกจากนี้ ลูกสาวคนเล็กได้เปิดคลิปที่ตัวเองถ่ายพ่อลง TikTok เป็นช่วงที่พ่อมาอยู่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งปกติตนเปิดร้านเสริมสวย โดยพ่อได้รับตัดผมชายด้วย
ส่วนคลิปที่ 2 เป็นคลิปช่วงที่ลูกสาวและพ่อไปปรับหน้าดิน โดยนายประเสริฐนั่งพักบนรถ ส่วนลูกเขยเดินแบกไม้ออกมาจากที่ดิน