แม่ “ฟลุ๊ค” จี้ 2 สายตรวจไล่กวดจยย.ทำลูกตายเปิดหน้ายอมรับ ปัดไม่เคยซุกกัญชาในรถ (คลิป)

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก Legened Thailand ได้โพสต์รูปภาพและข้อความ กรณีครอบครัวหนึ่งที่สูญเสียลูกชายจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจขี่รถตามประกบก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ พร้อมกับทวงถามความยุติธรรม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ เพิ่มเติม ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ล่าสุดวันที่ 30 พ.ค.64 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ชี้แจงยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ไม่ได้ถีบรถน้องฟลุ๊คตามที่เป็นกระแสข่าว แต่ระหว่างขี่รถไล่สกัดรถ น้องพยายามขี่เบี่ยงออกขวาทำให้รถเกี่ยวกันจนล้ม และตำรวจ 2 นายก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน โดยมีคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุเป็นหลักฐานยืนยัน

ทั้งนี้ เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 02.15 น. บริเวณถนนวิภาวดีขาเข้า มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงดินแดง จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ได้ความว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 2 นายออกตรวจตามปกติ จนมาพบชาย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 แต่ไม่สวมหมวกกันน็อก จึงเรียกให้หยุดและส่งสัญญาณด้วยไฟฉาย แต่ทั้งหมดไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ก่อนจะเร่งเครื่องหนีไปตามถนนวิภาวดีรังสิต

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ได้ขี่ตามมาทางด้านขวาและสั่งให้หยุดรถ แต่ทั้ง 3 คนกลับไม่ยอมหยุด ก่อนจะเบี่ยงรถออกขวาจนเบียดรถสายตรวจ ทำให้รถเกี่ยวกันล้มทั้ง 2 คัน ซึ่งตำรวจได้ช่วยกันปฐมพยาบาลและเรียกรถพยาบาลมารับ ก่อนจะทราบมีผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นรถในที่เกิดเหตุแล้ว พบสิ่งผิดกฎหมายบริเวณใต้เบาะที่นั่งของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวด้วย

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เพื่อพูดคุยกับ น.ส.นฤมล คำหาญ อายุ 39 ปี แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อเข้ามา และตนยังคงรู้สึกติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกของตนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต แต่ไม่มีใครติดต่อมาเข้ามา และมีแต่ผู้ปกครองด้วยกันที่ช่วยกันตามหา อีกทั้งยังผ่าพิสูจน์ศพโดยไม่ได้ขออนุญาต

ส่วนกรณีที่มีการแถลงว่า รถของลูกชายไปเบียดรถตำรวจจนเกิดอุบัติเหตุ ตนอยากจะได้กล้องวงจรปิดที่ชัดเจน เพื่อยืนยันว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งตอนนี้ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงไม่ถึง 50% เนื่องจากคำพูดของเพื่อนลูกชายซึ่งเป็นคนขับรถ ให้ข้อมูลว่า ขับรถมาคู่กันแต่ถูกรถของตำรวจเบียดจนเสียหลักล้ม

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ตำรวจพยายามเรียกแล้วแต่เด็กไม่ยอมจอด คาดว่าเด็ก ๆ น่าจะตกใจที่ถูกไล่ เลยบิดหนี ซึ่งการกระทำนี้ยอมรับว่าผิด ตนอยากจะให้ตำรวจที่ในวันนั้นออกมาแสดงตัว และอยากจะให้นำหลักฐานที่บอกว่ารถของลูกชายไปเบียดมาแสดงให้ดู สำหรับเรื่องของค่าเยียวยาทางครอบครัวยังไม่ได้คิด เพราะอยากจะทวงความยุติธรรมให้ลูกชายเสียก่อน 

ทีมข่าวเดินทางมาพูดคุยกับ เด็กชายภู อายุ 15 ปี เพื่อนสนิทของฟลุ๊คที่เล่นฟุตซอลด้วยกัน เปิดเผยว่า วันก่อนที่จะเกิดเหตุตนกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แต่ฟลุ๊คบอกกับตนว่าจะรอตนกลับมา และจะไปซื้อรองเท้าฟุตซอลด้วยกัน และจะร่วมซ้อมและไปแข่งด้วยกันอีกครั้ง 

ปกติฟลุ๊ค เป็นคนไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่ รวมถึงไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย เพราะเล่นฟุตซอลอย่างเดียว ที่รู้จักกันมา ฟลุ๊คเป็นคนดี เป็นคนรักเพื่อน ชอบช่วยเหลือเพื่อนเวลาเพื่อนยากลำบาก และเรียนดี เวลาเล่นบอลก็ใจเย็น เล่นเก่ง หาตัวจับยาก ตนยังรู้สึกใจหายและทำอะไรไม่ถูก คิดถึงเพื่อนมาก ๆ และยังฝันถึงเพื่อนทุกวัน ตนฝันเห็นว่าเขาใช้ชีวิตปกติ ขี่รถจักรยานยนต์มาเล่นฟุตบอลตามปกติ แต่ฟลุ๊คไม่ได้พูดอะไร