ลูกน้อง “เสก โลโซ” ห่วงป่วยไบโพลาร์ ใครรับยาให้ - “กานต์” เชื่อ เลิกแห่ดูไลฟ์สด จะหายเอง (คลิป)

วันที่ 15 ส.ค. 61 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก นะ โลโซ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ของ นะ โลโซ อดีตลูกน้องคนสนิท เสก โล โซ ศิลปินชื่อดัง โพสต์ข้อความว่า "หลังจากที่ทุกคน คงได้เห็นอะไร ๆ มากันมากพอแล้วทั้งการไลฟ์สด และโพสท์อะไรต่าง ๆ นานา ซึ่งดูแล้วมันมีความสุ่ม เสี่ยง ต่อคุกต่อตารางของเฮียมากผมบอกเลย.. ไม่มีใครห้าม ไม่มีใครปรามแกได้เลย ว่าให้หยุด หรือกล่าวพาดพิงให้คนอื่นเขาได้รับความเสียหาย แม้มันอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ตามแต่ สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้ทําให้แกได้ประโยชน์อะไรเลยนะ มีแต่จะทําร้ายแกไปในทางที่ไม่ดีมากกว่า ใน ฐานะที่ผมเคยเป็นอดีตลูกน้องคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ชิดแกมา ด้วยความรักและหวังดี ไม่อยากให้แกแย่ ยิ่งไปกว่านี้"

นอกจากนี้ นะ โลโซ อดีตลูกน้องคนสนิทของเสก โลโซ เปิดใจว่า เสก โลโซ เป็นคนดีมีเมตตา เจอใครที่เดือดร้อนก็จะช่วยเหลือ เมื่อเจอคนยากคนจน โดยตนเจอกับเสก โลโซ ครั้งล่าสุดตอนไปขึ้นศาลจังหวัดมีนบุรี เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตอนที่เจ้าหน้าที่ตํารวจบุกบ้านของพี่เสก ตนก็เข้าไปในการในฐานะพยานของพี่เสก หลังจากจบศาลก็พูดคุยกันปกติเหมือนพี่น้องกัน ยังคิดถึงและเป็นห่วงเสมอ ทั้งนี้ เท่าที่ตนสนิทกับพี่เสก เป็นคนจริงจังในการทํางาน มีกฎระเบียบที่เคร่งครัด พี่เสกตั้งใจทำงานมาก และเชื่อมั่นในตัวเองสูง

ทั้งนี้ นะ โลโซ กล่าวต่อว่า เสก โลโซ เคยติดเงินลูกน้องนาน 7 เดือน สมัยที่ตนอยู่กับเสก ตนเป็นคนวิ่งซื้ออาหารให้พี่เสกทุกมื้อ บางครั้งก็ต้องสํารองเงินออกไปก่อน เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตํารวจบุกมาที่บ้าน ตนก็ยังรอเงินอยู่ทุกวันนี้ นะ โลโซ ยืนยันว่า ตนเป็นคนขับรถพาพี่เสกไปรับยารักษาอาการไบโพล่าจริง ล่าสุดก่อนที่ตนจะออกจากงานที่ทําร่วมกับพี่เสก ตนก็เป็นคนไปรับยาและไปปรึกษาหมอ ซึ่งตอนนั้นพี่เสกต้องกินยาตลอด หากพี่เสกไม่ว่าง ก็จะให้ตนไปรับยาแทน แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครไปรับให้ ส่วนคนดูแลพี่เสกตอนนี้ มีอีฟเพียงคนเดียว แล้วก็จะมีพี่ดอน ที่เป็น รปภ. ช่วยวิ่งซื้อข้าวให้ สุดท้ายในฐานะที่เคยสนิท อยากบอกว่า การที่พี่เสกไลฟ์วิพากษ์วิจารณ์ พาดพิงถึงคนอื่นอยู่ในขณะนี้ บางส่วนตนก็เห็นด้วย แต่บางส่วนก็มองว่าไม่ควรทำ เพราะจะทําให้พี่เสกเสียหาย ตนอยากให้พี่เสก หันกลับมาดูแลตัวเองมากกว่า ทั้งในด้านธุรกิจ ทั้งงาน คอนเสิร์ต ด้านครอบครัวด้วย ส่วนที่พี่เสกไลฟ์พูดถึงปัญหาบ้านเมือง ตนมองว่าควรให้เป็นเรื่องของรัฐบาลจัดการดีกว่า เพราะในการปกครองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ก็มีรูปแบบในการบริหารอยู่แล้ว ไม่ต้องถึงพี่เสกก็ได้ เพราะพี่เสกพูดไปก็มีแต่คนมาว่าพี่เสก ตนสงสารพี่ เป็นห่วงพี่ อยากให้หยุดไลฟ์  

ด้าน ทัดดาว ตั้งตรงเจริญ หรือ ดาว ซินเดอเรลล่า อดีตศิลปิน บุคคลที่เสก โลโซ ได้กล่าวพาดพิงถึงว่าเป็นบุคคลที่ร้องเพลงให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า ขณะนั้นตนทำงานเกี่ยวกับสื่อและเปิดบริษัทเกี่ยวกับโปรดักชันและค่ายเพลง ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่คนไทยทะเลาะกัน มีการชุมนุมทางการเมือง อดีตนายกฯ จึงได้จ้างวานตนทำโปรเจกต์คอนเสิร์ตและเพลงที่ทำให้คนไทยรักกัน โดยจะให้ตัวแทนศิลปินต่าง ๆ ได้ร้อง ซึ่งตนก็ได้ติดต่อเสก โลโซ เพื่อให้ร้องเพลงและแต่งเพลงให้ โดยที่ตนก็ร่วมร้องด้วย ดังนั้น การที่เสก โลโซ ระบุมาแต่ชื่อของตนนั้นไม่ถูกต้อง เพราะยังมีศิลปินคนอื่น ๆ ที่จะมาร่วมร้องเพลงปลุกใจนี้อีกหลายคน ส่วนการที่แต่งเพลงให้ฟรีนั้น เสกเป็นคนพูดเองว่า "ถ้าให้พี่ทำเพลงพวกนี้แล้วเป็นเนื้อหาที่ดี เป็นเนื้อหาที่ทำให้คนไทยรักกัน ปลุกใจให้คนไทยสามัคคีกัน พี่ทำให้ฟรี" หรือถ้าอดีตนายกฯ มีการพูดคุยกับพี่เสกเป็นการส่วนตัวนอกรอบ ตนก็ไม่ทราบ ตอนนี้การไลฟ์สดของเสกเป็นกระแสอย่างมาก ตนก็รู้สึกตกใจที่ถูกพาดพิงถึง เมื่อก่อนเสกเป็นคนที่น่ารักมากกับศิลปินทุกคน เป็นคนเก่ง แต่ตอนนี้ดูเป็นคนอารมณ์รุนแรง เป็นห่วงและอยากให้เสกพักผ่อน ดูแลตัวเองบ้าง เพราะเสกเป็นเหมือนพี่ชาย แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้สนิทสนมเป็นพิเศษ แค่เคยร่วมงานกันจริงจังแค่โปรเจกต์เพลงปลุกใจนี้ครั้งเดียว ขอฝากถึงคนที่ติดตามไลฟ์สดว่าขอให้ดูเพลิน ๆ มีอะไรที่ไม่ดีก็ข้ามมันไป อะไรที่ดีก็นำมาใช้ ส่วนตนนั้นคงเตือนไม่ได้ ทุกอย่างที่เสกพูด คนสามารถดูและอัดเป็นหลักฐานได้ บางครั้งพูดออกมาอาจไม่ดีกับตัวเขาเอง

ขณะที่ นายแพทย์อภิชาติ จริยาวิลาส จิตแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันสังคมมีสื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียที่มีหลายคนออกมาแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ซึ่งในทางการแพทย์ไม่สามารถวิเคราะห์ว่าบุคคลใดป่วยเป็นโรคอะไรผ่านการรับชมผ่านสื่อได้ เนื่องจากไม่สามารถระบุได้ว่าบุคคลดังกล่าวมีความคิด อารมณ์ เป็นอย่างไร อีกทั้งกลุ่มอาการที่แสดงออกของคนยังมีหลายสาเหตุ ซึ่งอาการเหล่านั้นบางครั้งก็สามารถแสดงออกในคนปกติได้ ดังนั้นหากจะวิเคราะห์ต้องเป็นแพทย์ที่ได้เข้าตรวจบุคคลนั้น ๆ แต่ทั้งนี้ นพ.อภิชาติได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคไบโพล่าร์ว่า หลายคนเข้าใจผิดว่าโรคนี้ คนที่เป็นจะมีอาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ความจริงแล้วโรคนี้คือโรคอารมณ์ 2 ขั้ว ซึ่งเป็นโรคทางอารมณ์ที่เกิดจากสมองหลั่งสารเคมีบางอย่างออกมาไม่สมดุล สามารถแสดงอาการได้ทั้งด้านที่รู้สึกซึมเศร้า เซ็ง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ จนอาจถึงขั้นฆ่าตัวตาย อีกด้านหนึ่งคืออาการคึกเกินเหตุ หรือ แมเนีย อาการนี้จะส่งผลให้ผู้ป่วยพูดเยอะ มั่นใจในตัวเอง มีความคิดมากมาย ซึ่งหลายครั้งอาจจะดูไม่ออกว่าเป็นอาการของโรค อย่างไรก็ตาม อาการอารมณ์ 2 ขั้ว อาจอยู่เป็นสัปดาห์ บางรายอาการอยู่ได้นานถึง 3 เดือน ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์อีกด้านหนึ่ง หรือบางรายอาจจะกลับมาปกติก่อน ซึ่งอาการจะไม่ได้เปลี่ยนไปมาแค่เพียงระยะเวลาในหลักนาทีแน่นอน ทั้งนี้ ยืนยันโรคไบโพล่าร์ไม่ใช่โรคที่คิดไปเอง โรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรม พบได้ในบุคคลทุกวัย ไม่ว่าชายหรือหญิงมีอัตราเสี่ยงเป็นโรคได้เท่ากัน โดยพบผู้ป่วยในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 ของจำนวนประชากร ด้านการรักษา สามารถใช้ยาควบคู่กับการใช้จิตบำบัด โดยหากรู้ตัวเร็วและเข้ารับการรักษาเร็ว ก็จะมีอาการดีขึ้นรวดเร็ว ซึ่งผู้ป่วยโรคดังกล่าวต้องงดการดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติด เนื่องจากจะทำให้อาการของโรคแย่ลง หากใครป่วยเป็นโรคไบโพล่าร์ ต้องอย่าปล่อยอาการทิ้งไว้ เนื่องจากมีความอันตรายถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ ทั้งนี้ ยังสามารถโทรศัพท์ปรึกษาสายด่วนกระทรวงสาธารณสุข หมายเลข 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นางวิภากร ศุขพิมาย หรือ กานต์ อดีตภรรยาเสก เปิดเผยว่า การที่เสกเสพติดการไลฟ์สด น่าจะเป็นโรคชนิดหนึ่ง เช่น โรคหลงตัวเอง หรืออาจจะเกิดการเคยเสพยาเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์มาอย่างหนัก สิ่งเหล่านี้จึงไปทำลายสมอง อยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่านี่ไม่ใช่ตัวตนของเสก เสกเป็นโรคที่ต้องรักษาโดยจิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญ กานต์บอกว่า ขณะที่ยังอยู่ด้วยกัน เสกจะมีอาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเดี๋ยวซึมเศร้า ภายใน 1 ชั่วโมง สามารถเปลี่ยนอารมณ์ได้ 4-5 อารมณ์ มีความสุข 10 นาที ผ่านไปก็จะพูดเรื่องไม่ดี ตอนนี้ตนไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร ไม่รู้เขาจะหยุดเมื่อไร กำลังหาทางแก้ไขกันอยู่ ส่วนการที่เสกพูดพาดพิงบุคคลอื่นในไลฟ์สดนั้น คาดว่าน่าจะมาจากอาการหวาดระแวงคิดไปเอง ว่าคนนั้นคนนี้ทำไม่ดีกับตัวเอง ยกตัวอย่างอากู๋ที่ไม่ได้คุยกันมาหลายปี แล้วอยู่ ๆ เสกก็ด่าอากู๋ หรือแม้แต่นายพานทองแท้หรือทักษิณก็ไม่ได้เจอกันเลย เสกน่าจะระแวงหรือหลอน ประกอบกับโรคไบโพลาร์และอาการหลงตัวเองของเสก กานต์ยังบอกอีกว่าผู้ที่กำลังชมทีวีสามารถค้นหาดูได้ เป็นอาการของเสกทุกข้อ กานต์บอกว่า อดีตสามีเขาแฮปปี้ที่มีคนมาดูไลฟ์สด เขาเป็นคนรักชีวิตตัวเอง ไม่มีทางคิดสั้นอย่างแน่นอน คราวก่อนก็หนัก โศกเศร้าร้องไห้ กราบเท้าแม่ กราบเท้าพ่อ กราบเท้ากานต์ ตอนนี้ตนกลัวว่า ถ้าเขาชอบให้คนดูเขาแบบนี้ แล้วคนยิ่งไปดู กลัวว่าเสกจะไม่ยอมหยุดไลฟ์ ตอนนี้ยังหาทางออกไม่ได้ คาดว่าจะได้ทางออกใน 4-5 วัน ขนาดคนมาคอมเมนต์ให้ไปหาหมอ เขาก็ยังไม่สนใจ ตอนนี้เสกมีความสุข เขาไม่สนใจอะไร